ไฟป่าครั้งมโหฬารในไซบีเรีย ดันสถิติปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์โลกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปี

หายนะไฟป่าครั้งรุนแรงที่เขตไซบีเรียในปีนี้ สร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมโลกอย่างมหาศาล โดยเหตุเพลิงไหม้ป่าสนหิมะได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากเป็นสองเท่าของสถิติเมื่อปีที่แล้ว และผลักให้อัตราการปล่อยคาร์บอนจากไฟป่าทั่วโลกในปีนี้ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ
สำนักงานควบคุมดาวเทียมคอเปอร์นิคัสเพื่อการติดตามสภาพบรรยากาศโลกแห่งยุโรป (CAMS) เผยว่าไฟป่าในไซบีเรียซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ตั้งแต่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซียไปจนถึงภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้วกว่า 800 ล้านตัน นับแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากสถิติในเหตุไฟป่าไซบีเรียเมื่อปีที่แล้ว ทั้งยังสูงกว่าอัตราการปล่อยคาร์บอนทั้งปีของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ปล่อยคาร์บอนในปริมาณสูงสุดของยุโรปและอยู่ในอันดับ 6 ของโลก
ควันหนาทึบจากไฟป่าที่เกิดขึ้นแผ่ขยายตัวเป็นวงกว้างไปจนถึงขั้วโลกเหนือและชายฝั่งของรัฐอะแลสกา คิดเป็นระยะทางทั้งหมดถึง 6,437 กิโลเมตร โดย CAMS คาดว่าฝุ่นละอองและเขม่าควันจำนวนมากจะตกลงบนผืนน้ำแข็งในเขตวงกลมอาร์กติกและกรีนแลนด์ ทำให้การละลายตัวของผืนน้ำแข็งในมหาสมุทรเนื่องจากภาวะโลกร้อนยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
คณะนักวิทยาศาสตร์ของ CAMS ยังชี้ว่า แม้ไฟป่าในไซบีเรียจะเกิดขึ้นทุกปี และคนท้องถิ่นส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สถิติจากข้อมูลดาวเทียมชี้ว่า ไฟป่าไซบีเรียกำลังขยายวงกว้างขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกขณะ
ผู้เชี่ยวชาญประมาณการว่าไฟป่าไซบีเรียในปีนี้กินพื้นที่กว้างถึง 161,300 ตารางกิโลเมตร โดยอาจเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยพื้นที่ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ในเขตไซบีเรียเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว มีขนาดใหญ่กว่าบริเวณที่กำลังเกิดไฟป่าในขณะนั้นทั่วโลกมารวมเข้าด้วยกัน
การเกิดไฟป่ารุนแรงในเขตอากาศหนาวจัดเช่นนี้ สะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบันของภาวะโลกร้อนที่ยิ่งเลวร้ายลงทุกที โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของกลุ่มกรีนพีซประจำรัสเซียได้ชี้ถึงสาเหตุของไฟป่าขนาดใหญ่ ว่าเกิดจากความละเลยไม่ใส่ใจของภาครัฐ ทั้งยังมีกฎหมายห้ามไม่ให้จัดการดับไฟ หากหน่วยปฏิบัติการผจญเพลิงต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง หรือในกรณีที่ไฟป่าไม่ได้ไหม้ลามถึงเขตที่อยู่อาศัย
ไฟป่าที่รุนแรงกินบริเวณกว้าง ยังสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในบริเวณใกล้เคียงให้วิปริตแปรปรวนได้อีกด้วย โดยล่าสุดมีรายงานว่า ฝนได้ตกลงมาแทนหิมะที่ยอดเขาของกรีนแลนด์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจเป็นอิทธิพลจากภาวะโลกร้อนและไฟป่าครั้งใหญ่ในเขตไซบีเรียครั้งนี้ก็เป็นได้