บทความนี้เรามาว่าด้วยเรื่องของความแฟนตาซีกันสักนิดนะครับคุณผู้อ่าน โปรดจินตนาการตามผมว่าจู่ๆวันหนึ่งได้มีมนุษย์ต่างดาวมาจากนอกโลก และพวกเขาก็ได้ใช้เครื่องมือบางอย่างดูดคำว่ารักออกไปจากชาวโลกทั้งหมด ทำให้พวกเรามวลมนุษยชาติไม่สามารถบอกรักกันได้ รู้สึกดีแทบตายแต่ปากมันก็ไม่มีเสียง ไอ้ครั้นจะใช้มือเขียนมือมันก็หงิกๆงอๆเขียนไม่เป็นคำ มันคงจะเป็นอะไรที่อึดอัดดีพิลึกนะครับ แต่รู้อะไรไหมครับว่าที่เกริ่นมาน่ะเป็นเรื่องของจิตวิทยาล้วนๆ ในโลกใบนี้ยังมีคนมากมายที่ไม่กล้าบอกรักกัน แล้วก็มีคนมากมายเช่นกันที่รักกันแทบตายแต่ก็สื่อสารกันไม่เข้าใจ คนหนึ่งคิดอย่างส่วนอีกคนก็คิดไปอีกอย่าง ประหนึ่งคลื่นวิทยุ Love wave ที่ไม่ยอมจูนคลื่นให้ตรงกัน และบทความนี้เราจะมาหาวิธีการแก้ปัญหากัน เราจะหาทางแก้ลำเจ้ามนุษย์ต่างดาวที่มันพรากความรักไปจากโลกให้ได้ ผ่านกระบวนการ 5 อย่างนี้! ให้มันรู้ไปสิครับว่ามนุษย์จะหมดปัญญา! 1. ใช้การสัมผัสปากบอกรักไม่ได้แต่เราสามารถกอด , จูบ , ลูบ , คลำ กันได้ ไม่ใช่เฉพาะในแง่ของหนุ่มสาว แต่ลองคิดถึงแม่ที่โอบกอดลูกด้วยความอ่อนโยน พ่อที่จูบหน้าผากลูกทุกครั้งหลังไปส่งลูกที่โรงเรียน แบบนี้ก็เป็นการแสดงออกซึ่งความรักได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? มนุษย์ต่างดาวคุณพลาดแล้ว!2. การซื้อของมีค่าให้ , การให้ของขวัญ , ให้ของที่ประทับใจ"รักแท้แพ้ความร่ำรวย" เคยได้ยินกันไหม วิธียอดฮิตที่ผู้ชายคนหนึ่งจะจีบผู้หญิงสักคนเขาไม่เอาแต่พร่ำบอกถึงความรักหรอก เขาไม่พูดด้วยซ้ำว่ารักเธอเท่าฟ้า รักเท่าน้ำทะเลมหาสมุทร แต่เขาจะตรงไปที่สิ่งของที่เธอชอบ สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังหรือสิ่งของที่มันมีค่าต่อจิตใจฝ่ายหญิง แล้วก็หาโอกาสมอบให้เธอแบบเหมาะๆในบรรยากาศดีๆ ไม่ต้องบอกรักสักคำเพราะสิ่งของได้พูดแทนทุกอย่างแล้ว ที่ดาวของพวกคุณคงไม่มีสิ่งนี้สินะคุณมนุษย์ต่างดาว 3. การให้เวลาเวลาคือความยุติธรรมเดียวของโลก ต่อให้คุณเป็นคนรวยล้นฟ้าหรือคนจนติดดินยังไงซะก็มีเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง/วันเท่ากัน เพราะฉะนั้นการที่คนๆหนึ่งหรือมนุษย์คนหนึ่งยอมมอบเวลาของตนเองให้แก่ใคร การยอมไปอยู่ใกล้ๆเขา , ยอมไปทำกิจกรรมร่วมกับเขา , หรือยอมทิ้งความสุขส่วนตัวเพื่อไปอยู่ให้อีกคนได้เห็น นั่นย่อมเป็นการให้ของมีค่าที่สุดที่เขามีแล้ว มีแต่คนที่รักกันมากๆเท่านั้นถึงจะยอมเสียสละขนาดนี้ได้ ทำให้ขนาดนี้ไม่ให้รักก็บ้าแล้ว ไม่จำเป็นต้องปริปากพูดคำว่า "รัก" สักคำก็ได้ คุณมนุษย์ต่างดาวครับดวงดาวของคุณหนึ่งวันมีกี่ชั่วโมงกัน? หนึ่งวินาทีมีค่าเท่าพวกเรารึเปล่า?4. การใช้คำพูด, พูดให้กำลังใจ, พูดปลอบใจบอกรักไม่ได้แต่ไม่ได้ห้ามพูดปลุกใจนี่! คนบางคนคำหวานเป็นล้านเป็นพันนั้นไร้ความหมาย สู้คำพูดที่ทำให้ฉุดคิดหรือคำวิจารณ์ที่ทำให้ชีวิตพัฒนาก็ไม่ได้ เพราะในสิ่งที่พูดออกมานั้นคนฟังเขาจะสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดี ความเป็นห่วงเป็นใย และการแคร์ในความรู้สึก คนที่พูดให้กำลังใจคนอื่นหรือพูดแต่เรื่องในแง่ดีจึงมักจะถูกตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเป็นคู่รักที่อยู่ด้วยกันแล้วถ้าอีกฝ่ายเอาแต่บ่นเอาแต่ด่า รับประกันได้เลยว่าความรักย่อมรอวันขาดสะบั้น! 5. การทำงานให้การกระทำเขาว่าสำคัญกว่าคำพูด ถ้าปากถูกทำให้บอกรักไม่ได้การอาสาจะช่วยงานที่อีกฝ่ายลำบากใจที่จะทำนี่แหละ ที่ใช้พิสูจน์รักแท้ได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นถ้าฝ่ายหญิงอยากจะเจรจาธุรกิจกับลูกค้าแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ ฝ่ายชายอาจจะเข้ามาทำงานในส่วนนี้ให้ หรือถ้าต้องทำสิ่งไหนที่แสนจะน่าเบื่อไม่อยากทำ อีกฝ่ายกลับขันอาสาเข้ามาแบบไม่อิดออดและเต็มใจ นั่นย่อมนำมาซึ่งความรักและความเห็นใจของอีกฝ่าย เป็นการมอบความรักให้แก่กันโดยไม่จำเป็นต้องพูดในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะอย่าลืมนะว่างานยากของเราไม่ได้แปลว่าสำหรับเขาจะไม่ยาก เราลำบากใจที่จะทำเขาก็อาจจะลำบากเหมือนกัน แต่เขาเสียสละตัวเองเพื่อเราอันนี้ต้องให้ใจสรุปสุดท้ายมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ได้นำความรักมาคืนมนุษย์โลกแต่อย่างใด แต่เป็นมนุษย์โลกเองต่างหากที่หาทางสร้างความรักขึ้นมาผ่านรูปแบบทั้ง 5 ที่อยู่ด้านบน สิ่งนี้ให้อะไรกับเรานอกเหนือจากความแฟนตาซีที่ผมประดิษฐ์ขึ้นรู้ไหมครับคุณผู้อ่าน? ผมเขียนบทความนี้เองแต่ผมเห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ นั่นก็คือ "ผมเห็นสาเหตุที่ทำให้คนเราทะเลาะกัน" เป็นไปได้ไหมครับว่าสาเหตุที่คู่ชีวิตทะเลาะกันไม่ว่าจะเป็นคู่รักต่างเพศหรือรักร่วมเพศ นั้นมาจากการตีความความรักของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน รักของคนหนึ่งอาจจะเป็นเลข 1 (การสัมผัส) เขากอดแฟนทุกวัน , หอมแก้มแฟนทุกครั้ง และทำแค่กับแฟนไม่เคยนอกใจ แต่ทว่าแฟนที่เป็นผู้หญิงกลับเป็นประเภทเลข 5 (การทำงานให้) เธอต้องการผู้ชายที่ออกจากบ้านไปหาเงินเข้าบ้าน ทำงานหนักเพื่อครอบครัวไม่ใช่คนที่เอาแต่จะฟัดจะหอม ถามว่าเลข 1 (การสัมผัส) เป็นการแสดงความรักไหม? แล้วเลข 5 (การทำงานให้) เป็นการแสดงความรักไหม? คำตอบคือ "เป็น" ทั้งคู่ สองคนนี้รักกันชัวร์ๆ แต่พวกเขาแค่มองความรักกันคนละแบบ แล้วพอมองต่างกันแบบนี้ก็นำมาสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน ชายก็เถียงว่าเขาไม่เคยนอกใจแสดงความรักตลอดเวลา ฝ่ายหญิงก็เถียงว่าแล้วทำไมไม่เคยออกไปหาเงินเพื่อครอบครัวบ้าง คนรักกันก็ต้องยอมทำเพื่อครอบครัวบ้างสิ! เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ! คุณผู้อ่านท่านไหนว่างๆก็ลองคิดเปรียบเทียบกับคู่ของตัวเองดู ว่าคุณเป็นเลขไหนและคู่ของคุณเป็นเลขไหน? ส่วนตัวผมเองนั้นต้องบอกเลยครับว่าค่อนข้างสบาย เพราะไม่มีคู่จะให้ตั้งคำถาม ผมทำมันทุกเลขนั่นล่ะครับแต่แค่ทำกับตัวเอง 1.ผมโอบกอดตัวเองเพื่อเช็คว่าร่างกายแข็งแรงไหม 2.ผมซื้อของกินอร่อยๆให้ตัวเองเวลาทำงานยากๆได้สำเร็จ 3.คนบ้าที่ไหนจะไม่ให้เวลากับตัวเองล่ะครับ 4.คำพูดนี่สำคัญปลอบใจตัวเองหน้ากระจกก็บ่อย 5.อาสาทำงานให้ ถ้าไม่ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองแล้วจะอยู่รอดในโลกใบนี้ได้ยังไงล่ะครับ เพราะฉะนั้นการ(ยัง)ไม่มีคนรัก ก็ไม่ได้แปลว่าห้ามรักตัวเองนี่นาผมว่าบางทีที่มนุษย์ต่างดาวดูดความรักของพวกเราไป เขาอาจจะกำลังตั้งใจสอนบทเรียนนี้ให้แก่มนุษย์โลกอย่างเราอยู่ก็เป็นได้นะครับ เครดิตข้อมูลข้อมูลประกอบ จาก Julie Nguyen / mindbodygreen.comเครดิตรูปภาพรูปหน้าปก โดย Ketut Subiyanto จาก Pexelsรูปที่ 1 โดย Stanley Morales จาก Pexelsรูปที่ 2 โดย Kim Stiver จาก Pexelsรูปที่ 3 โดย Miguel Á. Padriñán จาก Pexelsรูปที่ 4 โดย Shiny Diamond จาก Pexelsรูปที่ 5 โดย Ketut Subiyanto จาก Pexelsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !