หากกล่าวถึง “เป็ด” ในประเด็นที่เทียบกับคนแล้วนั้นหมายถึง ทำอะไรได้หลายอย่างแต่ไม่สุดสักอย่าง เหมือนเป็ดที่ว่ายน้ำได้ บินได้ เดินได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นที่สุดสักอย่าง ต่างจากสัตว์อื่นๆที่มีทักษะที่เด่นชัดออกมาเมื่อเปรียบกับคนแล้วคนที่ทำอะไรได้หลากหลายจะถูกเรียกว่า “มนุษย์เป็ด” หากเป็นแต่ก่อนคำว่ามนุษย์เป็ดคงเป็นอะไรที่ดูแย่ ดูเหมือนการบูลลี่ดูถูกกันว่าไม่เก่งสักอย่าง หากมองในรายละเอียดแล้ว อาจจะเป็นเช่นนั้นได้ และ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นเป็นเป็ดที่ทีความสามารถมากแค่ไหน ไปบินแข่งกับเหยี่ยวก็ชนะหรือแค่นกกระจิบก็แพ้แล้ว ไปวิ่งแข่งกับนกกระจอกเทศก็ชนะหรือแข่งกับลูกเจี๊ยบก็แพ้แล้วบทความนี้ผมจะขอนำความเป็น มนุษย์เป็ด มาเล่าสู่กันฟังว่า หากจะคุยเกี่ยวกับมนุษย์เป็ดแล้ว มีอะไรให้เล่าให้ลงรายละเอียดกันบ้าง 1. มนุษย์เป็ด กับ มนุษย์อะไรก็ได้ นั้นแตกต่างกันขอนำประเด็นนี้มาพูดก่อนเลย “คนที่ทำอะไรได้หลายอย่าง” กับ “คนที่ทำอะไรก็ได้” นั้นแตกต่างกัน ไม่ได้ต่างกันเพียงแค่ชื่อเรียก แต่ต่างกันมากๆ ผมจำเป็นต้องแบ่งคนสองกลุ่มนี้ออกจากกันเสียก่อน เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า มนุษย์เป็ดนั้นแท้จริงแล้วจะต้องเป็นยังไง ผมขอนิยามสั้นๆ ดังนี้คนที่ทำอะไรได้หลายอย่าง คือ มีความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่ทำ มากพอในระดับหนึ่ง ที่สามารถทำผลงานออกมาได้ดี สามารถอธิบายพูดคุยเรื่องต่างๆกับคนในสายงานนั้นได้เข้าใจตรงกันคนที่ทำอะไรก็ได้ คือ มีความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่ทำ ยังไม่มากพอ ทำผลงานออกมาได้ทั่วไป ยังไม่ สามารถอธิบายพูดคุยเรื่องต่างๆกับคนในสายงานนั้นได้เข้าใจตรงกันได้คีย์เวิร์ดสำคัญของสองกลุ่มนี้คือ “ “ความรู้” , “ความเข้าใจ” , “สื่อสารได้” ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งมีความเป็นมนุษย์เป็ดมากขึ้น ซึ่งทั้งสามคีย์เวิร์ดนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่การทำงานออกมาสำเร็จ ไม่ใช่แค่เสร็จ หากจะกล่าวให้เห็นภาพมากขึ้นคือ มนุษย์เป็ดมีโอกาสทำงานสำเร็จได้มากกว่ามนุษย์อะไรก็ได้“นั่นเพราะเขารู้ว่าต้องทำอย่างไร ด้วยวิธีไหน เครื่องมืออะไร ขั้นตอนมีอะไรบ้าง เขาทำเป็น ไม่ใช่แค่ทำได้”แค่ข้อแรกก็ฟังดูเหมือนผมบูลลี่คนซะแล้ว แต่นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้ว่า “ทำเป็น กับ ทำได้” นั้นแตกต่างกัน และ “ทำเสร็จ กับ ทำสำเร็จ” นั้นแตกต่างกัน ยิ่งทำเป็นมากเท่าไหร่ ยิ่งทำสำเร็จมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใกล้มนุษย์เป็ดที่แท้จริงมากเท่านั้น 2. นิสัยและทักษะที่มนุษย์เป็ดต้องมีผมจะขอกล่าวถึงนิสัยและทักษะที่มนุษย์เป็ดต้องมี ที่ช่วยทำให้เรามีความเป็นมนุษย์เป็ดที่ชัดเจนขึ้น ที่มีความสามารถไม่เป็นเป็ดทั่วไป ว่ามีอะไรบ้างเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอเป็นนิสัยที่สำคัญมากๆของการเป็นมนุษย์เป็ด ซึ่งตรงกับคีย์เวิร์ดที่ผมบอกไว้ก่อนหน้าว่า ความรู้ ความเข้าใจ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความเป็นมนุษย์เป็ดมากขึ้นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอนี้ ผมหมายถึง การเปิดรับทุกอย่างทุกความรู้ โดยยังไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดมากนักระดับศึกษาจนเข้าใจถ่องแท้ เพราะหลายๆเรื่องยังไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น สำหรับผมเองก็มีทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก ปะปนกันไป ได้ยินคำศัพท์บางคำมา ไม่เคยรู้จักมาก่อน ก็จะนำไปค้นหาเพิ่มเติมว่าคืออะไร หรือกรณีสนใจในประเด็นสำคัญก็จะศึกษาในประเด็นนั้น ซึ่งสามารถทำได้ทั้งเรียนรู้ไว้ก่อนหรือเรียนรู้เมื่อสนใจนิสัยนี้จึงสำคัญมาก เพราะหากคุณไม่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยตัวเอง ต้องรอให้มีคนสั่งหรือรอให้เป็นหน้าที่ การเป็นมนุษย์เป็ดนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเมื่อต้องทำอะไรด้วยคำสั่งหรือหน้าที่แล้ว การกระทำนั้นๆจะเหมือนขอแค่ทำให้เสร็จๆไปเท่านั้น ต่อยอดสิ่งที่ตนชอบหรือสิ่งที่เกี่ยวกับธุรกิจบริษัทการต่อยอดในสิ่งที่เราชอบเราสนุกกับมัน เป็นสิ่งที่ผมแนะนำให้ทำ ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำหรือธุรกิจของบริษัท ก็ยิ่งน่าศึกษาหาความรู้ต่อยอดไปเรื่อยๆได้โดยไม่ต้องรออะไร หากคุณต้องการเติบโตยิ่งควรทำ นั่นเพราะเป็นการเตรียมตัวเพื่อรอรับโอกาสที่อาจจะเข้ามาหาเราในอนาคต จริงอยู่ที่ไม่มีใครรู้ได้ว่าโอกาสจะมาเมื่อไหร่ แต่หากโอกาสมาถึงแล้วคุณพร้อมรับมันไว้ โอกาสนั้นจะเป็นของคุณ และคุณสามารถทำให้สำเร็จได้ไม่ยากเลย ต่างกันกับที่คนอื่นอาจไม่รู้เลยหรือรู้น้อยกว่าเรา คงไม่มีเจ้านายคนไหนเอาโปรเจคงานสำคัญไปให้คนที่ไม่พร้อมหรอกสิ่งที่ผมแนะนำนี้จึงสำคัญมากเช่นกัน ไม่ใช่เพียงโอกาสจากบริษัท คุณอาจจะไปเจอประกาศสมัครงานบริษัทอื่น ที่ทำให้คุณเติบโตในหน้าที่การงานก็ได้เช่นกัน คุณพร้อมกว่าดีกว่าแต้มต่อก็มีมากกว่าคนอื่นแล้วการฟัง และ จับใจความหนึ่งในการเรียนรู้ที่ดีคือการฟังจากผู้มีประสบการณ์ เราสามารถพบเจอได้ทั้งในที่ทำงานหรือคู่ค้านอกบริษัทที่เราต้องเจอ ไปจนถึงการฟังพอดแคสต่างๆ นอกจากการเรียนรู้แล้ว ในการทำงานจริงนั้น คุณเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องประสานงานกับคนหลากหลายแผนก หรือ คู่ค้าบริษัทที่ต้องพบเจอกันเสมอ ทักษะการฟัง และ จับใจความ จึงเป็นทักษะที่มนุษย์เป็ดต้องมี ซึ่งการฟังที่ผมหมายถึงนี้ ประกอบด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่พูดแทรก และ ไม่คิดแทนผู้พูด จะพูดเมื่อถึงจังหวะที่พูดได้ฟังอย่างตั้งใจ จดบันทึกเท่าที่จำเป็น เน้นฟัง แล้วไปเขียนเรียบเรียงภายหลัง ไม่จดทุกคำพูดที่ได้ยิน จนเสียสมาธิการฟังไปไม่ด่วนสรุปสิ่งที่ได้ยิน จนกว่าจะฟังจบ เพราะผู้พูดอาจจะสรุปสิ่งที่เราอยากถามไว้ตอนท้ายไดฉะนั้นแล้วการวางตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ตอบสนองตอบโต้ไปตามเหมาะสม ถือเป็นอีกทักษะสำคัญที่ต้องมีด้วย และ จะเป็นทักษะที่ทำให้ตัวเราน่ารักมากขึ้นด้วยจากการที่ฟังคนอื่นพูด โดยไม่ได้ขัดหรือคิดแทนเขา การเรียบเรียงและเล่าเรื่องทักษะนี้ต้องมาคู่กันแยกออกจากกันไม่ได้ แต่สามารถอธิบายแยกประเด็นได้ คือการเรียบเรียง เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรียบเรียงจากการฟัง ที่เราจำเป็นต้องฟังทั้งหมดก่อนแล้วทำการเรียบเรียงออกมาเป็นความเข้าใจในแบบเรา ภาษาเรา คุณไม่สามารถที่จะไปบอกขอผู้พูดว่าช่วยหยุดพูดก่อน ขอเขียนท่อนเมื่อกี้ก่อนได้เลย นั่นเป็นการเสียมารยาทต่อผู้พูดมาก ที่ทำได้ก็คือจดคีย์เวิร์ดสำคัญไว้เป็นคำ เป็นประโยค แล้วนำมาเรียบเรียงอีกทีหลังเสร็จสิ้นการพูดคุยการเล่าเรื่อง ฟังดูไม่สำคัญ แต่แท้จริงแล้วสำคัญมาก เพราะคุณเองไม่ได้ทำงานกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว คนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว ต้องพบเจอหลายคนหลายฝ่าย การเล่าเรื่องให้ผู้คนที่แตกต่างกัน ให้เข้าใจตรงกันเป็นเรื่องที่ท้าทาย การเอาเรื่องไอทีไปเล่าฝ่ายบัญชีต้องเล่าอย่างไร การเอาเรื่องบัญชีไปเล่าฝ่ายขายต้องเล่ายังไง เพื่อสื่อสารให้ตรงประเด็นที่ต้องการจะเห็นว่าทั้งสองส่วนแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะว่าเมื่อคุณจะต้องเล่าอะไรสักอย่างคุณก็ต้องเรียบเรียงก่อนเสมอ ลำดับเรื่องราวการใช้คำต่างๆ ผมแนะนำว่าห้ามโดยเด็ดขาดที่จะเล่าโดยไม่เรียบเรียงอะไร เพราะจะทำให้คุณดูไม่น่าเชื่อถือได้ จากการพูดที่ไม่ไหลลื่น ไม่เป็นลำดับการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆข้อนี้จะดูคล้ายๆกับการเรียบเรียง แต่จะแตกต่างออกไปพอควร เพราะเป็นการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆที่มีมาเพื่อใช้ หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Connect the dot กันมาบ้างแล้ว ที่ผมจะเล่าคือสิ่งนี้Connect the dot แปลได้ตรงว่าเชื่อมโยงจุด โดยจุดที่ว่าก็คือ “ความรู้” ที่เรามีอยู่ทั้งหมด จากพื้นฐานต่างๆในข้อก่อนหน้าที่ผมเล่าไว้แล้ว ยิ่งรู้มากจุดก็ยิ่งมาก ยิ่งเข้าใจมากจุดนั้นก็เด่นชัด ยิ่งศึกษามากจุดนั้นก็ใหญ่ตาม เมื่อเราได้รับโจทย์สักอย่างที่ทำจะทั้งจากหน้าที่การงานหรือสิ่งอยากทำส่วนตัว เราก็ต้องเชื่อมโยงองค์ความรู้ที่จำเป็นมาใช้ร่วมกัน เพื่อให้สิ่งที่จะทำนั้นถูกคิดและพิจารณาอย่างรอบด้านมากขึ้นฟังดูยุ่งยาก แต่นี่คือสิ่งจำเป็นมากๆ สมมติว่า จะเปิดร้านขายไข่เจียว คุณรู้หรือไม่ว่า ต้องใช้ Dot ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 อย่าง ได้แก่ อุปกรณ์ครัว , ไข่ , ข้าว , เครื่องปรุง และ น้ำมัน คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ว่ากะทะแบบไหนเหมาะกับการทำไข่เจียว , ไม่รู้ว่าเครื่องปรุงเดียวกัน ต่างยี่ห้อกันจะให้รสต่างกัน เป็นต้น ฉะนั้นแล้วหากเป็นหน้าที่การงานก็ยิ่งสำคัญมาก ยิ่งโปรเจคใหญ่เท่าไหร่ มีผู้เกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ ผู้ที่เป็นโปรเจคเมเนเจอร์ยิ่งต้องรู้และเข้าใจในแต่ละเรื่องให้รอบด้านที่สุด เชื่อมโยงความรู้ต่างๆมาใช้ให้ได้มากที่สุด ปฏิเสธงานให้เป็นอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นถึงความต่างของ มนุษย์เป็ด และ มนุษย์อะไรก็ได้ นิสัยปฏิเสธให้เป็นจึงเป็นนิสัยสำคัญนิสัยหนึ่งที่มนุษย์เป็ดมี เพราะมนุษย์เป็ดเองก็มีงานมีความรับผิดชอบที่ต้องทำ มีทักษะความรู้มากน้อยต่างกันไป แล้วมนุษย์เป็ดควรจะปฏิเสธงาน ด้วยเหตุผลใดบ้างงานที่รับผิดชอบอยู่มีมากพอแล้ว ข้อนี้ถือเป็นจุดประสงค์หลักของการปฏิเสธให้เป็น เพื่อไม่รับงานมามากจนกระทบงานที่ตนเองต้องรับผิดชอบอยู่ มนุษย์เองต้องพิจารณาด้วยตัวเองว่ายังสามารถรับงานเพิ่มมาได้หรือไม่ ยิ่งหากเป็นงานไหว้วานที่ช่วงนั้นไม่มีเวลาว่างพอ ก็ต้องปฏิเสธให้เป็น ไม่งั้นงานเราที่วางไว้จะเสียแทนงานยังไม่พร้อมทำ หากเรามีเวลาพอรับงานเพิ่มได้ ผมแนะนำว่าอย่ารับงานที่ยังไม่พร้อมทำ เพราะถ้าเราทำไปด้วยความรู้ความเข้าใจที่ยังไม่พร้อมพอ ก็จะทำให้งานนั้นเสียได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นว่าหากเป็นงานที่ไม่มีผลเสียใดๆกับบริษัท ผมแนะนำให้ลองทำดู หรือถ้ามีผู้รับผิดชอบงานนั้นแล้ว ถ้าคุณอยากลองทำ ผมแนะนำให้คุณขอทำสิ่งนั้นด้วยโดยคุยกับหัวหน้าหรือเจ้านายให้ชัดว่าลองทำเฉยๆไม่ใช่การรับงาน เพื่อทดลองความรู้ความเข้าใจของคุณเองงานที่ไม่สำคัญกว่างานที่ทำอยู่ เมื่อเราเป็นมนุษย์เป็ด ย่อมทำอะไรได้หลากหลาย สิ่งนี้จะนำพางานหลากหลายเข้ามาสู่ชีวิตเราได้ไม่ยาก ตั้งแต่งานเล็กแบบไหว้วานจากเพื่อร่วมงานไปจนงานใหญ่จากหัวหน้าหรือเจ้านาย การปฏิเสธงานที่ไม่ได้สำคัญไปกว่างานที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ก็มีข้อยกเว้นว่าหากคุณมีเวลาที่พอรับงานได้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ ผมแนะนำให้เลือกจากสำคัญของงานนั้นที่มีต่อบริษัท หรือ งานในทีมตนเอง ก่อนหน้างานอื่นๆหลายท่านอาจจะกลัวการปฏิเสธงานเป็นนิสัยที่ไม่ดี แต่นั่นก็อย่างที่บอกไว้หากปฏิเสธอย่างมีเหตุผลปราศจากอารมณ์นั้น จะสร้างความเป็นมืออาชีพของคุณในสายตาหัวหน้าหรือเจ้านายทันที ซึ่งต่างกับการเกี่ยงงานที่ดูไร้เหตุผลและใช้อารมณ์ ฉะนั้นแล้วมนุษย์เป็ดที่งานแน่นแล้วต้องปฏิเสธงานอย่างมีเหตุผลให้เป็นด้วย 3. ทำไมมนุษย์เป็ดถึงสำคัญต่อองค์กรด้วยความที่โลกปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากมาย ตามนิยามของคำว่า VUCA หรือ BANI ก็ตามTrend ในการจ้างงานของบริษัทต่างๆ จึงเลือกที่จะมีพนักงานที่มีทักษะแบบ Multipotentiality หรือ คนที่ทักษะความสามารถหลากหลาย แทนการมีพนักงานที่ทำได้เฉพาะทาง เพื่อให้งานต่างๆในบริษัทดำเนินไปอย่างราบรื่น ฉะนั้น “มนุษย์เป็ด” จึงเป็นบุคคลที่เข้าเกณฑ์ครั้งนี้อย่างที่เล่าไว้ข้างต้นถึงนิสัยและทักษะที่มนุษย์เป็ดต้องมีไว้แล้วนั้น จะพบว่าเป็นข้อสำคัญในทุกข้อ โดยนำมาใช้งานในแต่ละสถานการณ์ตามแต่ที่พบเจอ นิสัยและทักษะที่สำคัญมากๆ จะมี 3 ข้อได้แก่ความรู้ความสามารถที่หลากหลายด้วยหน้าที่หลักของเราในบริษัทนั้นคงไม่ใช่มนุษย์เป็ดที่คอยช่วยใครก็ได้ มีหน้าที่ต้องทำเป็นหลัก แต่หากมีความรู้ต่างๆสะสมไว้ เมื่อจำเป็นต้องใช้งานขึ้นมาแล้ว มนุษย์เป็ดจะหยิบมาใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาไปทำความเข้าใจ หรือให้ใครมาอธิบายเพิ่มเติม สิ่งที่เป็นผลดีคืองานนั้นจะราบรื่นขึ้น และ ใช้เวลาน้อยลงการเรียนรู้สิ่งใหม่และพัฒนาอยู่เรื่อยๆด้วยความที่มนุษย์เป็ดมีนิสัยเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ ถือเป็นแต้มต่ออย่างมากที่จะช่วยให้บริษัทเติบโตก้าวไปได้ เป็นต้นว่าคุณรู้จักและแนะนำเครื่องมือสักอย่างเพื่อช่วยแก้ปัญหาทีมขายและสามารถแก้ไขได้จริง ทั้งๆที่คุณไม่ใช่ฝ่ายขายโดยตรง สิ่งนี้จะทำให้บริษัทมองเห็นคุณค่าความเป็นเป็ดของคุณ และมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานได้ด้วยการเป็นตัวกลางสื่อสารที่ดีคงเป็นไปได้ยากที่จะเอาภาษาบัญชีไปอธิบายคนแผนกอื่น หรือ ภาษาไอทีไปอธิบายคนที่ไม่รู้ไอที ให้เขาเข้าใจได้ มนุษย์เป็ดจึงมีบทบาทสำคัญที่จะเชื่อมโยงสื่อสารผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพให้เขาเข้าใจได้ ลองนึกภาพการเขียนโปรแกรมที่มีแผนกต่างๆเข้าร่วมสัก 5 แผนก แล้วต่างคนต่างใช้ภาษาในสาขาตนเองดู คงวุ่นวายน่าดูถ้าไม่มีใครสักคนคอยเรียบเรียงคำใหม่ให้เข้าใจตรงกันได้จากที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ผมเองก็หวังว่าจะช่วยให้คนที่คิดว่าตัวเองทำอะไรไม่สุดสักอย่าง กลัวว่าจะไม่เติบโตในหน้าที่การงาน เป็นมนุษย์เป็ดอยู่วันๆไป เห็นภาพว่าจะเป็นเป็ดแบบไหนที่จะเติบโตได้ในหน้าที่การงาน เป็นมนุษย์เป็ดที่แข็งแกร่ง มีความรู้ความสามารถ ทุกๆข้อที่เล่าไว้ ขึ้นกับตัวคุณเองเลือกทั้งหมด ไม่ได้ขึ้นกับใคร ขอให้ค่อยๆพัฒนาตัวเองต่อไป สะสมความรู้ความสามารถไปเรื่อยๆ และ ขอให้โอกาสดีๆเข้ามายังคุณ แล้ววันนั้นคุณจะขอบคุณตัวเองมากๆที่เป็นมนุษย์เป็ดที่พร้อมกับโอกาสนั้นครับหวังว่าสิ่งนี้ จะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่าน ขอบคุณที่ตามอ่านครับขอบคุณภาพและผลงานต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยภาพปก : โดยผู้เขียนภาพที่ 1 : ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabayภาพที่ 2 : ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabayภาพที่ 3 : ภาพโดย Vicki Hamilton จาก Pixabayภาพที่ 4 : ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์