จังหวัดอยุธยานั้นถือว่าเป็นจังหวัดแห่งการท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีวัดวาอาราม สิ่งปลูกสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยามากมายแล้ว ยังมีสถานที่การเรียนรู้อีกหนึ่งแห่งหลบซ่อนตัวอยู่ ซึ่งในวันนี้ผมจะจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมกันได้ที่นี่นะครับ ซึ่งที่นี่ก็คือ "ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ" นั่นเองครับศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ จะเปิดทำการทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์นะครับ โดยจะหยุดทุกวันจันทร์ ซึ่งบ้านของพ่อนี้จะอยู่ไม่ไกลจากวัดภูเขาทอง เพื่อน ๆ สามารถใช้ GPS นำทางมาที่นี่ได้เลยนะครับ แต่ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากว่าทางเข้าค่อนข้างแคบ เมื่อมาถึงแล้วเพื่อน ๆ สามารถเข้ามาชมได้เลยนะครับโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้าชมทั้งสิ้นครับ เมื่อผ่านประตูไม้เข้ามาแล้ว บริเวณด้านในจะจัดสรรพื้นที่ออกเป็นหลาย ๆ โซนด้วยกัน ซึ่งการจัดวางพื้นที่นั้นจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน ตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยพื้นที่ภายในจะแบ่งเป็นการทำนาข้าว 30% ขุดสระกักเก็บน้ำไว้ใช้ 30% ที่อยู่อาศัย 10% และปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์อีก 30% นี่คือการจัดพื้นที่ตามหลักของในหลวงรัชกาลที่ 9 ครับ ซึ่งการนำหลักการที่พระองค์ทรงสอนไว้มาทดลองใช้จริง จนเกิดผลสำเร็จ ทำให้ผู้สนใจมีเพิ่มมากขึ้น จนเกิดศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ขึ้นมานั่นเองครับภายในบริเวณด้านในศูนย์การเรียนรู้ จะมีร้านอาหารและคาเฟ่อีกหลายร้านที่นำผลผลิตทางการเกษตรจากพื้นที่แห่งนี้ มาจำหน่ายในราคาถูกอีกด้วย ผมจึงลองนั่งทานกาแฟและเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟด้านใน ซึ่งผมประทับใจมาก ๆ ครับที่ทางร้านใช้ถ้วยกาแฟที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แหละหลอดกาแฟก็สามารถย่อยสลายได้เช่นกันเครับหลังจากดื่มเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว จุดแรกที่พวกเรามาชมนั่นก็คือบริเวณของทุ่งนา ซึ่งทุ่งนาแห่งนี้จะใช้วิธีการปักดำ โดยการเพาะต้นกล้าไว้ในแปลงเพาะกล้าครับ แล้วนำมาปักดำเป็นจุด ๆ เพื่อให้ต้นข้าวนั้นแตกกอได้ดี และเพื่อประหยัดต้นทุนของข้าวเปลือกมากกว่าการหว่านลงพื้นดินโดยตรง ซึ่งจะทำให้ลำต้นนั้นสูงและแข็งแรง ที่สำคัญคือเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ต้นข้าวที่นี่จะให้ผลผลิตในปริมาณที่มากอีกด้วยครับ โดยมีการเลี้ยงเป็ดระบบเปิด(เป็ดไล่ทุ่ง) ซึ่งเมื่อถึงเวลาปล่อยเป็ดลงไปในนาข้าว เจ้าเป็ดทั้งหมดนี้จะมาช่วยกำจัดหอยและวัชพืชในนาข้าวให้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งทำให้เกษตรกรนั้น ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชลงไปได้มาก แถมยังช่วยรักษาหน้าดินไม่ให้ดินถูกสารเคมีทำลายอีกด้วยครับ และที่สำคัญคือมูลของเป็ดเหล่านี้ยังเป็นปุ๋ยคอกชั้นดีให้กับนาข้าวอีกด้วยนะครับจุดต่อไปจะเป็นกรงที่เขียนว่าบ้านพอใจ ซึ่งในบ้านหลังนี้ จะมีการเลี้ยงไก่งวงอยู่หลายตัว ซึ่งเจ้าไก่งวงนี้ขนาดตัวนั้นใหญ่มากครับ เวลาอยู่ในกรงของเขาคือเวลาช่วงเย็นก่อนอาทิตย์ตก แต่พอตอนเช้าพวกเขาก็จะออกหากินบริเวณด้านนอกกรงอีกทีนะครับ ประโยชน์ของไก่งวงนั้น นอกจากจะให้ผลผลิตเป็นเนื้อไว้บริโภคแล้ว ยังช่วยกำจัดศัตรูพืชต่าง ๆ เช่น ตั๊กแตน หนอน แมลงต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะครับ และมูลของไก่งวงนั้นก็เป็นปุ๋ยคอกชั้นดีอีกเช่นกันครับ ภายในศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ จะมีผลผลิตที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายในราคาถูก ซึ่งก็มีทั้งผักและผลไม้ที่ปลูกในแปลงสาธิตแห่งนี้ รวมทั้งผักและไม้แปรรูปในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อยืดอายุของผลผลิต ยกตัวอย่างเช่น ข้าวต้มมัดชุดนี้ ชาวบ้านจะใช้กล้วยที่ปลูกจากสวนแห่งนี้นำมาแปรรูปเป็นข้าวต้มมัดจำหน่ายในราคาถูก และยังมีผักและผลไม้ต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ผ่านการแบบรูปด้วยวิธีธรรมชาติจำหน่ายด้วยนะครับจุดนี้จะเป็นบ้านแมรี่ครับ ซึ่งเจ้าแมรี่นั้นก็คือแพะนั่นเองครับ โดยเจ้าแมรี่จะผลิตน้ำนมแพะ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูง ถ้าเพื่อน ๆ สนใจข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าแมรี่นี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ด้านในได้เลยนะครับ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เจ้าแมรี่นั้นจะอารมณ์ดีมากครับ เพื่อน ๆ ที่พาเด็ก ๆ ไปเรียนรู้ สามารถจับตัวเจ้าแมรี่ได้เลยครับ โดยที่เขาจะให้เราจับอย่างเต็มใจเลย ภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ประจำตามจุดต่าง ๆ คอยบอกข้อมูลและแนะนำข้อมูลอย่างสุภาพและเป็นกันเอง ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งผมนั้นประทับใจมาก ๆ ครับ ซึ่งก่อนที่ผมจะเดินทางกลับนั้น ผมก็เห็นเจ้าไก่ตัวหนึ่งกำลังหาอาหารอยู่ ซึ่งเจ้าไก่ตัวนี้ก็ทำท่าสนใจพวกเราอยู่ไม่ใช่น้อย และก็เป็นอย่างที่เห็นครับ เจ้าไก่ตัวเดินเข้ามาหาภรรยาของผมด้วยความสงสัย และมีท่าทางที่เชื่องมาก จนสามารถจับอุ้มขึ้นมาได้โดยไม่เกรงกลัว นั่นแสดงให้เห็นว่าศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้ ดูแลสัตว์ทุกตัวอย่างใกล้ชิดและเลี้ยงดูด้วยความรัก จึงทำให้สัตว์ทุกชนิดในศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ มีความเป็นมิตรกับผู้ที่เข้ามาทุกคนนั่นเองครับเป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ นี่เป็นเพียงข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมนำมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบกัน แต่ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่รอเพื่อน ๆ ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง ที่ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะไปเองหรือพาเด็ก ๆ ไป ก็ได้ทั้งนั้นนะครับ ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อยครับ และกราบขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามบทความนี้ผมได้แต่หวังว่าโอกาสหน้าผมจะมีข้อมูลดี ๆ มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ อีกนะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับที่ตั้ง : บ้านของพ่อ ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000เวลาทำการ : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.แผนที่นำทาง : https://goo.gl/maps/fzkYr87Ucc3kZN2H8ภาพประกอบบทความทั้งหมด ถ่ายโดยเจ้าของบทความครับ