ชัตดาวน์สหรัฐฯ ยุติ แต่วิกฤตการบินยังไม่จบ

CNBC ระบุว่า สหรัฐฯ ยุติภาวะ “ชัตดาวน์” หรือการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นเวลา 43 วัน ทำสถิติยาวนานสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว หลังสภาคองเกรสลงมติผ่านร่างงบประมาณและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน แต่ปัญหาด้านการเดินทางทางอากาศยังไม่จบง่าย ๆที่ผ่านมา สหรัฐฯ พยายามเพิ่มการจ้างงานเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศมาตลอดหลายปี แต่ภาวะชัตดาวน์ก็ทำให้สถานการณ์ยากขึ้นไปอีก 

ปัจจัยมาจากการที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากภาวะชัตดาวน์อยู่ตลอด ทำให้ต้องพักงานหรือทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนในช่วงที่เกิดการชัตดาวน์ บางส่วนต้องหางานสำรองในช่วงดังกล่าว

“ทิม คีเฟอร์” อาจารย์ด้านการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศของมหาวิทยาลัยการบินเอ็มบรี-ริดเดิล ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้งานนี้ไม่น่าสนใจ เพราะต้องรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งตลอดกว่า 20 ปีที่เขาทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศก็ต้องเผชิญกับปัญหานี้ตลอด 

ข้อมูลจาก “แอร์ไลน์ส ฟอร์ อเมริกา” กลุ่มอุตสาหกรรมการบินที่มีสายการบินต่าง ๆ เป็นสมาชิก อาทิ อเมริกัน แอร์ไลน์ส, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส, เดลตา แอร์ไลน์ส, เซาต์เวสต์ แอร์ไลน์ส และสายการบินอื่น ๆ ระบุว่า ปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศในช่วงชัตดาวน์ทำให้เที่ยวบินหลายพันเที่ยวล่าช้าหรือต้องยกเลิกการบิน ส่งผลกระทบการเดินทางของผู้คนมากกว่า 5 ล้านคน 

“แบงก์ ออฟ อเมริกา” ประเมินว่า รายได้จากการดำเนินงานของสายการบินหลัก ๆ ได้รับผลกระทบราว 150-200 ล้านดอลลาร์ และสายการบินอื่น ๆ ได้รับผลกระทบไม่ถึง 100 ล้านดอลลาร์