อัพเดท "GULF" มีอะไรใหม่? สาระสำคัญจากผู้บริหาร
#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ระบุวานนี้ฝ่ายวิจัยได้เข้าร่วมการประชุมกับผู้บริหาร GULF มีมุมมองเป็นกลาง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ บริษัทฯ ให้ข้อมูลว่าร่างแผน PDP 2024 ที่อยู่ระหว่างการเปิดประชาพิจารณ์(Public Hearing) เป็นเพียงแนวทางของภาครัฐเท่านั้น และมีโอกาสสูงที่ภาครัฐจะนำความคิดเห็นของภาคเอกชนและประชาชนไปปรับปรุงร่างดังกล่าวก่อนนำไปเสนอให้กับที่ประชุม ครม. เนื่องจากร่างดังกล่าวยังไม่ได้มีการรวมแผนในการเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตของอุตสาหกรรม Data Center และ AI
บริษัทฯ มองว่ามีโอกาสสูงที่แผน PDP 2024 ที่จะมีการประกาศใช้จริงจะมีการเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนขึ้นอีก เมื่อเทียบกับร่างปัจจุบัน เนื่องจากคาดกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนที่ได้รับการบรรจุไว้ในร่างฯ ยังไม่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของประเทศไทย
สำหรับการนำพลังงานไฮโดรเจนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการผลิตไฟฟ้าของไทย บริษัทฯ มองว่าปัจจุบันยังเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าไฮโดรเจนยังไม่มีความคุ้มค่า ขณะที่การนำไฮโดรเจนเข้ามาผสมกับก๊าซธรรมชาติเพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนยังทำได้จำกัด (ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่สามารถรองรับวิธีการดังกล่าวได้ไม่มาก)
ส่วนของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ บริษัทฯ มองว่าโอกาสในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีไม่มาก เพราะมีโอกาสสูงที่จะมีแรงต่อต้านจากภาคประชาชน โดยในกรณีที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวไม่สำเร็จ คาดจะมีการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเพื่อนำมาทดแทน
สำหรับข่าวลือเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน INTUCH บริษัทฯ ได้มีการปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวและระบุว่าปัจจุบันบริษัทฯ ไม่มีแผนในการปรับโครงสร้างการถือหุ้นแต่อย่างใด
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุมดังกล่าว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับแผน PDP 2024 เป็นปัจจัยที่ต้องรอติดตาม และจะเป็น Overhang ที่จำกัดการฟื้นตัวของราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าในระยะสั้น-กลาง ทั้งนี้คาดประเด็นดังกล่าวจะมีความชัดเจนในเดือน ก.ย. 2567 เป็นอย่างเร็ว
เบื้องต้นคาดกำไรปกติ Q2/67 ของ GULF ที่ระดับ 4,200-4,500 ล้านบาท เติบโตทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสจากการรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 3 (662.5MW) และโรงไฟฟ้าหิน กองหน่วยที่ 1 (377.3MWe) แบบเต็มไตรมาส รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง (ผลจากการแข่งขันที่ลดลงในตลาดมือถือและ Broadband)
คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 52.75 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว