สวัสดีครับคุณผู้อ่าน หลังจากผ่านพ้นช่วงสงกรานต์สุดมันส์ เชื่อว่าหลายคนคงมีทั้งความทรงจำดีๆ และความลุ้นระทึกว่ามือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าคาดเอวจะรอดจากน้ำหรือไม่ โดยเฉพาะถ้าเป็น iPhone ที่แม้จะบอกว่ากันน้ำได้ แต่การใช้งานจริงก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย วันนี้ แต้มเอง จะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า ถ้า iPhone ของเราเปียกน้ำมา ไม่ว่าจะมากหรือน้อย เราควรดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่พัง และยังใช้งานต่อไปได้แบบไม่ต้องวิ่งเข้าศูนย์ให้ปวดใจครับ 1. อย่าเพิ่งเปิดเครื่องหรือชาร์จทันที หลายคนเมื่อรู้ว่า iPhone โดนน้ำ สิ่งแรกที่ทำคือรีบกดเปิดดูว่าเครื่องยังใช้ได้ไหม หรือบางคนเสียบชาร์จเลยเพราะคิดว่าแบตจะหมด แต่จริงๆ แล้วพฤติกรรมแบบนี้เสี่ยงอย่างมาก เพราะหากน้ำยังมีอยู่ภายในตัวเครื่อง การเปิดเครื่องหรือชาร์จทันทีอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจจะทำให้วงจรเมนบอร์ดเสียหายจนถึงขั้นเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้เลย สิ่งที่ควรทำคือวางเครื่องไว้ในที่อากาศถ่ายเท ปล่อยให้แห้งสักระยะก่อนประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยห้ามใช้ความร้อนเป่า และห้ามรีบเขย่าเครื่องแรงๆ เพื่อไล่น้ำ เพราะจะยิ่งทำให้น้ำแทรกซึมเข้าไปลึกขึ้นครับ 2. เช็ดให้แห้งอย่างถูกวิธี เมื่อแน่ใจว่าเครื่องเปียก สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือเช็ดให้แห้ง แต่วิธีเช็ดก็มีผลอย่างมากต่อสภาพของเครื่องเลยครับ ให้ใช้ผ้านุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ค่อยๆ ซับน้ำรอบๆ ตัวเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณพอร์ตต่างๆ เช่น พอร์ตชาร์จ ลำโพง และปุ่มต่างๆ ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู่เพราะอาจทิ้งเศษไว้ และที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามใช้ไดร์เป่าผมหรือเป่าลมร้อนใดๆ เพราะความร้อนจะทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหาย หรืออาจดันน้ำเข้าไปลึกยิ่งขึ้นอีกครับ 3. ตรวจสอบว่าน้ำเข้าเครื่องหรือยัง iPhone ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรุ่นหลังๆ จะมีเซนเซอร์ตรวจจับของเหลวที่เรียกว่า LCI (Liquid Contact Indicator) ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าเครื่องสัมผัสกับน้ำหรือของเหลวหรือยัง วิธีเช็คก็ง่ายมากครับ ถ้าเครื่องของคุณผู้อ่านมีช่องใส่ซิมด้านข้าง ให้ใช้เข็มจิ้มซิมค่อยๆ ดึงถาดออกมา แล้วส่องเข้าไปในช่องซิม หากเห็นแถบสีแดงอยู่ในนั้น แสดงว่าเซนเซอร์ตรวจพบของเหลว ซึ่งหมายความว่าน้ำได้เข้าไปในเครื่องแล้ว แต่ถ้ายังเป็นสีขาวหรือเงิน ก็ถือว่าโชคดีครับ น้ำยังไม่เข้าเครื่องโดยตรง 4. เสียงเบาลง ลำโพงอู้ๆ ให้ไล่น้ำออก หลังจากเปียกน้ำมา หลายคนจะเจอกับปัญหาว่าเสียงจากลำโพงเบาลง หรือมีเสียงอู้ๆ ฟังดูแปลกๆ ไม่ชัดเหมือนเดิม ซึ่งอาการนี้มักเกิดจากน้ำที่ค้างอยู่ในช่องลำโพงนั่นเองครับ หนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีคือการใช้เสียงความถี่ต่ำในการสั่นน้ำ ออกจากลำโพง วิธีง่ายๆ คือเข้าเว็บ FixMySpeakers หรือโหลดแอป Water Eject จาก App Store ซึ่งจะช่วยให้เสียงที่ถูกปล่อยออกมาช่วยดันน้ำที่ค้างอยู่ให้หลุดออกมาได้ หลังจากนั้น อย่าลืมใช้ผ้านุ่มซับรอบลำโพงอีกครั้ง และปล่อยให้เครื่องแห้งต่ออีกหน่อยก่อนใช้งานตามปกตินะครับ 5. อย่าพึ่งฝากความหวังไว้กับข้าวสาร แม้จะเป็นเคล็ดลับยอดฮิตที่ใครๆ ก็พูดถึงว่า แช่ข้าวสารช่วยดูดความชื้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแช่มือถือไว้ในถุงข้าวสารอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไร แถมยังเสี่ยงที่เศษฝุ่นผงจากข้าวสารจะเข้าไปติดอยู่ในพอร์ตหรือร่องต่างๆ ของเครื่องอีกด้วย ถ้าจะให้ดี ควรวางเครื่องไว้ในที่แห้งๆ มีลมผ่าน หรือถ้ามีถุงดูดความชื้นแบบซิลิกาเจล จะยิ่งช่วยให้แห้งได้ดียิ่งขึ้นครับ การเล่นสงกรานต์ให้สนุก ไม่ควรมาพร้อมกับความกังวลเรื่อง iPhone พังครับ ถ้าเรารู้จักวิธีดูแลเครื่องหลังเปียกน้ำอย่างถูกวิธี ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องไปได้อีกยาวๆ อย่าลืมนะครับว่า ถึงจะกันน้ำได้ตามสเปก แต่ก็ไม่มีใครรับประกันว่าเครื่องจะรอดทุกสถานการณ์จริง เพราะฉะนั้นการดูแลหลังใช้งานคือหัวใจสำคัญเลยครับผม นอกจากนี้ คุณผู้อ่านก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพหน้าปก / รูปภาพประกอบบทความ - แต้มเอง(ผู้เขียน) ฝากติดตาม · แต้มเอง อ่านบทความอื่นๆ บน TrueID Creator เข้าร่วม Community กับ แต้มเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !