รมว.คลัง ปลื้มไอเอ็มเอฟปรับจีดีพีไทยลบน้อยลง เหลือ -7.1% จากที่คาดไว้ -7.7%

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ปัญหาหนี้สินของประชาชนที่ทางรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมว่า ครม.มีการรายงานผลการประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยในปี 2563 ตามข้อมูลกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับไปในทางที่ดีขึ้น เหลือ -7.1% จากเดิมที่คาด -7.7% สะท้อนให้เห็นสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้นภายหลังผ่อนคลายปลดล็อกในวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในเศรษฐกิจของกลุ่มผู้ประกอบการทุกกลุ่ม

นายอาคมกล่าวว่า ปัญหาใหญ่ขณะนี้คือเรื่องสภาพคล่อง มาตรการพักชำระหนี้ทั่วไปจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สิ้นสุดวันที่ 22 ตุลาคม แต่ ธปท.ได้ประสานกับธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องของมาตรการต่อเนื่องทั้งลูกหนี้ที่กลับมาดำเนินการธุรกิจตามปกติ และกลุ่มลูกหนี้ที่กลับมาทำธุรกิจแต่ยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ และกลุ่มที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้เลย กลุ่มที่ขาดการติดต่อกับสถาบันการเงินในระบบ ล่าสุดได้ประสานกับธนาคารของรัฐ เพื่อหารือมาตรการเสริมสภาพคล่อง การพักชำระหนี้ หรือชะลอการชำระหนี้ในขอบเขตหน้าที่ของสถาบันการเงินของรัฐเพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า