เปิดตัวไปเป็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPhone 17 Series ที่ครั้งนี้ทาง Apple เข้าจัดมาให้ถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 17, iPhone 17 Pro และ iphone 17 pro max apple และสำหรับรุ่น Plus ในปีนี้ก็ไม่ได้ไปต่อ แต่เขาหันไปพัฒนา iPhone Air แทน ซึ่งเป็นมือถือที่จัดว่าอยู่ในแรงค์เดียวกันกับรุ่น Pro และสิ่งที่ฮือฮาไม่แพ้กับ iPhone Air ในปีนี้ ก็ต้องขอยกให้กับ iPhone 17 pro max รุ่นนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากที่เขาจะมาพร้อมสีใหม่ ครั้งนี้ราคาเขายังพุ่งไปไกลจนเกือบหลักแสนบาทแล้ว ซึ่งจะเป็นเพราะอะไรนั้น เราจะมาพรีวิวให้อ่านกันค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=_-AS5DtDeqs สเปค iPhone 17 Pro Max iPhone 17 Pro Max ถือว่าเป็น iPhone รุ่นท้อปสุดของซีรีส์ 17 ที่มาพร้อมความจุ 4 ขนาด คือ 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB ที่จัดว่าเป็นความจุที่มีราคาสูงที่สุดในซีรีส์นี้ โดย iPhone 17 Pro Max มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว จอภาพแบบ Super Retina XDR พร้อมเทคโนโลยี ProMotion จอภาพแบบติดตลอด และ Dynamic Island แบบใหม่เฉพาะใน iPhone 17 Pro และ Pro Max และความสว่างสูงสุด 3,000 nits ตัวกรอบจากเดิมที่ iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ได้ถูกอัปเกรดไปใช้วัสดุเป็นไทเทเนียมเพื่อความพรีเมียม และความแข็งแรงทนทานยิ่งกว่า แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาความร้อน ดังนั้นในครั้งนี้ Apple จึงได้ปรับเปลี่ยนให้ iPhone 17 Pro และ Pro Max กลับไปใช้วัสดุอะลูมิเนียมเหมือนที่ผ่านมา ความหนา 8.75 มม. และน้ำหนัก 231 กรัม ใครที่เคยใช้มือถือรุ่นธรรมดา หรือรุ่น Plus มาก่อนก็อาจจะยังไม่ชินเท่าไหร่ เพราะรุ่นนี้ถือว่ามีน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่ iPhone มีมา และในส่วนของด้านหน้าใช้วัสดุแบบ Ceramic Shield 2 ที่ทนต่อการขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า และด้านหลังใช้วัสดุ Ceramic Shield จึงให้ความทนทานที่มากกว่ากระจกผิวด้าน (Textured matte glass back) ใน iPhone 16 Pro Max ในส่วนของกล้องรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ระบบกล้อง Fusion Pro 48MP โดยกล้องหลัก Fusion, เลนส์อัลตร้าไวด์ Fusion และเลนส์เทเลโฟโต้ Fusion ซึ่งทั้งหมดจะเป็นความละเอียดเดียวกันคือ 48MP พร้อมดีไซน์ฐานเลนส์กล้องแบบใหม่ Ultra High Resolution photos (ภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ) ที่ 24MP และ 48MP รวมไปถึงการถ่ายวิดีโอ Dolby Vision (HDR) สูงสุด 4K ที่ 120 fps พร้อมระบบตัวเลือกการซูมแบบออปติคัลสูงสุดถึง 8X กล้องหน้าก็ต้องบอกว่า Apple เขาอัปเกรดมาให้แบบยกทั้งซีรีส์ โดยกล้องหน้า 18MP สามารถปรับภาพถ่ายให้เป็นแนวนอนได้ มาพร้อมเทคโนโลยี Center Stage ที่จะช่วยจัดให้คุณอยู่ตรงกลางเฟรมระหว่างการวิดีโอคอลหรือบันทึกวิดีโอ และขณะถ่ายรูป อีกทั้งเขายังมีเทคโนโลยี Multi-Cam Recording (การบันทึกกล้องหลายตัวพร้อมกัน) ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอกล้องหน้าแบะหลังพร้อมกัน และสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ส้มคอสมิก สีใหม่ประจำรุ่นที่บางคนก็ชอบ บางคนก็อาจจะอยากขอผ่านก่อน ราคา iPhone 17 Pro Max 256GB ราคา 48,900 บาท 512GB ราคา 56,900 บาท 1TB ราคา 64,900 บาท 2TB ราคา 80,900 บาท https://www.youtube.com/watch?v=AvFMrroRkRk มุมมองส่วนตัวของผู้เขียน ในมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนที่มีต่อ iPhone 17 Pro Max ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องดีไซน์ ส่วนตัวแล้วอาจจะยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนมี MagSafe ติดอยู่ด้านหลังของตัวเครื่องตลอดเวลา แต่ถ้าถามว่าดีไซน์แบบนี้เป็นดีไซน์ที่สร้างเอกลักษณ์และภาพจำของรุ่นได้ไหม ก็ต้องบอกเลยว่าครั้งนี้เขาทำสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี หลังจาก iPhone XS Max เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ iPhone 11 Pro Max จนถึง iPhone 16 Pro Max ดีไซน์ของเขาแทบจะคงเดิม และมีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ในส่วนของสเปค หลายคนก็อาจจะคิดเหมือนกันว่า รอบนี้เขาก็ยังคงกั๊กอยู่เหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหน้าจอ กล้อง หรือแม้แต่ความละเอียดของวิดีโอที่รองรับ ในขณะที่เพื่อนบ้านเขาไปไกลแล้วแต่ Apple เหมือนจะอัปเกรดมาให้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องของน้ำหนักที่Samsung Galaxy Z Fold7 มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 215 กรัมเท่านั้น และหากปัจจุบันคุณใช้มือถือรุ่น Pro Max ของ Apple อยู่แล้วรู้สึกว่าหนัก ใช้งานนาน ๆ ไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มือเล็ก การใช้งานใน iPhone 17 Pro Max ก็อาจจะทำให้เจอปัญหาเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักของตัวเครื่องได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ความพึงพอใจในการเลือกใช้มือถือก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งนี่ก็เป็นความคิดเห็นบางส่วนของผู้เขียนเท่านั้น แต่ถ้าใครมีแพลนที่จะอยากเปลี่ยนมือถือใหม่อยู่แล้ว และกำลังเล็ง ๆ iPhone รุ่นนี้ไว้อยู่ คุณก็สามารถจองล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 19:00 น. และ เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 นี้ ใครที่อยากเป็นเจ้าของก็สามารถเข้าไปทดลองสัมผัสของจริงได้ที่ศูนย์บริการได้เลย เครดิตภาพปก/ภาพประกอบ/วิดีโอ ภาพปก: Apple ภาพประกอบ: Apple วิดีโอ: Apple: วิดีโอที่1 / วิดีโอที่2 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !