ที่แท้เพื่อนรักตีท้ายครัวเล่นชู้กับเมีย โทรลวงกระหน่ำยิง 5 นัด ตร.เผยพิรุธ

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ลวงเพื่อนมายิงทิ้ง แอบไปเป็นชู้กับเมียเพื่อน ระหว่างที่ถูกจับคดียาเสพติด ส่งตัวไปบำบัดฝากให้ช่วยดูแล ตร.ตามรวบทั้งมือปืน-นกต่อ

กรณีสะเทือนขวัญที่จ.สงขลา คนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นกระหน่ำยิง นายสุชาติ อโนทัย อายุ 38 ปี เสียชีวิตในสภาพคร่อมรถจักรยานยนต์ กลางถนนเข้าบ่อลูกรังร้างในพื้นที่ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยถูกยิงที่บริเวณกลางหลัง 4 นัด และในมือผู้ตายยังกำถุงไอซ์ขนาด 1 กรัมไว้แน่น เจ้าหน้าที่คาดว่ามาจากปัญหาขัดแย้งเรื่องยาเสพติด ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่สภ.เมืองสงขลา พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู รองผู้บัญชาการตำรวจกภูธรภาค9 แถลงข่าวปิดคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ 2 คน และพบว่าสาเหตุมาจากทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องชู้สาวรวมกัน ซึ่งผู้ตายและคนร้ายก็เป็นเพื่อนรักกันด้วย

พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า หลังจากที่ทาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน 4 หน่วย มีชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 และชุดสืบสวนกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันสืบสวนหาเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้ง 2 คน ภายในเวลา 2 วัน

โดยคนร้ายคือ นายอุดร ไชยทองเพชร อายุ 30 ปี หรือดร มือปืน และนายธีระพงษ์ จันทอง อายุ 31 ปี หรืออาร์ ซึ่งเป็นนกต่อที่ลวงผู้ตายออกมายิง พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .357 ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งใช้กระสุนขนาด .38 และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อกับผู้ตาย และจากการสอบสวนทั้งสองคนก็ยอมรับสารภาพ

พล.ต.ต.โชติ กล่าวต่อว่า สาเหตุมาจากทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องชู้สาว โดยทั้งนายสุชาติและคนร้ายทั้ง 2 คนอยู่ในกลุ่มค้ายาและเสพยาก๊วนเดียวกัน และสนิทสนมเป็นเพื่อนรักกัน แต่ชนวนเหตุว่า นายอุดรแอบไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาของนายสุชาติ ทั้งคู่จึงมีปัญหากัน

"คืนเกิดเหตุนายธีระพงษ์โทรศัพท์ลวงนายสุชาติ ให้ออกไปพบที่บริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อซื้อยาไอซ์ เมื่อมาถึงถูกนายอุดรซึ่งมาดักรออยู่ก่อนแล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง 4 นัด จนเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ จากนั้นจึงแยกย้ายกันหลบหนี" พล.ต.ต.โชติ กล่าว

เบื้องหลังคดีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดแย่งเมีย เพื่อนจนถึงขั้นฆ่ากันตาย จากการสอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ นายสุชาติถูกจับกุมคดียาเสพติดมาหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงต้นปี 63 ถูกส่งไปบำยัดยาเสพติด และฝากฝังเมียให้นายอุดร ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่ร่วมเสพยาด้วยกันช่วยดูแล

ปรากฏว่าจากความใกล้ชิดและสนิดสนมกัน ทำให้นายอุดรแอบได้เสียกับภรรยานายสุชาติ เมื่อนายสุชาติออกจากสถานบำบัดก็ทราบเรื่อง และทะเลาะกับภรรยาจนต้องแยกทางกันมา 3 เดือน

ภรรยาก็ไปอยู่กินกับนายอุดรแต่นายสุชาติ ก็พยายามโทรศัพท์ไปหาเรื่อง ครั้งสุดท้ายโทรศัพท์ไปหาภรรยาและพูดขู่ว่าจะยิง นายอุดรให้ตายซึ่งขณะนั้นนายอุดรนั่งอยู่ใกล้ๆ และได้ยิน จึงเป็นสาเหตุให้ชิงลงมือฆ่านายสุชาติก่อน

“ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีทั้ง 2 คน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร”

สำหรับคดีนี้ในวันเกิดเหตุ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเมียของนายสุชาติ ก็เดินทางไปดูศพของสามีที่ถูกยิงตายอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย และไม่มีอาการเศร้าหรือเสียใจแต่อย่างใด พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ตายบอกว่าแยกทางกับสามีมา 3 เดือน เพราะทะเลาะกันและโมโหร้ายชอบทุบตี แต่ยอมรับว่าสามีพัวพันกับยาเสพติดและไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองไปเป็นชู้กับเพื่อน ตำรวจจึงพบพิรุธและเค้นสอบจนทราบเรื่องราวทั้งหมด ขอหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่วนภรรยาเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีส่วนร่วมกับการฆ่า

จากการสอบสวน นายอุดร กลับปฏิเสธว่าไม่ได้ไปเป็นชู้กับเมียนายสุชาติแต่อย่างใด ถ้าไม่เชื่อก็ให้ไปถามภรรยาของนายสุชาติเอง ซึ่งตนก็คอยช่วยเหลือลูกเมียของนายสุชาติ มาตลอดในช่วงกว่า 1 เดือน ที่ถูกส่งไปบำบัดเพราะนายสุชาติ ได้ฝากให้ช่วยดูแล แต่พอออกมาก็มาใส่ร้ายตนว่าเป็นชู้กับเมีย และโยนความผิดเรื่องค้ายาเสพติดให้ตนทั้งหมดและยังขู่ฆ่า ซึ่งตนแค้นมากจึงลงมือวางแผนฆ่าก่อน