เชื่อว่า เราหลายคนฝันอยากเป็นนายตัวเอง ไม่ต้องไปทำงานประจำที่ถูกจำกัดด้วยฐานเงินเดือนที่ไม่ค่อยจะขยับมากนัก ต้องทำงานไปหลายปีกว่าจะได้เพิ่มเงินเดือนหรืออาจไม่ได้เพิ่มเลยก็ได้ถ้าเขาเห็นว่าเราอายุมากแต่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพทางเลือกที่จะทำให้เรามีรายได้มากขึ้นนอกเหนือจากการทำงานประจำและการลงทุนแล้ว นั่นก็คือการเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจอะไรสักอย่างหนังสือ ENTREPRENEUR REVOLUTION ถูกวางจำหน่ายในช่วงที่คนตกงานจากโควิด 19 พอดี เรียกได้เราหลายคนถูกบังคับให้เป็นผู้ประกอบการจำเป็นกันเลยทีเดียว ระหว่างที่กำลังหางานใหม่นั้น เราอาจลองค้นหาคำตอบจากหนังสือเล่มนี้ดูก็ได้ว่าคนเป็นผู้ประกอบการเขาต้องทำอะไร ต้องคิด ต้องจัดการอะไรบ้าง ซึ่งบอกก่อนเลยว่าไม่หมูเอาซะเลยเนื้อหาภายในเล่ม ส่วนที่ 1 ปลดปล่อยพันธนาการจากเศรษฐกิจในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมส่วนที่ 2 ค้นหาที่ทางของคุณในโลกแห่งการปฏิวัติผู้ประกอบการส่วนที่ 3 การใช้ชีวิตตามแบบการปฏิวัติผู้ประกอบการแนวคิดที่ได้ภายในเล่มในมุมมองของผู้เขียนถ้าคุณทำอะไรที่คุณเกลียด สิ่งที่ทุ่มเทไปจะไม่มีทางเห็นผลตอบแทนในอนาคตความท้าทาย 10 ประการที่จะปลุกสมองแบบผู้ประกอบการรู้จักคุยกับคนแปลกหน้าด้วยการโทรหาคน 3 คนมีบัญชีเงินฝากที่ฝากแล้วตั้งใจจะไม่ถอน จะได้รู้สึกถึงความมั่นคงทางการเงินรู้จักหาเพื่อนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจรู้จักถือเงินสด แล้วไม่ถูกกิเลสครอบงำ มันเป็นการสร้างความรู้สึกดีที่ว่าเรามีเงิน และเลือกที่จะซื้อของราคาที่เงินในมือเราซื้อได้ แต่เราไม่ซื้อจนกว่าเราจะทำเงินได้ง่ายและทำเงินได้มากพอรู้จักพาคนหน้าใหม่ไปเลี้ยงข้าวทุกสัปดาห์ เพื่อรู้จักสร้างเครือข่ายกับผู้คนปิดตัวเองออกจากข่าวสารดราม่าต่างๆที่รบกวนจิตใจเขียนบันทึกประจำวัน เพื่อบันทึกความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน อาจทำให้เรารู้จักวางแผน เขียนโครงการที่อยากทำในอนาคต เขียนเป้าหมาย แผนการตลาด แล้วความคิดเราจะแหลมคมขึ้นวางแผนท่องเที่ยวก่อนเรื่องอื่น ที่ทำเช่นนี้เพื่อไม่ให้เราหมกมุ่นกับงานจนไม่มีเวลาไปเที่ยวกับครอบครัวจัดระบบ รู้จักปรึกษากับนักบัญชีและทนายความเกี่ยวกับธุรกิจของเรา ทั้งการวางแผนภาษี วางแผนป้องกันการถูกฟ้องร้องและการปกป้องลิขสิทธิ์ทางธุรกิจของเราหาทีมที่มีความเป็นผู้ประกอบการให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบกราฟิกเพื่อทำภาพการโฆษณา นักขาย นักการตลาด นักเทคนิคอย่างวิศวกร เภสัชกร (ถ้าธุรกิจของเราเกี่ยวกับยา เวชภัณฑ์รักษาโรค) และพี่เลี้ยงที่สามารถให้คำแนะนำกับธุรกิจเราได้ความจริงอันโหดร้าย 7 ข้อเกี่ยวกับผู้ประกอบการปัญหาจะยาก และยากขึ้นไปเรื่อยๆทีมงานของเราอาจทำงานผิดพลาดได้ ขอให้ศรัทธาในศักยภาพของพวกเขา ฝึกฝนเขาให้เก่งขึ้นทุกวันขายของให้เป็น สร้างคุณค่าให้ตรงกับความต้องการของตลาดต้องปรับตัวไปตามยุคสมัยมีสักวันที่ล้มเหลวถึงขั้นมืดแปดด้าน เพราะหาทางออกของปัญหาไม่เจอ ขอให้ลงมือทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สู้กับปัญหา แม้ว่าปัญหามันจะสู้กลับ มันเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวไปสู่ความสำเร็จหุ้นส่วนผิดสัญญา คำสัญญาที่ตกลงไว้บิดเบือนได้ ที่ตกลงกันมาผิดพลาดหมด ขอให้เตรียมใจรับมือเรื่องแบบนี้ไว้เราไม่ใช่คนที่จะรอรับความสำเร็จ เราแค่คอยแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ (ในความหมายทางธุรกิจนั้น หมายถึง การสร้างสิ่งที่ลูกค้าต้องการและลูกค้ายอมจ่ายเงินให้ แต่อาจจะไม่ถึงกับเป็นที่ชื่นชมของลูกค้ามากนัก)ปัจจัย 3 อย่างที่ผู้ประกอบการต้องมี เพื่อทำให้ความคิด พรสวรรค์ และโอกาสเป็นจริงโชค ที่ได้เข้าถึงปัจจัย 4 และอินเทอร์เน็ต รู้จักหาความรู้และรู้จักเรียนรู้เพื่อสร้างโชคให้ตัวเองมากขึ้นไปอีกชื่อเสียง ที่เกิดจากการมีผลงาน ทั้งจากการเป็นนักเขียน เป็นหุ้นส่วนช่วยในการขาย พัฒนาสินค้า รู้จักสร้างเครือข่ายในแวดวงอุตสาหกรรมเดียวกันกับธุรกิจของเราชีวิตชีวา เพราะการทำตามหน้าที่อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีชีวิตชีวาด้วย งานที่ทำมันถึงจะออกมาดีเงิน ความมั่งคั่ง อำนาจ และอิทธิพล จะเคลื่อนไปหาคนที่มีพลังชีวิตที่ใครก็ทดแทนไม่ได้ หาโอกาสทำสิ่งที่รักตลอดแล้วเราจะไม่ฝันถึงการเกษียณอีกเลยถ้าเราไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน อย่าเพิ่งออกไปผลิตสินค้าด้วยตัวเอง ออกไปหาคนที่มีสินค้าที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว จากนั้นช่วยเขาให้เขาขายได้มากขึ้น หรือช่วยเขาไปเปิดตลาดใหม่ๆการเป็นนายหน้าจะไม่ต้องกังวลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แค่มีทักษะการขายเก่งๆ การตลาด และการจัดการที่ดี หาหนทางขายให้มีประสิทธิภาพ ธุรกิจนายหน้าไม่ดึงดูดนักลงทุน แต่มันจะสอนทุกๆอย่างเกี่ยวกับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จภาวะสมองแบบต่างๆสมองแบบสัตว์เลื้อยคลาน เป็นไปเพื่อต่อสู้ หนีตาย ทำตามสัญชาตญาณต่างๆในแง่ลบ เช่น ความก้าวร้าว ความกลัว ความตกใจสมองแบบลิง เป็นไปเพื่อการเรียนรู้ จดจำ ทำซ้ำ เพื่อดำรงชีวิตให้ปลอดภัย สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ไม่ค่อยมีความฉลาดทางอารมณ์สมองแบบผู้ประกอบการ เป็นไปได้จากการมีแรงบันดาลใจ มีกลยุทธ์ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดได้ มีความฉลาดทางอารมณ์ หลงใหล มีความรัก และมีอารมณ์ขันหลักการ 9 ข้อที่ทำให้สร้างผลลัพธ์และเป้าหมายนั้นเติบโตได้คุณจะได้ในสิ่งที่คุณขายความคิดออกไป และจะขายความคิดนั้นตลอดไป ยกตัวอย่าง ถ้าเราขายความคิดว่าเราไม่มีเงิน คนอื่นได้ยินก็เชื่อ แล้วเราก็จะเป็นไปตามนั้น แต่ถ้าเราขายความคิดว่าชีวิตเป็นเรื่องที่ดี และเราคือคนโชคดี เราก็จะโอกาสอย่างว่าเต็มไปหมดอิทธิพลของเราเกิดจากผลลัพธ์ที่เราสร้าง ไม่ได้เกิดจากความมั่นใจอะไรทั้งสิ้นรายได้จะวิ่งตามทรัพย์สิน ไม่ได้วิ่งตามความพยายามสร้างชื่อเสียงผ่านทางความสำเร็จของลูกค้าของเราเป็นคู่ค้าธุรกิจกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราความคิดเป็นสิ่งไร้ค่า การลงมือทำสำคัญที่สุด เพราะบ่อยครั้งความคิดไม่ทำเงิน ต้องร่างแผน ลงมือทำออกมาเป็นรูปเป็นร่าง มันถึงจะทำเงิน จริงอยู่ มันเกิดจากความคิด แต่ก็ต้องนำความคิดมาลงมือทำด้วยผลงานจะพูดความจริงออกมาเอง โดยตลาดจะเป็นตัวตัดสินว่าผลงานนั้นเป็นที่ต้องการหรือไม่อย่าเพิกเฉยต่อสัญชาตญาณในตัวเรา เพราะมันจะคอยเตือนสัญญาณอันตรายให้ได้ถ้ามองเห็นปัญหา ขอให้ประเด็นหาทางแก้ไข และเผื่อใจถึงความล่าช้าวุ่นวายเอาไว้ด้วยบริษัทที่จะมีผลประกอบการที่ดีในอนาคต คือ บริษัทที่ถกกันในเรื่องความรักในห้องประชุม ด้วยคำถามอย่างเราจะสร้างธุรกิจแบบไหน ทำอย่างไรให้คนรักที่จะทำงานกับเรา ซื้อของกับเรา ผลิตของส่งให้เรา รักที่จะพูดถึงเรา รักที่จะเห็นเราทำผลงานได้ดี การพูดเรื่องทำยอดขายให้เติบโต เอาชนะคู่แข่ง เป็นผู้นำตลาด จะไม่พาเราไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จ การพูดเรื่องความรักต่างหากที่จะพาเราไปถึงความสำเร็จต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่หนังสือ How to ที่บอกขั้นตอนที่สามารถหยิบไปใช้ได้เลย แต่มันเป็นแนวคิดให้เราเข้าใจอีกชีวิตหนึ่งของผู้ประกอบการว่าเขาทำงานกันอย่างไร เพราะไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งเราอาจจะเป็นผู้ประกอบการเองก็ได้ในยุคที่งานประจำเริ่มถูกลดจำนวนการจ้างงาน เพราะเป็นการสิ้นเปลืองต้นทุนของบริษัท ทำให้กระตุ้นเตือนตัวเองว่าสักวันเรายังต้องมีรายได้ประจำหลายทางเสมอ เพราะงานไม่ประจำไม่มีความมั่นคงอีกต่อไป ความมั่งคั่งสามารถสร้างได้หลายทาง หนึ่งในนั้นคือการเป็นผู้ประกอบการ สำหรับตัวผู้เขียนแล้วมันทำให้ตระหนักว่าการจะเป็นผู้ประกอบการได้นั้นมันไม่ง่ายเลย ข้อคิดที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะมีความหมายถ้าเราได้เริ่มต้นลงมือทำจนถึงจดๆหนึ่งจนกระทั่งสร้างธุรกิจออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้แล้ว ถึงแม้ตัวผู้เขียนเอง(หมายถึงตัวครีเอเตอร์นะ ไม่ใช่ผู้เขียนหนังสือ Daniel Priestley) จะยังไม่มีธุรกิจอะไรเลยก็ตาม แต่ผู้เขียนก็มองว่าแนวคิดการทำธุรกิจและแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้และตระหนักว่ามันทำให้เราปวดหัวเพียงใด.... แต่ถ้าถึงวันที่ทำสำเร็จ... ผลตอบแทนมันจะคุ้มค่า หอมหวานจนเราไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ เราจะรักตัวเองและมีความสุขกับชีวิตมากยิ่งขึ้น เครดิตภาพภาพปก โดย 4045 จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย ASDFpik จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย pressfoto จาก freepik.comภาพที่ 5 โดย rawpixel.com จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูกรีวิวหนังสือ รวยระดับอาเซียน (Think Like CEO)รีวิวหนังสือ งานประจำสอนทำธุรกิจรีวิวหนังสือ คิดรวยแบบวิกรมรีวิวหนังสือ The Visual MBAอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !