ECB ชี้ “จีน”เริ่มระบายสินค้าราคาถูกสู่ยุโรป

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ECB  เผยว่า อุปสงค์ภายในประเทศจีนที่อ่อนแอ ไม่ใช่มาตรการภาษีของสหรัฐ คือสาเหตุหลักที่ทำให้จีนระบายสินค้าล้นตลาดไปยังยุโรปในราคาต่ำกว่าต้นทุน (dumping) ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตภายในยุโรป

ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวชี้ว่า แรงกดดันต่อสหภาพยุโรป (EU) กำลังเพิ่มขึ้น หลังการนำเข้าสินค้าจากจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาษีศุลกากรของสหรัฐบีบให้จีนต้องหาตลาดใหม่เพื่อระบายสินค้าที่ไม่สามารถขายในประเทศหรือตลาดอเมริกาได้ ECB ระบุในบทความวิเคราะห์ของ Economic Bulletin ว่า “ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น อาจทำให้การส่งออกสินค้าจากจีนไหลเข้าสู่ตลาดยุโรปมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยุโรปย้ำว่าการเพิ่มขึ้นของการส่งออกจีนไปยังยุโรปเริ่มเกิดขึ้นก่อนที่ความขัดแย้งทางการค้าระลอกล่าสุดจะเริ่มต้น และสอดคล้องกับช่วงที่เศรษฐกิจภายในจีนเริ่มชะลอตัวจากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแรง ECB ระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2564 เมื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้การลงทุนในที่อยู่อาศัยลดลง ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนได้เร่งลงทุนในภาคการผลิตเพื่อประคองเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิด กำลังการผลิตส่วนเกิน (overcapacity) และการแข่งขันตัดราคาที่รุนแรงในตลาดภายในประเทศ จนบริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องหันไปขายสินค้าในต่างประเทศ

ECB ระบุว่า “เพื่อขยายตลาดในต่างประเทศ บริษัทจีนต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งมักทำได้โดยการลดต้นทุนและราคาขายในระยะสั้น หรือยอมลดอัตรากำไรลง บางรายถึงขั้นยอมขาดทุน”

นอกจากนี้ รายงานยังชี้ว่าปัจจัยหลายประการในจีน ทั้งอุปสงค์ผู้บริโภคที่อ่อนแอ นโยบายการค้า และการผลักดันการผลิตภายในประเทศในสินค้าหลัก ยังคงจำกัดความต้องการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างถาวรของพฤติกรรมการนำเข้าของจีน ซึ่งอาจทำให้ช่องว่างทางการค้าระหว่างจีนกับคู่ค้าหลักขยายตัวต่อไปในระยะยาว