รีเซต

ASPS เปิดโผหุ้น 4 กลุ่มมีกระแสเก็งกำไร-ปัจจัยบวกหนุน

ASPS เปิดโผหุ้น 4 กลุ่มมีกระแสเก็งกำไร-ปัจจัยบวกหนุน
ทันหุ้น
17 มกราคม 2565 ( 09:41 )
285
ASPS เปิดโผหุ้น 4 กลุ่มมีกระแสเก็งกำไร-ปัจจัยบวกหนุน

 

ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS เชื่อในสัปดาห์นี้ยังมีกระแสเก็งกำไรในหุ้น 4 กลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ ได้แก่ กลุ่ม EV, น้ำมันปาล์ม, กลุ่มหลักทรัพย์, กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนี้

 

1. กลุ่ม EV : วันที่ 25 ม.ค.65 ติดตามประชุมการประชุม ครม. Package มาตรการกระตุ้นการใช้การผลิต EV คาดการณ์รัฐจะมีมาตรการอาทิ ลดภาษีนำเข้าสรรพสามิต , ให้เงินอุดหนุนสูงสุด 1.5 แสนบาท ฯลฯ (ถือเป็นประเด็นที่เคยเกิดการเก็งกำไรในช่วงก่อนหน้า แต่นำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง) โดยรวมคาดจะเกิดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นผู้ผลิตแบตเตอรี่ EA PTT GPSC NEX กลุ่มนิคม AMATA WHA แนะนำ Trading

 

2. กลุ่มน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง : กระแสข่าวราคาสินค้าขึ้นในชีวิตประจำวันทั้ง หมู ไก่ ไข่ ฯลฯ ล่าสุด คือ ราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ ต.ค. 64 จนราคาเฉลี่ย ม.ค. 65 อยู่ที่ราว 53.9 บาทต่อ กก. (+12.6% จากราคาเฉลี่ย ธ.ค. 64) ถือเป็น Sentiment บวกในการเก็งกำไรต่อหุ้นน้ำมันปาล์ม ฝ่ายวิจัยไม่ได้ทำการศึกษา อาทิ UVAN, UPOIC,LST,UVAN,UPOIC, CPI อีกฝั่งนึงคาดส่งผลบวกต่อสินค้าทดแทนอย่างน้ำมันถั่วเหลือง (สัดส่วน 35% ของยอดขาย TVO) เช่นเดียวกับราคากากถั่วเหลือง(สัดส่วน 65% ของยอดขาย TVO) YTD เพิ่ม 21% จากราคาเฉลี่ย 4Q64 ประเมินเป็นปัจจัยหนุนต่อการดำเนินงาน TVO ในงวด 1Q65 เริ่มฟื้นตัวจาก 4Q64 ที่มีการหยุดสายการผลิตราว 1 เดือน ด้านราคาหุ้น TVO ตอบรับปัจจัยลบมากพอสมควร หลังราคาหุ้นปรับเพิ่ม 2.4% Laggard ถือว่าราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันปาล์มอย่าง LST, VPO, UVAN, ที่เพิ่มขึ้น 16.5%, 14.6%,10.5% YTD ตามลำดับ นอกจากนี้คาดหมาย Div yield ราว 4% - 5% ต่อปี(จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

 

3. กลุ่ม Commodity : วันศุกร์ที่แล้วเห็นหลายผลิตภัณฑ์ปรับขึ้น อาทิ ถ่านหิน: ราคาถ่านหินปรับขึ้นต่ออีก 6.5% หรือตั้งแต่ต้นเดือนปรับขึ้น 32.9%mtd โดยปัจจัยหนุนสำคัญมาจาก 1.) ความต้องการใช้ถ่านหินมีแนวโน้มปรับขึ้นสูงในช่วงฤดูหนาวช่วงต้นปี 2.) อินโดนีเซียมีแผนที่จะกำหนดห้ามส่งออกถ่านหินออกนอกประเทศในเดือน ม.ค. 2565 ทำมีความกังวลว่า Supply จะหายไปจากตลาด ถือเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มถ่านหิน เช่น BANPU, LANNA น้ำมันดิบ: วันศุกร์ปรับขึ้นราว 2% แตะระดับสูงสุดในรอบราว 4 เดือน โดยได้แรงหนุนจาก OPEC+ มีมติคงการปรับเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรล/วันในเดือน ก.พ. 2565 ซึ่งเป็นการตอกย้ำแผนของ OPEC+ ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเดือนละ 4 แสนบาร์เรล/วันไปจนถึงเดือน เม.ย. 2565 ประกอบกับตลาดเริ่มคลายความกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron โดยเชื่อน้ำมันที่ปรับขึ้นแรงเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่น-ปิโตร, เช่น PTTEP, PTT, TOP, PTTGC, IVL ยาง: ราคายางแผ่นและยางแท่งปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเท่ากัน 1.5% จากแนวโน้ม ความต้องการใช้ยางพาราฟื้นตัว ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เป็น sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อผู้ประกอบการยางพารา เช่น NER และ STA

4.กลุ่มหลักทรัพย์ (ฝ่ายวิจัยไม่ได้ทำการศึกษา) : คาดกระแสการเก็งกำไรยังมีต่อ เห็นได้จากราคาหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ทุกบริษัทปรับตัวขึ้นแรง และขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี (ดังตาราง) เนื่องจากตลาดคาดหวัง 1.) กระแสการที่บางบริษัทหลักทรัพย์จะหันไปทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) 2.)คาดหวังผลประกอบการจะออกมาโดดเด่น หนุนจากรายได้ค่านายหน้า-ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น สนับสนุนจากมูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นตลอดปี 2564 เพิ่มขึ้น 31%yoy และตลาดหุ้นไทยปรับขึ้น เห็นได้จากดัชนี SET Index สิ้นปี 2564 ปิดที่ 1656 จุด เทียบกับสิ้นปี 2563 ปิดที่ 1449 จุด 3.) ปัจจัยหนุนเฉพาะบริษัท อาทิ UOBKH ชนะประมูลพอร์ตสินเชื่อรายย่อยจากซิตี้กรุ๊ป ใน 4 ประเทศ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง