รถ คือยานพาหนะที่เรานั้นใช้เป็นประจำ เพื่อช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทาง เส้นทางที่หลากหลายความสุขมากกว่าเสมอ สิ่งที่เจ้ารถนั้นกลัวคือในส่วนของน้ำเข้าไปในรถ หากเข้าห้องเครื่องแล้วรายจ่ายจึงตามมา น้ำ ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ เป็นต้นว่าน้ำฝน เราจะต้องมีการดูแลรถในหน้าฝนของเราอย่างสม่ำเสมอ การที่คนเรานั้นจะมีรถสักคันเรานั้นเราจะต้องรู้ในวิธีที่ช่วยในการรักษา เพื่อที่จะทำให้รถนั้นอยู่กับเรานั้นได้นานขึ้น บางคนนั้นไม่รู้หรือมีความรู้ในเรื่องของการใช้รถไม่มาก จะต้องเข้าไปเช็ครถในศูนย์ และในเรื่องของการขับนั้นจะต้องมีความระมัดระวัง ในการดูแลเองนั้นเราจะต้องดูแลอย่างไรบ้าง เรามาดูกันว่าเราต้องดูแลรถอย่างไรบ้าง 1. การตรวจในส่วนของลมยาง ในการตรวจในเรื่องของลมยางนั้น เราจะต้องมีการเติมลมยางเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งหรือว่าอาทิตย์ละครั้งเพื่อที่จะทำให้การขับรถปลอดภัยในทุกการเดินทาง ในการเติมลมเท่าไหร่นั้นสามารถที่จะดูได้ตรงบริเวณประตูรถของเรานั้นจะระบุว่าจะต้องเติมลมรถล้อละประมาณเท่าไหร่ มี 32 , 36 หากว่าเรานั้นเคยเติมลมรถเท่าไหร่จะต้องเติมให้อยู่ในบริมาณนั้นตลอด เพื่อรักษาสภาพยาง หากว่าปล่อยให้ลมรถน้อยเกินไปอาจจะทำให้เรานั้นขับลำบากและทำให้เปลืองน้ำมันด้วย 2. ขอบยางของรถรอบรถ หากว่าเรานั้นมีรถ เราจะต้องเดินดูรอบรถของเรา ว่าในส่วนของขอบยางมีความแน่น และไม่ทำให้น้ำนั้นซึมเข้าไปในรถได้ หากว่าเสื่อมสภาพแล้วเราต้องมีการเปลี่ยน ซึ่งยางรถนั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณสองปี เราจะต้องเปลี่ยนใหม่ยกคันหากว่าไม่เปลี่ยนอาจจะส่งผลต่อการยึดเกาะของถนน 3. ในการที่เรานั้นต้องลุยน้ำ หรือว่าในสถานที่มีน้ำขังจะต้องมีการเตรียมก่อนลุยน้ำ คือคนขับนั้นจะต้องปิดแอร์ก่อนลุยน้ำท่วม และต้องใช้เกียร์ต่ำหากเป็นรถเกียร์ และทางที่ดีนั้นต้องหลีกเลี่ยงในการขับด้วยความเร็วสูง หรือเรานั้นอาจจะขับรถตรงกลางถนนมากกว่าขอบถนนที่มีน้ำท่วมสูง ที่เล่ามาทั้งหมดนั้นจะเป็นการป้องกันในส่วนของน้ำเข้ารถในระยะสั้น ผู้ใช้รถจะต้องมีความรู้ในเรื่องของการป้องกันน้ำในหน้าฝน บางครั้งเกิดเหตุการณ์ที่เรานั้นไม่คาดคิด เราจะสามารถที่จะนำพารถนั้นออกมาในสถานที่นั้นได้อย่างไร อย่างปลอดภัย การดูป้องกันรถในระยะสั้นก็มีความสำคัญ แต่สำคัญยิ่งกว่าคือการใช้รถระยะยาว ต้องทำอย่างไรบ้าง การป้องกันเมื่อมีการขับรถลุยน้ำ ต้องปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อให้รถปลอดภัย 1. การปิดแอร์รถยนต์ การลุยน้ำนั้นควรปิดในส่วนแอร์ทันที เพื่อป้องกันใบพัดลมแอร์พัดน้ำเข้าไปในห้องเครื่องยนต์ จนสามารถที่จะทำให้เครื่องดับได้ เมื่อไหร่ที่เครื่องดับในการขับลุยน้ำไม่ควรที่จะคิดเครื่องใหม่ อีกรอบเพราะว่าสิ่งนี้จะยิ่งทำให้น้ำนั้นเข้าไปในเครื่องยนต์หรือว่าห้องเครื่องได้ 2. ในการขับขี่ในเกียร์ต่ำ เวลาที่เรานั้นขับผ่านในส่วนของสถานที่ที่มีน้ำขังนั้น เราควรใช้เกียร์ต่ำ (เช่น ให้เรานั้นนำไปไว้ใน L หรือ 1-2 ) การทำแบบนี้ทำให้เรานั้นสามารถที่ จะประคองรถยนต์ได้ง่ายและควบคุมรถได้ดีขึ้น 3. ขับด้วยความเร็วคงที่ และช้าๆ พอเรานั้นเห็นว่าทางข้างหน้านั้นจะมีน้ำท่วมให้เรานั้นลดความเร็วลงก่อนที่จะถึงท่วมขัง เพื่อที่จะให้เรานั้นไม่เสียในการควบคุมและป้องกันน้ำกระเซ็นเข้าไปในห้องเครื่องของรถด้วย 4. หลีกเลี่ยงในการขับผ่านในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง หากว่าเป็นไปได้ให้เรานั้นหลีกเลี่ยงเลยในสถานที่ที่มีการท่วมของน้ำ แม้ว่าจะต้องอ้อมในถนนที่ห่างไกล แต่หากว่าเรานั้นไม่ได้ลุยน้ำ ขับอ้อมดีกว่าเพื่อรักษารถของเรา 5. ไม่ดับเครื่องยนต์ทันทีหลังจากการที่เรานั้น หากว่าเรานั้นขับรถลุยน้ำเมื่อถึงที่หมายแล้ว ให้เรานั้นตั้งเครื่องยนต์นั้นไว้สักครู่ เพื่อเป็นการไล่น้ำและในส่วนความชื้นที่อาจจะยังตกค้าง อยู่ในส่วนของท่อไอเสีย 6. ขับรถต้องมีการเบรกเบาๆ หลังจากที่เรานั้นขับรถลุยน้ำมาแล้ว ควรที่จะย้ำเบรกเบาๆ เพื่อที่จะไล่ออกจากผ้าเบรกรถ และเรียกประสิทธิภาพเบรกของรถเรานั้นกลับมา การป้องกันรถในการที่จะไม่ให้น้ำเข้าไปในรถนั้น เราจะต้องมีการป้องกันอย่างดีคือในส่วนของฤดูฝน เพราะว่าเมื่อฝนนั้นตกก็จะมีในส่วนของน้ำท่วมขังหรือว่าน้ำระบายไม่ทัน หากว่าเรานั้นสามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้นั้นเราสามารถที่จะลุย ไปทางใหม่ทางที่ไม่มีน้ำเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว เพราะว่าการขับรถลุยน้ำนั้นไม่ทำให้รถเสียในทันทีแต่จะทำให้รถนั้นเสื่อมหรือเสียหายในระยะยาว ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน ภาพปกจาก Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !