รีเซต

กอ.รมน.-พยัคฆ์ไพร ตรวจยึด “จุดชมวิวผาตะวันงาม” บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง

กอ.รมน.-พยัคฆ์ไพร ตรวจยึด “จุดชมวิวผาตะวันงาม” บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง
มติชน
23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 23:35 )

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.และชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เข้าตรวจยึด “จุดชมวิวผาตะวันงาม” อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าเช็คอินชมวิว และเช่าที่พักเป็นลานกางเต็นท์ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยางหลังจากชาวบ้านร้องเรียน หลายหน่วยงานในพื้นที่แล้วยุติเรื่อง ไม่ดำเนินการต่อ จึงต้องร้องเรียนไปยังส่วนกลางให้เข้าตรวจสอบ

 

 

 

พ.อ.พงษ์เพชร  กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ รวม 15 นาย ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีเรื่องร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างร้านกาแฟ, ลานกางเต้นท์ และจุดชมวิวบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ ในท้องที่ บ.หนองหิน หมู่ 2 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยเมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางถึงพื้นที่บริเวณที่ร้องเรียน ตรวจสอบพบมีการปรับพื้นที่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่กางเต้นท์ เป็นลานกว้าง ประมาณ 5 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จำนวนมาก พบช่างกำลังก่อสร้างซุ้มนั่งรับประทานอาหารเพิ่มเติม ที่สร้างเสร็จแล้วนับได้รวม 16 ซุ้มผลการตรวจสอบพื้นที่ และการให้ถ้อยคำดังนี้

 

 

ทั้งนี้ พบพื้นที่บุกรุกใหม่ มีการใช้รถแทรกเตอร์ล้อยางดันดินลงไปที่บริเวณหน้าผาเป็นแนวยาว เพื่อขยายพื้นที่ทำเป็นจุดชมวิว โดยทำรั้วเป็นเหล็ก และไม้ไผ่กั้น สร้างซุ้มถ่ายรูป 2 ซุ้ม และซุ้มศาลาที่นั่งรับประทานอาหารจำนวน 6 ซุ้ม ติดรั้วริมหน้าผา ขณะตรวจสอบ มี น.ส.สายฝนฯ อายุ 48 ปี รับว่าเป็นเจ้าของ”จุดชมวิวผาตะวันงาม” โดยซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านหลายราย เจ้าหน้าที่จึงให้ น.ส.สายฝนฯ นำชี้ขอบเขตพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งขอบเขตพื้นที่บุกรุกใหม่ด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดดัวยสัญญาณดาวเทียม (จีพีเอส) ในระบบ UTM WGS 1984 มาคำนวณ เนื้อที่ได้66 -2 -44 ไร่

 

 

พ.อ.พงษ์เพชร  กล่าวว่า ได้มีการ สอบปากคำนายประถม  อาชีพเกษตรกร แจ้งว่าครอบครองพื้นที่สวนยาง 15 ไร่ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ แต่ตนและครอบครัวได้เข้ามาขายของในร้านของ น.ส.สายฝน ซึ่งซื้อที่ดินต่อจากตนเอง พื้นที่ยึดถือครอบครองของ น.ส.สายฝนฯ ได้ซื้อที่ดินมาประมาณ 20 ปี แต่เข้ามาพัฒนาสร้างจุดชมวิว, ลานการเต็นท์, ร้านอาหาร และร้านกาแฟ เมื่อประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา และได้เริ่มปลูกไม้ผล คือ สับปะรด และทุเรียน พร้อมทั้งขุดสระน้ำ จำนวน 2 สระ และสร้างน้ำตกจำลอง รูปปั้นทุเรียน,สับปะรดไว้ให้นั่งท่องเที่ยวถ่ายรูป พื้นที่ที่ตนครอบครองไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ โดยซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าทับที่ดินชาวบ้านที่มีการสำรวจการถือครอง(มติ ครม.30 มิ.ย.2541) รวม 9 ราย

พ.อ.พงษ์เพชร  กล่าวว่า ได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ มีการสำรวจการถือครองแล้วตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 บุคคลที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ได้มีเงื่อนไขว่าห้ามบุกรุกขยายพื้นที่ หรือห้ามเปลี่ยนมือ แต่ผู้ครอบครองพื้นที่เดิมทำผิดเงื่อนไข โดยขายเปลี่ยนมือให้ น.ส.สายฝนฯ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บุกรุกรายใหม่แล้ว อีกทั้ง น.ส.สายฝนฯ ได้บุกรุกใหม่ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก

“จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นการเข้ายึดถือครอบครองหรือทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกระทำผิด พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ประกอบ 72 ตรี ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”,มาตรา 55 ฐาน”ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น” พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ประกอบ
มาตรา 31 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

มาตรา 26/4 “ผู้กระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลาย หรือ เป็นเหตุให้เกิดการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้น มีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น”

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจัดทำบันทึกตรวจยึดพื้นที่บุกรุก จำนวน 66 – 2 – 44 ไร่ คิดค่าเสียหายเบื้องต้นของรัฐเป็นเงิน จำนวน 4,545,747 บาทซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้มอบให้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14
(น้ำคลาด) กล่าวโทษต่อ พงส.สภ.บ้านแยง เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.สายฝนฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตาม ปจว.ข้อ เวลา เป็นคดีอาญาที่ /2565 ลงวันที่ 22 ก.พ.2565 ความคืบหน้าผลการปฏิบัติจะรายงานให้ทราบต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง