วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีรับมือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสังคม สำหรับคนที่ไม่กล้าเริ่มเป็นฝ่ายพูดคุย กลัวการเปลี่ยนแปลงสังคม ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนโรงเรียนการเปลี่ยนที่ทำงาน การเปลี่ยนที่อยู่อาศัย หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่คุณต้องปรับตัวใหม่ ขอแค่คุณมีความกล้า คุณก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะไปเจอสังคมใหม่ๆแล้วอย่าคิดมากจนกลัวที่จะเจอสิ่งใหม่"จินตนาการไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป" อย่ากลัวที่จะต้องเจอสิ่งใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ คุณต้องกล้า ที่จะเผชิญหน้ากับมันผมเคยเป็นนะครับ ตอนจะเข้าโรงเรียนใหม่ๆ เมื่อสมัยตอนม.1 "โรงเรียนนี้คือโรงเรียนแบบไหน เป็นยังไง สังคมดีหรือป่าว" ผมไม่เคยรู้มาก่อน แต่ทำไงได้ ยังไงเราก็ต้องไปเรียน ก่อนวันไปเรียนผมกลัวมาก นั่งเครียดก่อนนอน ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร"กลัวที่จะไปเจอเพื่อนใหม่ เขาจะรังแกเรามั้ย" "ครูจะดุมั้ย" แล้ว"เมื่อเข้าไปในโรงเรียนเราต้องทำอะไรบ้าง" "เราต้องไปเรียนห้องไหน" "ตารางเรียนแบบนี้ดูยังไง"ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ผมเครียด แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริง สถานการณ์ มันจะพาเราไปเองครับ ทุกสิ่งทุกอย่าง จะพาคุณเพื่อดิ้นรนให้รอดจากจุดๆนั้นไปให้ได้ลองนึกถึงวันแรกที่คุณเข้าโรงเรียนเก่าสิครับ นึกถึงวันแรก ที่เข้ามาในที่ทำงานเก่าที่เราเคยทำมา เพื่อนคนนี้เรารู้จักได้ยังไง เราสนิทกับคนๆนี้ได้ยังไงคิดดูสิครับ บางคนถึงกับขั้นตัวสั่น ปากสั่น เมื่อเดินเข้าไปเจอสังคมใหม่ๆ เพียงเพราะแค่กลัวสิ่งที่ต้องเผชิญหน้า แล้วถ้ายังเป็นแบบนี้อีก อนาคตที่คุณต้องเจอใครมากมายก่ายกอง เจอคนรัก เจอเพื่อน เจอหัวหน้างาน เจอแมว เจอหมา คุณจะทำยังไงล่ะครับ คุณจะมัวแต่กลัวหัวหดอยู่แบบนี้หรอ?ทุกอย่างแก้ได้ ด้วยความกล้าเผชิญหน้าครับ ผมก็เป็นคนที่มักจะไม่ชอบที่จะเป็นฝ่ายเริ่มสนทนา เราไม่รู้นี่หว่าว่าเราจะเริ่มพูดยังไง แต่เชื่อเถอะครับ เวลา สถานการณ์ สถานที่ทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะพาคุณไปเอง ขอแค่คุณอย่าไปกลัว ขอแค่คุณกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน ยังมีเรื่องอื่นให้เครียดอีก เช่น งาน การบ้าน โปรเจกต์นั่งนินทาเพื่อน ทะเลาะกับเพื่อน แมวไม่ยอมฉี่ เรื่องนี้มากกว่าหรือป่าวครับ? ที่คุณควรจะมานั่งเครียด ไม่ใช่มาวิตกกังวลกับเรื่องที่จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ เพราะฉะนั้น เพียงแค่คุณกล้าที่จะเผชิญหน้า แค่นี้ ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดีแล้วครับอย่ากลัวที่จะมีเพื่อนน้อย"เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก" ถ้าถามว่าเพื่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นมั้ย? สำหรับผมแล้ว ผมขอตอบว่าจำเป็นครับเพื่อนคือคนที่จะมาเติมเต็มชีวิตเรา วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยชรา เพื่อนนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ขาดไม่ได้ ทุกช่วงวัยชีวิตเราต้องมีเพื่อนเสมอ แต่ แต่ แต่ ไม่ใช่ว่า มีเพื่อนเยอะ แล้วคุณจะมีความสุขนะครับ ผมไม่ได้จะสื่อว่า การมีเพื่อนเยอะเป็นสิ่งไม่ดี แต่ผมกำลังจะบอกว่าการมีเพื่อนน้อย มันไม่ใช่สิ่งน่าอายครับต้องมีบ้างแหละครับ เหตุการณ์ที่เราไม่ชอบหน้าเพื่อนคนๆหนึ่ง แต่เราต้องทนอยู่กับคนนั้น วันแล้ววันเล่า เปรียบเสมือนกับการ "ใส่หน้ากากคุยกัน"คุณมีคามสุขไหมล่ะครับ กับการที่ต้องทำแบบนี้ สู้การมีเพื่อนน้อย แต่ได้เพื่อนคุณภาพ ไม่ดีกว่าหรอครับ?เพื่อนที่ดี คือเพื่อนที่พร้อมจะรับความเป็นตัวของตัวเราให้ได้ เราอาจจะเป็นคนเรียนไม่เก่ง สื่อสารไม่ได้ หรือ แปลกจากคนอื่นไปถ้านึกภาพไม่ออก เคยเห็นภาพ ที่มีเพื่อนช่วยกันพาเพื่อนที่พิการไปซื้อขนมหรือไปเที่ยวมั้ยล่ะครับ แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วนะครับ ว่าเพื่อนที่ดี เป็นยังไงสิ่งที่ผมจะสื่อนั้นก็คือ การที่มีเพื่อนดี ดีกว่าการมีเพื่อนเยอะครับ คุณอาจจะมีเพื่อน 4คน 3คน 2คน หรือ คุณอาจจะมีเพื่อนแค่คนเดียว แต่ถ้าเพื่อนคนนั้น เขาพร้อมที่จะอยู่กับคุณ รับตัวตนของคุณได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนคนนี้ทำออกมา ล้วนออกมาจากใจของเขาเองล้วนๆ แค่นี้ มันก็เพียงพอกับคำว่า "เพื่อน" แล้วครับกล้าที่จะปรับตัว แต่อย่าพยายาม ที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อสังคมที่ไม่รักเรา"เปลี่ยนตัวเอง กับ ปรับตัว มันต่างกัน" สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่ามันจริงนะครับ เราสามารถปรับตัว เพื่อให้เข้ากับคนอื่น เพื่อน หัวหน้างาน คุณครู หรือคนที่เรารักได้ แต่เราไม่สามารถ เปลี่ยนตัวเองเพื่อใครบางคนได้หรอกครับ (ความคิดเห็นส่วนตัว) จริงอยู่ครับ ว่าการที่คุณสามารถเปลี่ยนตัวเองเพื่ออะไรสักอย่างได้ เพื่อกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ เพื่อแฟนเราคนนี้ เพื่อหัวหน้าคนนี้ ฉันยอมเปลี่ยนตัวเอง ฉันทำได้!!แต่ว่า มันจะเหมือนกับการที่คุณใส่หน้ากากเข้าสังคมนะครับ เช่นเดิมครับ ผมไม่ได้บอกว่าการใส่หน้ากากเพื่อปิดบังตัวเองมันเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ มันดีครับ แต่ในบางกรณีเท่านั้น เช่น การที่เราต้องออกไปขายงานลูกค้า การที่เราต้องออกไปพูดต่อหน้าคนเยอะๆ แต่สำหรับการเข้ามาในสังคมใหม่แล้ว อย่าลืมนะครับ ว่าการใส่หน้ากากเข้าสังคม มันจะไม่ใช่ตัวตน ที่เป็นตัวของคุณเองเคยไหมครับ ที่เราจะต้องทำตัวเรียบร้อย เป็นคนสุภาพ เก็บอารมณ์ ทั้งๆที่อารมณ์มันกำลังจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว แต่ต้องเอาหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ ในช่วงเวลาแบบนั้น คุณมีความสุขไหมครับผมเคยนะครับ อยากเข้าไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนกลุ่มนึง ส่วนตัวผมเป็นคนที่เมื่อเจอคนแปลกหน้า จะเป็นคนเงียบๆ ต่างกับเพื่อนกลุ่มนี้ ที่เมื่อเจอคนแปลกหน้าที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ป้าขายน้ำ ลุงขายไก่ทอด ตลอดยัน เจอน้องหมากำลังรักกัน(อย่างที่รู้ๆแหละครับว่าน้องหมาทำอะไร) เพื่อนกลุ่มนี้ก็จะทักไปหมด เล่นไปหมด แซวไปหมดซึ่งผมก็จะต้องคล้อยตามไปด้วย ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ก็เปรียบเสมือน"แกะดำ"สิแล้วการที่คุณเปลี่ยนตัวเอง มันก็ไม่ต่างอะไรจากนั้นหรอกครับ มันต่างแค่คุณจะต้องอยู่กับช่วงเวลาแบบนั้นตลอดไม่รู้อีกนานแสนนานเท่าไหร่สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะไปเจอสังคมใหม่ๆนะครับ ทั้งหมดที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา ก็เพื่ออยากจะให้คุณมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ เนื่องจากประสบการณ์ส่วนตัวที่กลัวการเข้าสังคม คิดว่ามีคนอีกมากมายที่เป็นแบบผมนะครับ เลยมาแชร์ประสบการณ์และวิธีรับมือ สำหรับสถานการณ์แบบนี้ ทุกอย่างต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ "สังคมใหม่ สิ่งใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเสมอไปนะครับ"สังคมเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญหน้ากับมัน เพราะฉะนั้น คุณก็ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันเครดิตภาพภาพปกโดย นกเค้าแมวภาพที่1 ขอบคุณรูปภาพจาก Anemone123 จาก pixabayภาพที่2 ขอบคุณรูปภาพจาก sasint จาก pixabay ภาพที่3 ขอบคุณรูปภาพจาก Grayerbaby จาก pixabayภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก Josephredfield จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !