ผู้นำศรีลังกายื่นหนังสือลาออก เตรียมบินต่อไปซาอุฯ - ผู้ประท้วงถอนตัวจากทำเนียบ
รัฐบาลศรีลังกาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ได้บินออกจากมัลดีฟส์ไปยังประเทศสิงคโปร์แล้ว และเตรียมเดินทางต่อไปยังซาอุดิอาระเบีย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลมัลดีฟส์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่า ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ได้ขึ้นเครื่องบินของซาอุดิอาระเบีย จากมัลดีฟส์ ไปยังประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะไปต่อยังเมืองเจดดาห์ ของซาอุดิอาระเบีย
โฆษกประธานรัฐสภาศรีลังกา กล่าวว่า ราชปักษายื่นหนังสือลาออกทางอีเมลในช่วงดึกวันพฤหัสบดี และจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ เมื่อเอกสารผ่านการรับรองทางกฎหมาย
ทั้งนี้ ราชปักษาไม่สามารถบินไปยังสหรัฐอเมริกาได้ เนื่องจากสหรัฐฯปฏิเสธที่จะออกวีซ่าท่องเที่ยวให้กับเขา โดยราชปักษาเคยถือ 2 สัญชาติ จนกระทั่งยกเลิกพาสปอร์ตอเมริกันไป เพื่อที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2019
ขณะที่มหินทา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดี และพี่ชายของนายโกตาบายา ยืนยันว่าไม่มีแผนการที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ
รายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ของศรีลังกา ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดี) สร้างความปีติยินดีในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งมีกลุ่มผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันอยู่ด้านนอกสำนักงานเลขาธิการประธานาธิบดี ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถานในยามวิกาล หรือเคอร์ฟิวที่บังคับใช้ทั่วประเทศ
ฝูงชนจุดประทัด ตะโกนคำขวัญและเต้นรำกันอย่างมีความสุขที่สถานที่ประท้วง “โกตา โก กามา” ซึ่งตั้งชื่อเย้ยหยันตามชื่อจริงของราชปักษา
ทามิธา อาเบย์รัธเน นักเคลื่อนไหว กล่าวว่า ทั่วประเทศฉลองกันในวันนี้ มันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เราไม่เคยคิดว่า เราจะทำให้ประเทศนี้หลุดพ้นจากพวกเขาได้ ซึ่งเธออ้างถึงตระกูลราชปักษา ที่กุมนโยบายของประเทศเอเชียใต้แห่งนี้มานาน 20 ปี
ด้าน บรรดาผู้ประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีที่บุกยึดอาคารทำเนียบ ประกาศว่า พวกเขาจะออกจากอาคารทำเนียบประธานาธิบดี ทำเนียบนายกรัฐมนตรี และอาคารอื่น ๆ ของรัฐบาล อย่างสันติ แต่จะยังคงต่อสู้ในหนทางของพวกเขาต่อไป
ถนนสายต่าง ๆ ในกรุงโคลอมโบ กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศเคอร์ฟิวจนถึงเช้าวันศุกร์ พร้อมกับมีกองทหารลาดตระเวณตามถนนสายต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก
ส่วนการประท้วงเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในกรุงโคลอมโบ เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน และ บาดเจ็บอีก 84 คน ระหว่างการชุมนุมประท้วงที่ด้านนอกทำเนียบนายกรัฐมนตรี และบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา และมีการปะทะกันกับตำรวจปราบจลาจลที่ใช้แก๊สยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชาย วัย 26 ปี เสียชีวิตเพราะปัญหาระบบหายใจ
กองทัพศรีลังกา แถลงว่า มีทหารและตำรวจ ได้รับบาดเจ็บในเหตุประท้วงครั้งนี้ด้วย ผู้ประท้วงยังขโมยปืนยาวไรเฟิลพร้อมกระสุน ไปด้วย 1 กระบอก และ ด้วยการประท้วงที่เริ่มรุนแรงขึ้นมา ทำให้รัฐบาลศรีลังกากลับมาบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิว รอบใหม่ หลังเพิ่งยกเลิกไปเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัส คำสั่งเคอร์ฟิวรอบใหม่ มีผลบังคับตั้งแต่ 12.00 น.วันที่ 14 ก.ค. ถึงเวลา 05.00 น.วันที่ 15 ก.ค.
ความวุ่นวายระลอกใหม่ เกิดขึ้นหลังนายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการตามรัฐธรรมนูญ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และ เคอร์ฟิว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์ และ ให้กองทัพเข้ากอบกู้ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองโดยให้ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น
ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทำให้บางประเทศเริ่มประกาศเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงเดินทางไปศรีลังกา หากไม่จำเป็น เช่น สหราชอาณาจักร, สิงคโปร์ และบาห์เรน.
ภาพจาก Reuters