Nvidia ดึงเกม ! พัฒนาระบบยืนยันตำแหน่งชิป AI ท่ามกลางศึกชิป สหรัฐฯ–จีน l TNN Tech

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ อนุมัติการส่งออกชิป H200ให้จีน แลกกับการแบ่งรายได้ 25% เข้าคลังสหรัฐฯ ทำให้ประเด็นการลักลอบขนชิปกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อมีการจับกุมชาวจีน 2 รายในคดีพยายามลักลอบนำชิป Nvidia H100 และ H200 ซึ่งเป็นชิป AI ระดับสูงออกจากสหรัฐฯ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงถือเป็นจังหวะดีที่เอ็นวิเดีย (Nvidia) บริษัทเทคฯ ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ว่าชิปกำลังถูกใช้งานอยู่ในประเทศไหน และช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ชิปจะถูกส่งต่อไปยังพื้นที่ที่ถูกควบคุมหรือ พื้นที่ที่ถูกจำกัด
โดยทาง Nvidia ได้พัฒนาเทคโนโลยี “ยืนยันตำแหน่งชิป” (Location Verification) ซึ่งจะผูกชิป AI เข้ากับข้อมูลที่ระบุตำแหน่งในระดับประเทศแบบกว้าง ๆ โดยใช้มุมมองด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีในการป้องกันข้อมูล ขณะที่ชิปกำลังประมวลผล (Confidential Computing) เพื่อป้องกันข้อมูลไม่ให้ถูกล้วง และวิเคราะห์ความหน่วงของสัญญาณ (Latency) ระหว่างชิปกับเซิร์ฟเวอร์ของ Nvidia เพื่อประเมินว่าชิปน่าจะอยู่ในประเทศใด วิธีนี้ไม่ใช่การระบุตำแหน่งแบบ GPS และไม่สามารถระบุตำแหน่งเป็นจุด แต่ใช้เพื่อยืนยันว่าชิปถูกใช้งานในประเทศที่ได้รับอนุญาตจริงหรือไม่
เทคโนโลยีนี้จะถูกปล่อยในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบเลือกติดตั้ง (Optional) กล่าวคือ ไม่ได้มีการบังคับผู้ใช้งานให้ติดตั้งและไม่ได้เป็นการเพิ่มฮาร์ดแวร์ใหม่ เบื้องต้นจะรองรับเฉพาะชิปรุ่นล่าสุดอย่างแบล็กเวลล์ (Blackwell) ที่มีกลไกด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบตัวตนของชิปที่แม่นยำกว่าหน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit - GPU) รุ่นเก่าอย่างฮอปเปอร์ (Hopper) หรือแอมแปร์ (Ampere) ทำให้ระบบสามารถยืนยันได้ว่าชิปเป็นของแท้และยังคงทำงานในสภาพแวดล้อม หรือประเทศที่ผ่านการรับรอง
นอกจากนี้ แรงกดดันส่วนหนึ่งมาจากสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดความเสี่ยงที่ชิป AI ขั้นสูง ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาระบบทางทหารหรือโครงสร้างสำคัญอื่น ๆ จะถูกส่งต่อไปยังประเทศที่ถูกจำกัด เช่น จีน จึงมีข้อเสนอว่าบริษัทผู้ผลิตอาจต้องใส่ระบบตรวจสอบตำแหน่งตั้งแต่กระบวนการผลิต เพื่อให้ติดตามเส้นทางของชิปได้หลังออกจากโรงงาน
แม้เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยลดการลักลอบขนส่งชิป แต่ก็มีข้อกังวล โดยเฉพาะจากจีนที่ตั้งคำถามว่า เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นช่องทางลับ (Backdoor) ที่เปิดให้บริษัทหรือรัฐบาลสหรัฐฯ สอดส่องระบบคอมพิวเตอร์ของประเทศผู้นำเข้าได้หรือไม่ ?
ในขณะเดียวกัน ทาง Nvidia ก็ได้ยืนยันชัดเจนว่า “ไม่มี Backdoor” ในระบบ แต่เป็นเพียงการตรวจสอบตำแหน่งเบื้องต้นเท่านั้น และไม่ได้มีการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ภายในชิป ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ประเทศผู้นำเข้าและศูนย์ข้อมูล เพราะสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าชิปยังอยู่ในที่ที่ได้รับอนุญาต ลดโอกาสถูกลอบขนย้ายหรือใช้งานผิดเงื่อนไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
