บัวอเมซอน คืออะไร มีลักษณะเป็นแบบไหน ใส่ตู้ปลาได้ไหม | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล บัวอเมซอน หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Echinodorus cordifolius และชื่อในภาษาอังกฤษอีกหลายชื่อ เช่น Amazon sword plant Burhead และ Texas mud baby และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า บัวอเมซอนมีความนิยมในการนำมาตกแต่งตู้ปลาและสวนน้ำ เพราะรูปทรงใบที่สวยงาม โดยบัวอเมซอนมีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์จะมีขนาดและสีของใบแตกต่างกันไป เช่น บัวอเมซอนใบแดง บัวอเมซอนใบแคบ เป็นต้น ทำให้สามารถเลือกใช้บัวอเมซอนให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลายได้มากขึ้นค่ะ โดยหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในสถานการณ์จริงนั้น บัวอเมซอนเป็นพืชน้ำที่สามารถเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วจะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และเหตุผลที่ทำให้เราพบเห็นบัวอเมซอนเติบโตตามธรรมชาติได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในบริเวณแหล่งน้ำนิ่งหรือน้ำไหลช้านั้น ก็เพราะว่ามีปัจจัยที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของบัวอเมซอนตามธรรมชาติค่ะ ดังนี้ 1. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แสงแดด: บัวอเมซอนต้องการแสงแดดในการสังเคราะห์แสงเพื่อเจริญเติบโต ดังนั้นบริเวณที่ได้รับแสงแดดเพียงพอจึงเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม น้ำ: บัวอเมซอนเป็นพืชน้ำ จึงต้องการน้ำในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่มีธาตุอาหารเพียงพอ อุณหภูมิ: อุณหภูมิที่อบอุ่นจะช่วยให้บัวอเมซอนเจริญเติบโตได้ดี ดิน: แม้ว่าบัวอเมซอนจะเป็นพืชน้ำ แต่ก็ต้องการดินหรือตะกอนที่อุดมสมบูรณ์เพื่อเป็นแหล่งอาหาร 2. การขยายพันธุ์ การแตกหน่อ: บัวอเมซอนสามารถแตกหน่อใหม่จากเหง้าใต้ดิน ทำให้เกิดต้นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมล็ด: เมื่อดอกบัวอเมซอนได้รับการผสมเกสรแล้ว จะเกิดเป็นผลและภายในผลจะมีเมล็ด เมื่อเมล็ดร่วงลงสู่พื้นดินและพบกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ก็จะงอกเป็นต้นใหม่ได้ การแยกกอ: ส่วนของลำต้นที่แตกออกมาจากต้นแม่ สามารถแยกออกไปปลูกเป็นต้นใหม่ได้ 3. ความสามารถในการปรับตัว บัวอเมซอนสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างดี เช่น การขาดน้ำ หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ สามารถเจริญเติบโตได้ในน้ำที่มีคุณภาพแตกต่างกัน ทั้งนี้การขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วของบัวอเมซอนในธรรมชาติ ถ้ามากจนเกินไปก็มีผลกระทบจากการแพร่กระจายของบัวอเมซอนค่ะ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ บดบังแสง: การเจริญเติบโตอย่างหนาแน่นของบัวอเมซอนอาจบดบังแสงสว่าง ทำให้พืชน้ำชนิดอื่นๆ เจริญเติบโตได้ยาก ลดออกซิเจนในน้ำ: เมื่อบัวอเมซอนตายลงและเน่าเปื่อย จะทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง จึงสามารถส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำได้ เปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ: การแพร่กระจายของบัวอเมซอนอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำ ในขณะที่หลายคนก็อาจมีข้อสงสัยต่อว่า บัวอเมซอนมีประโยชน์อะไรบ้าง ทำไมเห็นเขานำมาวางขาย จริงๆ แล้วในข้อเสียก็ยังมีข้อดีค่ะ โดยข้อดีหรือประโยชน์ของบัวอเมซอน เช่น ตกแต่ง: ใช้ตกแต่งตู้ปลา สวนน้ำหรือบ่อปลา ช่วยทำให้บรรยากาศดูสดชื่นและเป็นธรรมชาติ ระบบนิเวศ: ช่วยในการดูดซับสารพิษในน้ำ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำขนาดเล็ก ผลิตออกซิเจน: ช่วยผลิตออกซิเจนให้กับสัตว์น้ำ โดยเฉพาะในเวลากลางวันที่มีแสงแดดตามธรรมชาติ ซึ่งพอพูดถึงการนำบัวอเมซอนมาใส่ตู้ปลานั้น ประเด็นนี้หลายคนให้ความสนใจ และเหตุผลที่บัวอเมซอนเหมาะกับตู้ปลา ก็เพราะว่า ความสวยงาม: บัวอเมซอนมีใบที่กว้างใหญ่ สีเขียวเข้ม และมีรูปทรงที่สวยงาม เมื่อปลูกในตู้ปลา จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำ: รากของบัวอเมซอนจะช่วยดูดซับสารอาหารส่วนเกินและสารพิษในน้ำ ทำให้น้ำในตู้ปลามีความใสสะอาดมากขึ้น ผลิตออกซิเจน: เช่นเดียวกับพืชทั่วไป บัวอเมซอนจะปล่อยออกซิเจนออกมาในระหว่างการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในตู้ปลา เป็นที่หลบภัยของสัตว์น้ำ: ใบของบัวอเมซอนที่กว้างใหญ่ สามารถเป็นที่หลบภัยและวางไข่ของสัตว์น้ำบางชนิด เช่น กุ้ง กุ้งเครย์ฟิช หรือปลาขนาดเล็ก ดูแลง่าย: บัวอเมซอนเป็นพืชน้ำที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพียงแค่มีแสงสว่างเพียงพอและให้อาหารพืชบ้างเป็นครั้งคราว ก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี และจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยได้มีตู้ปลาและนำบัวอเมซอนมาใส่ในตู้ปลานั้น จริงๆ แล้ว บัวอเมซอนมีประโยชน์อื่นๆ ของบัวอเมซอน โดยประโยชน์ที่ผู้เขียนจะได้พูดในรายละเอียดต่อจากนี้ จะขอให้ความรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลดของเสียของน้ำในตู้ปลาจากที่มีบัวอเมซอนค่ะ เพราะหลายคนอาจมองภาพออกแบบชัดเจน แค่เพียงว่าสวยงามและเป็นไม้ประดับเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วการมีพืชน้ำชนิดอื่นรวมถึงอย่างบัวอเมซอนในตู้ปลาด้วยนั้น ก็เพื่อช่วยลดปริมาณไนเตรท: ไนเตรทเป็นผลผลิตที่เกิดจากการย่อยสลายของของเสียในน้ำ ที่บัวอเมซอนจะช่วยดูดซับไนเตรท ทำให้น้ำในตู้ปลาสะอาดและปลอดภัยต่อสัตว์น้ำ เพราะไนเตรทคือสิ่งที่เป็นธาตุอาหารพืช ในรูปที่พืชน้ำอย่างบัวอเมซอนสามารถนำไปใช้เพื่อการเจริญเติบโตได้ ไนเตรทเกิดจากกระบวนการไนตริฟิเคชั่น (Nitrification) โดยกระบวนการนี้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสารอาหารในตู้ปลา ให้เป็นธาตุอาหารพืชที่พืชน้ำสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หรือพูดง่ายๆ คือ เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเสียจากปลา เช่น แอมโมเนีย (Ammonia) ให้กลายเป็นไนไตรท์ (Nitrite) และกลายเป็นไนเตรท (Nitrate) ในที่สุด ซึ่งเป็นธาตุอาหารพืชชนิดหนึ่ง โดยกระบวนการนี้เกิดจากการทำงานของแบคทีเรียชนิดหนึ่งในตู้ปลา ไนเตรทที่เกิดจากกระบวนการไนตริฟิเคชั่นเป็นแหล่งของไนโตรเจนที่สำคัญสำหรับพืชน้ำในการเจริญเติบโต ดังนั้นการเพิ่มพืชน้ำบัวอเมซอนในตู้ปลา บัวอเมซอนจะดูดซับไนเตรทมาใช้ในการเจริญเติบโต และมีส่วนช่วยควบคุมระดับไนเตรทในตู้ปลาค่ะ โดยบัวอเมซอนที่ปลูกแบบไม่ใช้ดินก็สามารถดูดซับไนเตรทในน้ำมาใช้เป็นธาตุอาหารในการเจริญเติบโตได้เช่นกันค่ะ เพราะรากของบัวอเมซอนจะดูดซับไนเตรทที่ละลายอยู่ในน้ำผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าไปในราก จากนั้นไนเตรทจะถูกส่งต่อไปยังส่วนต่างๆ ของพืชเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ จึงสามารถนำบัวอเมซอนมาใส่ตู้ปลาได้ทั้งสองแบบ คือแบบที่มีดินหรือไม่มีดินก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าการปลูกบัวอเมซอนในตู้ปลาแบบไม่มีดินนั้นเป็นที่นิยมมากกว่าค่ะ เพราะมีข้อดีหลายประการ เช่น ดูแลรักษาง่าย: ไม่ต้องกังวลเรื่องดินเลอะเทอะหรือการเกิดตะไคร่น้ำ จัดวางได้สวยงาม: สามารถจัดวางบัวอเมซอนได้ตามต้องการ เพราะไม่มีดินมาบดบัง เหมาะกับตู้ปลาขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกบัวอเมซอนในตู้ปลาขนาดเล็กที่ไม่มีพื้นที่มากนัก อย่างไรก็ตามเมื่อปลูกบัวอเมซอนแบบไม่ใช้ดิน รากของมันจะลอยอยู่ในน้ำโดยตรง ทำให้รากสามารถสัมผัสกับน้ำที่มีไนเตรทละลายอยู่ได้โดยตรง นอกจากรากแล้ว ใบของบัวอเมซอนยังสามารถดูดซับสารอาหารบางชนิดจากน้ำได้โดยตรง รวมถึงไนเตรทด้วย ปริมาณแสงสว่าง อุณหภูมิ และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำ จะมีผลต่ออัตราการดูดซับไนเตรทของบัวอเมซอนค่ะ จากที่บัวอเมซอนช่วยลดปริมาณไนเตรทในน้ำ ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการย่อยสลายของของเสียจากปลา ทำให้น้ำในตู้ปลาสะอาดขึ้นนะคะ และอย่าลืมว่าบัวอเมซอนต้องการแสงเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นกระบวนการที่พืชใช้ในการสร้างอาหารเลี้ยงตัวเอง เมื่อปลูกบัวอเมซอนในตู้ปลาที่ไม่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง การใช้แสงจากหลอดไฟจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะหลอดไฟที่ออกแบบมาสำหรับตู้ปลาจะให้แสงที่มีความยาวคลื่นที่เหมาะสมสำหรับการสังเคราะห์แสงของพืชน้ำ ทำให้บัวอเมซอนเจริญเติบโตได้ดีค่ะ โดยหลักการทั่วไปในการใส่บัวอเมซอนในตู้ปลา มีดังนี้ เริ่มต้นน้อยๆ: ควรเริ่มต้นด้วยการใส่บัวอเมซอนจำนวนน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนเมื่อเห็นว่าบัวอเมซอนเจริญเติบโตได้ดี เว้นระยะห่าง: ไม่ควรปลูกบัวอเมซอนชิดกันจนเกินไป ควรเว้นระยะห่างให้พอสมควร เพื่อให้แสงสว่างส่องถึงได้ทั่วถึง สังเกตการเปลี่ยนแปลง: สังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำและพืชอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าน้ำขุ่นหรือมีตะไคร่น้ำขึ้นมาก อาจต้องลดจำนวนบัวอเมซอนลงค่ะ และข้อเสียของการปลูกบัวอเมซอนมากเกินไป ได้แก่ บดบังแสง: บัวอเมซอนที่มากเกินไปจะบดบังแสงสว่าง ทำให้พืชชนิดอื่นๆ เจริญเติบโตได้ไม่ดี ลดปริมาณออกซิเจนในน้ำ: เมื่อบัวอเมซอนตายลงและเน่าเปื่อย จะทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง ส่งเสริมการเกิดตะไคร่น้ำ: การมีบัวอเมซอนมากเกินไปอาจทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ง่ายขึ้น เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนหรือเก็บบัวอเมซอนออกจากตู้ปลา? การตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนหรือเก็บบัวอเมซอนออกจากตู้ปลานั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างค่ะ เช่น สภาพของบัวอเมซอนเอง ขนาดของตู้ปลา และเป้าหมายในการจัดตู้ปลาของคุณผู้อ่าน แต่เหตุผลหลักๆ ที่ควรพิจารณาเปลี่ยนหรือเก็บบัวอเมซอนออกจากตู้ปลาของเรา ได้แก่ บัวอเมซอนโตเกินไป: ถ้าบัวอเมซอนโตจนรกเกินไป อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของน้ำและแสงสว่างในตู้ปลาได้ แบบนี้ต้องตัดแต่งกิ่งหรือย้ายไปใส่กระถางที่ใหญ่ขึ้นค่ะ ใบเหลืองและเน่าเสีย: ใบบัวอเมซอนที่เหลืองหรือเน่าเสีย จะทำให้น้ำในตู้ปลาสกปรกและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรีย ควรตัดใบเหล่านั้นออกทันที เกิดโรคหรือแมลง: ถ้าบัวอเมซอนเกิดโรคหรือมีแมลงรบกวน อาจแพร่กระจายไปยังพืชน้ำชนิดอื่นๆ ในตู้ปลาได้ ควรแยกบัวอเมซอนออกมารักษาหรือทิ้งไป ต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบตู้ปลา: ถ้าต้องการเปลี่ยนรูปแบบการจัดตู้ปลา หรือต้องการเพิ่มพืชน้ำชนิดอื่นๆ ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนจำนวนหรือชนิดของบัวอเมซอนในตู้ปลา และนั่นคือความรู้เกี่ยวกับบัวอเมซอนสำหรับตู้ปลาค่ะ ซึ่งในตอนหลังมาผู้เขียนได้เกี่ยวข้องกับบัวอเมซอนเฉพาะในการบำบัดน้ำเสียเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ และระบบบำบัดเสียแบบสระพักน้ำผันสภาพ ที่ต้องบอกว่าเป็นหลักการเดียวกันเลยค่ะ ที่อาศัยการดูดซับไนเตรทในน้ำจากพืชน้ำค่ะ เพราะในน้ำทิ้งเราก็ต้องควบคุมค่าไนเตรทเหมือนกัน เนื่องจากไนเตรทเป็นส่วนหนึ่งของค่ารวมของไนโตรเจนทั้งหมด เมื่อค่าไนเตรทสูงขึ้น ค่าไนโตรเจนทั้งหมดก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย เราจึงจำเป็นต้องใช้พืชน้ำเข้ามาช่วย และบัวอเมซอนก็คืออีกหนึ่งตัวอย่างของพืชน้ำที่นำมาใช้ได้ในระบบำบัดนำ้เสียค่ะ พอจะมองภาพออกกันบ้างแล้วนะคะว่า ทำไมพอเราอยากมีตู้ปลาที่บ้าน คนขายปลาสวยงามและอุปกรณ์จัดตู้ปลาถึงบอกให้เราซื้อบัวอเมซอนมาด้วย ที่ก็ไม่ใช่แค่การจัดตู้ปลาค่ะ จัดสวนน้ำก็จำเป็น โดยทั้งหมดก็เกี่ยวกับการบำบัดคุณภาพน้ำให้ดีขึ้นในระหว่างนั้น จากการอาศัยการดูดซับของบัวอเมซอนนั่นเองนะคะ ด้วยความที่คนเราไม่สามารถไปตักหรือช้อนไนเตรทออกจากน้ำได้ และไม่คุ้มกับการลงทุนในระบบกรองคุณภาพสูงค่ะ ดังนั้นเราจึงอาศัยกลไกตามธรรมชาติของพืชน้ำอย่างบัวอเมซอนเข้ามาช่วย พอของเสียไปอยู่ในต้นบัวอเมซอน เราก็แค่เก็บพืชออกจากน้ำ ซึ่งมันง่ายมากๆ และนั่นคือการเอาของเสียออกจากน้ำด้วยการใช้พืชค่ะ ยังไงนั้นลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ ดูอีกสักรอบค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://news.trueid.net/detail/0r83ALbKZ0ER https://news.trueid.net/detail/R2WxpgJRj3nK https://news.trueid.net/detail/Lm6zGkPP6JXm เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !