สหรัฐฯ เตือนอาจโจมตีเป้าหมาย ISIS ในไนจีเรียอีก หลังเปิดปฏิบัติการแก้แค้นเพื่อชาวคริสต์ตามคำสั่งทรัมป์

พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการโจมตีเพิ่มเติมต่อเป้าหมายของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS  ในรัฐโซโกโต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไนจีเรียเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเมื่อวานนี้  (26 ธันวาคม) กองทัพสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีค่ายติดอาวุธที่สหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นของกลุ่ม ISIS ตามคำประกาศแก้แค้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าต้องการยุติการสังหารชาวคริสต์

เฮกเซธโพสต์ข้อความบน X ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนเมื่อเดือนที่แล้วว่า การสังหารชาวคริสต์ผู้บริสุทธิ์ในไนจีเรีย รวมถึงที่อื่น ๆ จะต้องยุติลง รวมถึงได้แสดงความขอบคุณไปยังรัฐบาลของไนจีเรียสำหรับการสนับสนุนและความร่วมมือ

ขณะที่ ยูซุฟ ทุกการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศไนจีเรียกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่าไนจีเรียได้จัดหาข่าวกรองสำหรับการโจมตีทางอากาศในรัฐโซโคโตและแบ่งปันข้อมูลกับสหรัฐฯ เขากล่าวด้วยว่าได้มีการพูดคุยกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนเป็นเวลา 19 นาที จากนั้นเขาได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดี โบลา ตินูบู ของไนจีเรียเพื่อขอการอนุมัติก่อนจะกลับไปแจ้งกับรูบิโออีกครั้งเพื่อยืนยันการโจมตี

ทุกการ์ กล่าวด้วยว่าไนจีเรียทำงานใกล้ชิดกับสหรัฐฯ มาโดยตลอด และนี่คือสิ่งที่ไนจีเรียหวังเพื่อปราบปรามการก่อการร้ายและยุติการเสียชีวิตของชาวไนจีเรียผู้บริสุทธิ์ พร้อมทั้งยืนยันว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็น “ปฏิบัติการร่วม” และไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ

ส่วนทรัมป์ หลังจากการโจมตีที่เกิดขึ้นเขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Politico ว่า เดิมทีการโจมตีจะต้องเกิดขึ้นตั้งแต่วันพุธที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่เขาสั่งให้เลื่อนออกไปเพราะเขาต้องการให้เป็นของ “ขวัญวันคริสต์มาส” โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามในไนจีเรีย ซึ่งทรัมป์กล่าวด้วยว่าสหรัฐฯ จัดหนักทำลายค่ายทุกค่ายของ ISIS จนย่อยยับ

ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า จากการโจมตีค่ายของกลุ่ม ISIS ใกล้ชายแดนติดกับไนเจอร์ ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่ชัดเจนได้ แต่ทั้งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และไนจีเรียยืนยันว่ามีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ ISIS ถูกสังหารจริง ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวยังคงวิตกกังวลและหวาดกลัวหลังปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ หลายคนกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถนอนหลับได้สนิทหลังเกิดการโจมตี ในขณะที่บางส่วนยืนยันว่าไม่เคยมีประวัติของกลุ่มติดอาวุธ ISIS ในละแวกบ้านของพวกเขา