สวัสดีค่าเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวแอปพลิเคชัน ที่เราใช้ในการเรียนทุกวันนี้นะคะ ก่อนอื่นเลยเราใช้ ipad ในการเรียนนะคะ เพราะรู้สึกว่าพกพาง่าย ไม่ต้องแบกหนังสือหนัก ๆ และยังสามารถช่วยลดขยะจากกระดาษด้วยค่ะนี่ก็คือ แอปพลิเคชันทั้งหมดที่เราใช้นะคะ มาเริ่มรีวิวกันเลย let’s go!1. Palu แอปนี้ก็จะเป็นแอปปฏิทินนะคะ เอาไว้จดว่าในเดือนนี้เรามีนัดอะไรสำคัญ ๆ บ้าง ที่จริงเพื่อน ๆ ใช้ google ปฏิทิน หรือว่าแอปปฏิทินที่มีอยู่ติดเครื่องก็ได้ค่ะ เพราะส่วนตัวแล้วเราคิดว่าแอปนี้มันไม่ค่อยใช้ได้จริงเท่าไหร่ เนื่องจากว่ามันไม่สามารถแจ้งเตือนได้ ทำได้แค่จดอย่างเดียว แต่ว่าน้อง palu คนนี้ มีสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ สำหรับใครที่เน้นความคิ้วท์ ความน่ารัก เราคิดว่าแอปนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เลยล่ะค่ะ คะแนน : 7/10 , ราคา : ฟรี 2. ThaiFastDict แอปแปลภาษาแบบ offline เราคิดว่าแอปนี้ค่อนข้างมีประโยชน์ ในบางครั้ง บางสถานการณ์เราก็ต้องการแปลศัพท์ง่าย ๆ ก็แอปนี้เลยค่ะ แต่ถ้าต้องการแปลเป็นประโยค หรือแปลศัพท์บางคำ แอปนี้ก็ไม่สามารถแปลได้ค่ะ ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตในการทำงานเพิ่มเติม แต่ก็ส่วนน้อยค่ะ เพราะว่าเขามีคำศัพท์เยอะมากเลยทีเดียวเชียว นอกจากนี้ยังสามารถกดฟังเสียงได้ด้วยนะ ว่าคำนี้ออกเสียงยังไง หรืออ่านว่าอะไร ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ ยิ่งเฉพาะตอนที่เราไม่มีอินเทอร์เน็ตค่ะคะแนน : 9.5/10 , ราคา : ฟรี3. Clear สำหรับแอปนี้ก็มีประโยชน์มากเหมือนกัน ยิ่งช่วงสอบนะ คือเราใช้บ่อยมาก เพราะแอปนี้เนี่ยจะมีสรุปเนื้อหาต่าง ๆ ที่มีคนทำไว้ และเขาอยากจะแชร์ให้คนอื่นด้วย แบ่งเป็นหมวดหมู่ไว้ให้ซึ่งสะดวกมาก ๆ ทั้งแบ่งเป็นวิชาต่าง ๆ และแบ่งตามระดับการศึกษา เช่น มัธยมต้น มัธยมปลาย และระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าเรามีโน้ตหรือสรุปสวย ๆ น่าอ่าน อยากแชร์ให้เพื่อน ๆ คนอื่นได้อ่าน ก็สามารถอัปโหลดลงในแอปได้เลยค่ะคะแนน : 9.5/10 , ราคา : ฟรี 4. FocusTimer แอปนี้จะเป็นเกี่ยวกับเวลา ว่าเราใช้เวลาเท่าไหร่ในการอ่านหนังสือ หรือการเรียน แอปนี้เขาก็จะจับเวลาไว้ เราสามารถมาดูย้อนหลังได้ว่าใน 1 วันเราอ่านหนังสือเฉลี่ยกี่ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถตั้ง goal ได้ด้วยว่าวันนี้จะอ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงเป็นต้น จริง ๆ เราไม่ค่อยได้ใช้แอปนี้เท่าไหร่ เพราะเวลาเราจะอ่านหนังสือ เราก็อ่านไปเลย เพลิน ๆ เพราะสำหรับเราแล้วการจับเวลาแบบนี้ ค่อนข้างทำให้เราเสียสมาธินิดหน่อยตรงที่ เราจะชอบมองเวลาตลอด ว่าเราอ่านมาได้กี่ชั่วโมงแล้ว เราก็เลยคิดว่าแอปนี้ไม่ค่อยเหมาะกับเราสักเท่าไหร่ค่ะ จากรูปที่เราแนบมา คือ เวลาที่เราเคยจับไว้เมื่อนานมาแล้ว มันหายหมดเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้กดเข้าแอปมานานมากคะแนน : 7.5/10 , ราคา : 89 บาท5. GoodNotes บอกเลยว่าหลายคนต้องเคยใช้แอปนี้มาก่อน เพราะเป็นแอปยอดฮิตมาก ๆ ในการจดเลคเชอร์ใน ipad หรือเรียกได้ว่าใครที่มีไอแพดก็ต้องมีแอปนี้กันถ้วนหน้า ซึ่งในความเห็นของเรา เราคิดว่าแอปนี้ดีมากสำหรับคนชอบจด หรือชอบเขียน ชอบทำสรุป มีปากกาให้เลือก 3 แบบด้วยกัน คือ ปากกาลูกลื่น ปากกาหมึกซึม และปากกาแปรง ซึ่งเราชอบใช้ปากกาแปรงมากที่สุด เพราะมันมีเลเยอร์หนักเบาตามน้ำหนักในการเขียน สามารถเอารูปภาพที่เราเซฟไว้มาตกแต่ง แต่ถ้าใครที่ขี้เกียจเซฟ ก็สามารถเปิด safari กูเกิ้ล หาภาพที่ต้องการแล้วลากมาใส่ใน goodnotes ได้เลย สะดวกมาก ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเขียน calligraphy ได้ด้วย ขอบอกได้เลยว่ามันดีมากค่ะทุกคน เอาไปเลย สิบ สิบ สิบคะแนน : 10/10 , ราคา : 249 บาทขออวดนิดนึง อันนี้เป็นตารางสอนที่เราทำเองง่าย ๆ ในGoodNotes ซึ่งมันน่ารักมากเลย 💖 6. Notability อันนี้ก็เป็นแอปสำหรับใช้จดเลคเชอร์เหมือนกัน แตกต่างกับ GoodNotes ตรงที่ในแอปนี้เนี่ยจะมีฟังก์ชันในการอัดเสียงด้วย ซึ่งมัน เริ่ดมาก ๆ เราชอบใช้ และใช้บ่อยมาก เป็นตัวช่วยชีวิตในการเรียนของเราเลยค่ะ เนื่องจากว่าเราเป็นพวก auditory learner หรือว่าพวกที่เรียนรู้ได้ดีจากการฟัง เพราะในบางครั้งเราก็จดตามที่อาจารย์พูดไม่ทัน ถ้ามาทบทวนทีหลังก็จะได้ฟังอาจารย์พูดไปด้วยจดไปด้วย ถ้าจดไม่ทันก็หยุดคลิปเสียงก่อนได้ มันทำให้เราได้ฟังหลาย ๆ ครั้ง ก็จะทำให้เราจำเนื้อหาที่อาจารย์สอนได้ คนที่จดเลคเชอร์ไม่เก่ง หรือคนที่เขียนช้า ควรมีแอปนี้ติดไว้ใน ipad อย่างยิ่งเลยค่ะคะแนน : 10/10 , ราคา : 279 บาท7. Quizlet สำหรับแอปนี้เราจะใช้สำหรับเวลาท่องศัพท์ เราจะเซ็ตคำศัพท์พร้อมกับคำแปลไว้ เสร็จแล้วแอปนี้เค้าก็มี test ต่าง ๆ ให้เราทำ เช่น จับคู่คำกับความหมาย หรือให้ภาษาไทยมาแล้วให้เขียนศัพท์ที่ตรงกับความหมายนั้น ๆ นอกจากนี้เนี่ยเวลาเราเซ็ตคำศัพท์ ไม่ต้องใส่คำแปลให้ยุ่งยาก เพราะแอปนี้จะทำการแปลความหมายต่าง ๆ มาให้เลย สะดวกมาก ๆ แต่ว่าเราจะต้องมาเลือกเองนะคะ ว่าคำนั้นมีความหมายยังไง งงไหมเอ่ย เพราะศัพท์ภาษาอังกฤษ 1 คำ มีหลายความหมาย ถ้าเป็น noun ก็มีความหมายแบบหนึ่ง แต่ถ้าใช้เป็น verb ก็จะมีความหมายแบบหนึ่ง เราก็ต้องเลือกว่าศัพท์ที่เราท่องนั้น มีความหมายว่าอะไรค่ะ นอกจากจะแปลให้แล้ว ยังสามารถฟังเสียงได้ด้วยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากฝึกทักษะการฟังศัพท์แล้วล่ะก็ แอปนี้ก็สามารถทำให้ได้ค่ะ ถือว่าครบ ตอบโจทย์มาก ๆ เลยทีเดียว คะแนน : 100/10 , ราคา : ฟรีก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับการรีวิวแอปที่เราใช้ในการเรียนทั้งหมด เป็น 7 แอปที่เราค่อนข้างใช้บ่อยที่สุดในบรรดาหมวดหมู่แอปสำหรับ education ถ้าเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วก็สามารถติชม หรือแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยค่ะ เราจะนำไปปรับปรุงในการเขียนของเราให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านกันจนถึงตรงนี้นะคะ หวังว่านี่จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ 🙏🏻เครดิตภาพโดย : ningningchu เจ้าของบทความ