"แมว" เจ้านายที่แสนน่ารักของเหล่าทาสแมว ผมเชื่อได้เลยว่าเพื่อน ๆ บางคนจะต้องมีเจ้านายไว้ในบ้านอย่างแน่นอน นั่นก็เพราะว่าจำนวนประชากรของแมวเฉพาะที่ลงทะเบียนในประเทศไทย มีอยู่ประมาณ 3,000,000 ตัว (ฐานข้อมูลเพื่อการขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว) นั่นก็หมายความว่าตามค่าเฉลี่ยแล้วในจำนวนประชากรไทย 22 คน จะต้องมีหนึ่งคนที่เลี้ยงแมว โดยหนึ่งในนั้นก็คือผมเองครับ ในการเลี้ยงแมวนั้นสำหรับผมจะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่ายครับ โดยจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงแมวสำหรับผมนั่นก็คือ การที่เก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงเพราะความสงสารนั้นเองครับ ประโยชน์ของการเลี้ยงแมวนั้นมีอยู่มากมาย ซึ่งผมจะกล่าวในตอนต่อ ๆ ไปนะครับ แต่สิ่งที่ผมจะหยิบยกขึ้นมาในวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่คนเลี้ยงแมวส่วนใหญ่มักมองข้ามไป นั่นก็คือ"อาหารต้องห้ามสำหรับแมว" เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับว่า อะไรบ้างที่แมวห้ามรับกิน และถ้ากินเข้าไปแล้วจะส่งผลเสียกับแมวอย่างไร เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยครับธรรมชาติของแมว แมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตในตระกูลของเสือไซบีเรีย ตามสัญชาตญาณแล้วแมวจะเป็นสัตว์นักล่า โดยอาหารหลักของสัตว์นักล่าก็คือเนื้อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเนื้อทุกประเภทจะสามารถทานได้ เช่นเดียวกันกับ เจ้าอ้วน แมวพันธุ์ไทยลายสลิดของผมเองครับ จากแมวจรจัดที่ผอมโซเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันนี้ได้แปลงร่างกลายเป็นแมวที่อ้วนจ้ำม่ำด้วยน้ำหนักตัวถึง 7 กิโลกรัม เจ้าอ้วนนั้นเคยผ่านอาหารมาแล้วหลากหลายชนิด ซึ่งในวันนี้ผมมีประสบการณ์ในการกินอาหารของเจ้าอ้วนมาฝากกันครับ ถ้าเพื่อน ๆ มีแมวสักตัวหรือคิดที่จะเลี้ยงแมว ก็ลองศึกษาข้อมูลที่ผมแบ่งปันดูก่อนได้นะครับ ซึ่งวันนี้ผมยกมา 5 ตัวอย่างที่อันตรายกับแมวครับที่เจ้าอ้วนเคยกินมา1. นมวัวและนมวัวแปรรูปผมเชื่อว่าสำหรับเพื่อน ๆ บางคนส่วนใหญ่ต่างก็ต้องเคยดื่มนมวัวกันมาบ้างแล้วทั้งนั้น แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าระบบย่อยของคนกับแมวนั้นแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะระบบย่อยของลูกแมวแรกเกิดจนถึงอายุ 1 ปี ที่ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัวได้ เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะส่งผลให้แมวมีอาการท้องเสียตามมา สำหรับผมเองก็เคยนำนมวัวให้เจ้าอ้วนดื่มในวันแรก ๆ ที่เก็บมาเลี้ยง หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเจ้าอ้วนก็ถ่ายเหลวตลอดเวลา จนต้องพาไปพบสัตวแพทย์ เมื่อไปถึงคุณหมอจึงสอบถามว่าเอาอะไรให้แมวกิน พอคุณหมอทราบก็แนะนำว่าควรดูแลเกี่ยวกับอาหารการกินของแมวอายุน้อยอย่างไร โดยคุณหมอก็จะแนะนำให้แมวดื่มเป็นนมแพะแทน หลังจากคุณหมอแนะนำแล้วผมก็ลองให้เจ้าอ้วนดื่ม ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจครับ เจ้าอ้วนถ่ายได้ตามปกติ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ไม่เคยนำนมวัวให้แมวกินอีกเลย2. ก้างปลาหรือกระดูกที่เหลือจากรับประทานถ้าเพื่อน ๆ เคยดูละครหรือการ์ตูนตอนเด็ก ๆ คงจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้วกับอาหารอันโอชะของเจ้าแมวเหมียว นั่นก็คือ"ก้างปลา"นั่นเองครับ ซึ่งในปัจจุบันนี้จะมีปลามากมายหลายชนิด และกรรมวิธีการปรุงก็แตกต่างกัน ผมจะขอยกตัวอย่างตอนเจ้าอ้วนเริ่มเคี้ยวอาหารได้นะครับ ครั้งหนึ่งผมเคยเอาก้างปลาทูที่เหลือจากรับประทานเรียบร้อยแล้ว แบ่งให้เจ้าอ้วนได้กินอย่างเอร็ดอร่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานนักเจ้าอ้วนก็เริ่มไอหนักขึ้นเรื่อย ๆ ผมจึงพาไปพบกับสัตวแพทย์ และเมื่อสัตวแพทย์เห็นอาการแล้วจึงใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในลำคอ แล้วใช้เครื่องมือนำก้างปลาขนาดไม่ใหญ่มากแต่แข็งและโค้งออกมาจากคอ ผมจึงถามคุณหมอว่าทำไมก้างปลาถึงติดคอแมวได้ คุณหมอแนะนำว่าก้างปลานั้นมีความแหลมคมและเหนียวมาก บางชิ้นแมวไม่สามารถเคี้ยวได้ละเอียดมากพอ จึงทำให้ก้างปลานั้นลงไปติดในลำคอและทำให้เกิดอันตรายได้ครับ 3. ปลาดิบถ้าเพื่อน ๆ เคยดูสารคดีช่อง TRUE EXPLORE WILD อาจจะเคยเห็นภาพของแมวที่ใช้มือจับปลาในน้ำมากินอย่างเอร็ดอร่อย แต่นั่นคือปลาสด ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่สะอาดและไหลอยู่ตลอดเวลา เช่น ตามลำธารที่น้ำใสสะอาด สัญชาตญาณของแมวบอกว่าปลานั้นสามารถกินได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าเป็นแมวที่ถูกเลี้ยงมา สัญชาตญาณนั้นจะลดลงไปมาก เมื่อเรานำปลาสดไม่ว่าจะหั่นเป็นชิ้นหรือว่าให้ทั้งตัว แมวบางตัวก็กินได้อย่างสบายใจ แต่สิ่งนี้ถือว่าเป็นภัยสำหรับแมวมาก ๆ ครับ เพราะว่าในปัจจุบันนี้ เนื้อปลาสดที่เราซื้อมาจากตลาดหรือ Supermarket อาจจะมีสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ เจือปนอยู่ เช่น แบคทีเรีย, พยาธิชนิดต่าง ๆ หรือสารเคมีที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาล้วนก่อให้เกิดอันตรายต่อแมวทั้งสิ้นครับ ในระยะสั้นอาจจะไม่เห็นผลเสียอะไร แต่ในระยะยาวจะทำให้แมวมีโรคต่าง ๆ ตามมาได้ และจะทำให้อายุของแมวนั้นสั้นลงด้วยครับ4. เครื่องดื่มช็อกโกแลตและช็อกโกแลตแท่งช็อกโกแลตทั้งหลายชนิดอาจจะเป็นของโปรดของเพื่อน ๆ บางคนรวมทั้งตัวของผมด้วยครับ แต่สำหรับแมวถือว่าเป็นอาหารสุดอันตรายที่ห้ามกินเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นก็เพราะว่าสาร theobromine ในช็อกโกแลตนั้น จะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับกาเฟอีนในกาแฟ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นหัวใจ โดยปกติแล้วแมวจะมีขนาดหัวใจที่เล็กมากและจังหวะการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างช้า ซึ่งเพื่อน ๆ จะสังเกตเห็นว่าแมวนั้นใช้เวลาไปกับการนอนมากกว่าการลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย เพราะหัวใจของแมวมีขนาดที่เล็กนั่นเองครับ และเจ้าช็อกโกแลต จะเป็นตัวไปกระตุ้นการทำงานของหัวใจของแมวให้ทำงานหนัก แมวบางตัวเคยเสียชีวิตเพราะเจ้าช็อกโกแลตมาแล้วครับ 5. ยาพาราเซตามอลหรืออะเซตามีโนเฟนCredit ภาพโดย Tom Percy on shutterstock เมื่อแมวป่วยควรพาไปพบไปพบสัตวแพทย์จะเป็นการดีที่สุดครับ สัตวแพทย์สามารถวินิจฉัยได้ว่าแมวนั้นเป็นโรคอะไรและจะมีแนวทางการรักษาอย่างไร โดยเฉพาะแมวที่มีอาการป่วยด้วยไข้หวัด หากเพื่อน ๆ ทราบอยู่แล้วว่าแมวเป็นหวัด อย่าให้ยาพาราเซตามอลกับแมวเด็ดขาด ซึ่งสารเคมีในตัวยาพาราเซตามอลนั้นจะทำให้ปริมาณของออกซิเจนในหลอดเลือดนั้นเสียสมดุล ส่งผลให้แมวมีอาการชักเกร็งและหมดสติซึ่งถ้ากินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่นาที ทางที่ดีเมื่อแมวป่วยควรให้สัตวแพทย์เป็นผู้จ่ายยาจะดีที่สุดครับ สำหรับเจ้าอ้วนเองก็ป่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งจะให้คุณหมอเป็นผู้จ่ายยาให้ จึงทำให้เจ้าอ้วนมีชีวิตรอดมาจนทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 5 อาหารต้องห้ามสำหรับเจ้าเหมียว ถ้าเพื่อน ๆ รับทราบข้อมูลจากประสบการณ์ของผมแล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้ดูได้นะครับ เพราะการเลี้ยงแมวนั้นแม้จะมีข้อห้ามต่าง ๆ มากมายเพื่อที่จะให้เจ้าเหมียวนั้นอยู่กับเราได้นาน ๆ แต่ประโยชน์ของการเลี้ยงแมวก็มีอีกมากมายเช่นกัน ซึ่งผมจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ อ่านกันในโอกาสต่อไปนะครับ ในวันนี้ผมหวังว่าจากประสบการณ์การกินของเจ้าแมวอ้วนของผม คงจะทำให้เพื่อน ๆ อยากลองเลี้ยงแมวกันแล้วนะครับ ถ้าเพื่อน ๆ ได้ลองเลี้ยงกันดูแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปเจ้าเหมียวมาอวดกันบ้างนะครับ ผมจะรอติดตามครับ สำหรับ EP. นี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลี้ยงแมว แล้วพบกันใหม่ EP. ต่อไป สวัสดีครับCredit ภาพหน้าปกโดย Tom Percy on shutterstockภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย Tom Percy on TrueID In-Trend ครับ