เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยทราบกันว่า ในภาษาอังกฤษนอกจากคำที่มีความหมายว่า 'ข้าวโพด' คือคำว่า คอร์น (Corn) แล้ว ชาวอังกฤษและหลายประเทศในยุโรปยังเรียกข้าวโพดว่า เมซ (Maize) แน่นอนว่าภาษาอังกฤษแบบอเมริกันกับภาษาอังกฤษแบบบริติช มีหลายคำที่สะกดและอ่านออกเสียงแตกต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกัน บทความนี้จึงขอยกตัวอย่างคำว่า Corn กับ Maize เพื่อพาผู้อ่านไปท่องประวัติศาสตร์ ไปค้นหาถึงที่มาที่ไปกันเลยว่า ทำไมชาวอเมริกันกับชาวอังกฤษถึงเรียกแตกต่างกัน เผื่อวันหน้าใครมีโอกาสได้ไปเยือนทั้งสองประเทศ เวลาจะสั่งเมนูข้าวโพดจะได้สั่งให้ถูกต้อง ไม่งงทั้งเราและเจ้าของภาษาก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า ข้าวโพดเป็นพืชดึกดำบรรพ์ที่มีมาตั้งแต่หกพันปีก่อน ตามบันทึกของชาวอินเดียนหรืออินเดียแดงที่เรารู้จัก (Indian) ได้ริเริ่มปลูกหญ้าป่าที่มีฝักคล้ายข้าวโพดเรียกว่า เธโอซินเท (Theosinte) และเชื่อว่าข้าวโพดที่เรารับประทานกันในปัจจุบันก็มีต้นกำเนิดมาจากหญ้าป่าเธโอซินเทนี่เอง ดังนั้นจากหลักฐานที่นักประวัติศาสตร์พอจะสืบค้นได้ ต่างสรุปกันว่าข้าวโพดเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา และน่าจะเป็นพืชหลักที่ชาวพื้นเมืองแถบนั้นนำมาทำอาหาร ทำแป้ง และเพาะปลูกเอาไว้เป็นอาหารสัตว์ด้วย และจากต้นกำเนิดดังกล่าว ก็ไปสอดคล้องกับชื่อเรียกที่แตกต่างกันของอังกฤษและสหรัฐอเมริกาด้วย ไปหาคำตอบพร้อมกันจากเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ถ้าจะหาคำตอบว่าทำไมชาวอังกฤษจึงเรียกข้าวโพดว่า เมซ (Maize) เราต้องย้อนกลับไปยังศตวรรษที่ 15 ใช่แล้วเรากำลังพูดถึงยุคสมัยแห่งการสำรวจผืนทวีปใหม่บนโลก ต้องบอกว่าทวีปอเมริกาที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) กล่าวอ้างว่าเขาเป็นผู้ค้นพบคนแรก ผืนทวีปอเมริกาก็เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณมาก่อน นั่นคืออารยธรรมอินคา (Inca) แอซเท็ก (Aztec) และมายา (Maya) แน่นอนว่าคนโบราณต้องอาศัยทรัพยากรธรรมชาติในการดำรงชีวิต มีการเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชแล้ว ดังนั้นเมื่อชาวยุโรปไปพบพืชแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็จะตั้งชื่อให้พืชเหล่านั้น โดยอาจจะอิงตามสิ่งที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้ หรืออีกวิธีหนึ่งคือสอบถามจากชาวพื้นเมืองว่าพืชชนิดนั้นเรียกว่าอะไรดังนั้นเมื่อโคลัมบัสกับคณะนักเดินเรือชาวยุโรปไปเจอข้าวโพดที่ชาวพื้นเมืองปลูกเอาไว้บนทวีปอเมริกา จึงได้รู้ว่าชาวพื้นเมืองเรียกข้าวโพดว่า มาฮิซ (Mahiz) แต่ด้วยความที่คำดังกล่าวมันดันออกเสียงเป็นภาษาพื้นเมือง พวกนักเดินเรือจึงออกเสียงเพี้ยนเป็น มาอิซ (Maiz) และแน่นอนว่าการออกเดินเรือไปพบทวีปอเมริกาของโคลัมบัสในครั้งนั้น นอกจากจะหอบหิ้วเอาทองคำและแร่มีค่าของชาวพื้นเมืองกลับมาได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เขียนเคยเขียนเอาไว้ในบทความชื่อ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส กับด้านมืดที่ตำราไม่ได้สอน คณะเดินเรือยังได้นำพืชพรรณธรรมชาติไปทดลองปลูกในราชสำนักสเปน โปรตุเกส และอังกฤษอีกด้วย ดังนั้นข้าวโพดจึงเป็นที่รู้จักไปทั่วยุโรป ชาวยุโรปรู้จักข้าวโพดในชื่อ มาอิซ (Maiz) แต่คราวนี้ชาวอังกฤษก็มีการออกเสียงที่เป็นอัตลักษณ์ของชาติตัวเอง จึงทำให้สะกดและออกเสียงเพี้ยนไปเป็น เมซ (Maize) ตั้งแต่นั้นมาชาวอังกฤษจึงเรียกข้าวโพดว่าเมซมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันส่วนคำว่า คอร์น (Corn) ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน เป็นเรื่องของรากศัพท์แต่ก็มีความซับซ้อนอยู่พอสมควร อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือคำว่า Corn มาจากรากศัพท์ภาษาละตินคือ Granum อ่านว่า กรานุม แปลว่า ธัญพืช ซึ่งคำนี้แตกย่อยไปได้อีก จาก Granum กลายเป็น Kranum และท้ายที่สุดกลายเป็น Korn และ Corn แต่ไม่ว่าจะคำไหนก็แปลว่า ธัญพืช ด้วยกันทั้งหมด ยังไม่เจาะจงว่า Corn แปลว่า ข้าวโพด ประมาณว่าข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ ก็เรียกมันว่าข้าวด้วยกันทั้งหมด ชาวอเมริกันจึงเรียกธัญพืชทุกอย่างว่า คอร์น (Corn) ก่อนที่จะมีการคืดชื่อธัญพืชชนิดอื่น ๆ ตามมาภายหลังระยะนั้นเริ่มมีชาวอังกฤษที่อพยพย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยในทวีปอเมริกา ชาวอังกฤษพยายามปรับตัวให้เข้ากับภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน แม้พวกเขาจะรู้จักข้าวโพดในชื่อ เมซ (Maize) แต่คนอเมริกันเรียกข้าวโพดว่า คอร์น (Corn) ระยะแรกชาวอังกฤษจึงเรียกข้าวโพดว่า อินเดียนคอร์น (Indian Corn) ตามที่ได้เล่าไปตอนแรกว่าชาวอังกฤษรู้ว่าข้าวโพดมาจากหญ้าป่าเธโอซินเทที่ชาวอินเดียนหรืออินเดียแดงปลูกเอาไว้ เมื่อระยะเวลาผ่านไป จากอินเดียนคอร์น (Indian Corn) จึงถูกตัดทอนให้สั้นลง เหลือเพียงคำว่า คอร์น (Corn) ที่เราคุ้นเคยกันดีในทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่ว่าคนอเมริกันไม่รู้จักเมซ คนอังกฤษไม่รู้จักคอร์น เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลานึกนานหน่อยเพราะเป็นคำที่แต่ละถิ่นไม่คุ้นเคย ดังนั้นเราจะไปไหนก็อย่าลืมพูดให้ถูกต้องกันด้วยล่ะเครดิตรูปภาพ- รูปภาพหน้าปก โดย Meritt Thomas : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 1 โดย Christophe Maertens : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 2 โดย Nosolomarcas : PIXABAY- ภาพประกอบที่ 3 โดย Well Cabral : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 4 โดย Julian Mora : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 5 โดย Holly Deckert : UNSPLASHเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่- The History of the world according to corn - Chris A. Kniesly : TED-Ed