ในบทความนี้ผู้เขียนมีสมุนไพรโบราณชนิดหนึ่ง มาบอกเล่าถึงสรรพคุณและความประทับใจที่เคยใช้มาเมื่อครั้งสมัยเด็ก คิดว่าชื่อของสมุนไพรชนิดนี้คงไม่เป็นที่คุ้นหูของหลาย ๆ ท่านเท่าไรนัก เพราะในปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็นอยู่ทั่วไปแล้ว ผิดกับสมัยผู้เขียนเด็ก ๆ ที่เห็นสมุนไพรหลายชนิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามท้องไร่ท้องสวนบ้าง หรือตามป่าเขาใกล้ ๆ บ้าน ในสมัยนั้นปู่ของผู้เขียนก็จะนำสมุนไพรต่าง ๆ มาใช้เป็นยารักษาโรคและยาบำรุงกำลังอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็ได้ผลดีไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันและไม่ทำให้มีสารตกค้างในร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย สำหรับสมุนไพรที่ผู้เขียนจะนำเสนอในบทความนี้คือ “กำลังกระบือ” สมุนไพรพื้นบ้านโบราณที่มีสรรพคุณมากมายภาพถ่ายโดยผู้เขียน“กำลังกระบือ” หรือ “ลิ้นกระบือ” หรือ “กระบือเจ็ดตัว” มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก กิ่งมีการแตกสาขาออกเป็นจำนวนมาก มีรูอากาศตามผิวกิ่ง ที่บริเวณกิ่งจะมียางสีขาวข้น เปลือกของลำต้นมีสีแดงอมม่วง สามารถทนสภาพแห้งแล้งได้ดี นิยมนำมาปลูกในกระถางสำหรับตกแต่งสวน ออกเรียงสลับเวียนรอบกิ่งหรือออกตรงข้าม รูปใบหอกหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยตื้นๆ หลังใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบเรียบสีม่วงแดงเข้ม อกระจะออกตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็กสีเหลืองอมเขียว ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้นกัน ออกตามซอกใบหรือปลายยอด ช่อดอกเพศเมียอยู่ส่วนล่าง ส่วนปลายด้านบนเป็นดอกเพศผู้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนสรรพคุณของ “กำลังกระบือ” สามารถนำมาใช้รักษาอาการต่าง ๆ ได้คือ ถอนพิษสำแดง แก้ร้อนใน ขับเลือดเน่าเสีย ขับน้ำคาวปลาหลังคลอด รักษาบาดทะยัก ดับพิษร้อนใน แก้ฟกบวม ถึงแม้ว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้จะมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง แต่การนำมาใช้ต้องศึกษาวิธีการใช้ให้ดีเสียก่อน เพราะตัวน้ำยางของต้น “กำลังกระบือ” นั้นมีพิษมากหากใช้ไม่ดีจะมีอันตราย คนสมัยก่อนมักจะนำน้ำยางของ “กำลังกระบือ” มาใช้เบื่อปลาเวลาจับปลาภาพถ่ายโดยผู้เขียนเมื่อครั้งสมัยเด็ก ๆ ผู้เขียนเห็นมีต้น “กำลังกระบือ” ขึ้นเป็นพุ่มไม่สูงนักอยู่ที่ท้ายสวน 5 พุ่ม มักจะเห็นปู่ตัดกิ่งที่แก่ของมันมาแกะเอาเนื้อไม้ล้าง หั่น และทุบตากแดดไว้จนแห้ง หากต้องการใช้ก็จะนำมาต้มเป็นยา ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ารสชาติจะขมเฝื่อน ๆ สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยก็ดื่มยาก และเมื่อมีคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียงมีอาการเจ็บป่วย ปู่ก็จะนำยาต้ม “กำลังกระบือ” ให้ดื่มก็จะหายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็น อาการร้อนใน หรือใช้ในการถอนพิษไข้ต่าง ๆ ผู้เขียนจำได้ว่าครั้งหนึ่งน้าสะใภ้ของผู้เขียนคลอดลูกใหม่ ๆ แล้วยังมีเลือดเสียค้างอยู่ในมดลูก ปู่ก็ได้นำใบสด “กำลังกระบือ” ประมาณหนึ่งกำมือ ตำกับเหล้าขาวใส่เกลือเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำให้ดื่ม วันละครั้ง ภายใน 3 วัน ก็สามารถขับเลือดเสียและทำให้เลือดไหลเวียนตามปกติ ปู่ยังบอกอีกว่าหากนำใบ “กำลังกระบือ” มาตากแห้งแล้วนำไปต้มดื่มเป็นชา ก็จะช่วยดับพิษร้อน รักษาโรคกษัย และแก้ไข้ได้ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการนำ “กำลังกระบือ” มาใช้แบบง่าย ๆ จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเคยพบมา แต่ที่จริงแล้วสรรพคุณของ “กำลังกระบือ” ยังมีอยู่มากสามารถนำไปผสมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อทำเป็นตัวอย่างรักษาอาการต่าง ๆ ได้อีกหลายโรค และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนให้ที่ทำให้ทุกท่านหันมาสนใจในคุณประโยชน์ของสมุนไพรพื้นบ้านไทยมายิ่งขึ้น เพื่อช่วยกันอนุรักษ์สมุนไพรเหล่านี้สืบต่อไป