ผู้ก่อเหตุเตือนเช็กให้ดีก่อนลงรถ หลังถูกรวบเพราะลักทรัพย์รถส่งของ เผยเพิ่งพ้นคุกแค่วันเดียว
ผู้ก่อเหตุเตือนเจ้าของรถเช็กให้ดีก่อนลงรถ หลังถูกรวบเพราะลักทรัพย์รถส่งของ เผยเพิ่งพ้นคุกแค่วันเดียว ไร้อาชีพ ญาติไม่เอา เลยก่อเหตุเพราะไม่มีทางเลือก
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมจับกุมตัว นายสุชาติ ทองงาม อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลักทรัพย์พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่องเงินสดจำนวน 20 บาท โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
ด้วยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่ามี นายเอกสิทธิ์ พลสัมมา มาแจ้งความว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบเป็นผู้ใด เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ภายในรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านเพิ่มพูนทรัพย์ ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ร่วมกันสืบสวน หาข่าว ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ต่อมาวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุชาติ ทองงาม ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง เงินสด จำนวน 20 บาท
จากการสอบสวน นายสุชาติ ให้การว่า หลังจากพ้นโทษจากเรือนจำอ่างทอง ได้มาอาศัยอยู่กับ นายวิโรจน์ สูงปานเขา บ้านอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยบ้านรอ ถ.บ้านรอ ต.บางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบุคคลที่ตนเองเคยรู้จักกันมาก่อน โดยวันก่อเหตุเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณช่วง 6 โมงเช้า ก่อนออกจากห้องพัก ได้เอาเสื้อของ นายวิโรจน์ มาสวมใส่แล้วเดินออกจากบ้านมาที่ตลาดเกษตรสุวพันธ์ ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
ระหว่างนั้นเห็นรถยนต์จอดลงสินค้าและเปิดกระจกทิ้งไว้ จึงได้เดินไปดู เห็นกระเป๋าสะพายและเห็นเด็กนอนหลับอยู่ภายในรถยนต์ จึงได้ล้วงมือเข้าไปหยิบเอากระเป๋าสะพาย แล้ววิ่งข้ามถนน ออกจากที่เกิดเหตุ ไปเรียกให้รถจักรยานยนต์รับจ้างไปส่งที่ซอยบ้านรอ จากนั้นได้นำเอาเงินสด จำนวน 900 บาท ไปซื้อยาบ้ามาเสพ จำนวน 10 เม็ด ในราคา 400 บาท ส่วนเงินที่เหลือบางส่วนได้นำไปใช้จ่าย
“ตนเองเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้เพียงวันเดียว ออกมาไม่รู้จะไปไหน ไม่มีอาชีพ ญาติพี่น้องไม่มีใครเอา จึงต้องไปขอเพื่อนที่รู้จักพักอาศัย ที่ก่อเหตุเพราะไม่มีทางเลือก”
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงเรื่องราวก่อนก่อเหตุว่าอยู่ภายในเรือนจำไม่มีการฝึกอาชีพหรือหางานรองรับหลังพ้นโทษ หรือสอบถามผู้ต้องขังว่ามีที่อยู่อาศัยหลังพ้นโทษหรือไม่ โดยเจ้าตัวบอกว่าไม่เคยมีใครมาสอบถามหรือติดต่อมาก่อน เคยคิดอยากเป็นคนดีหลังพ้นโทษออกมา แต่สุดท้ายตนเองไม่มีเงิน ไม่มีที่อยู่ จึงตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้ง พร้อมทั้งทิ้งท้ายเตือนเจ้าของรถว่าให้ระมัดระวัง ควรตรวจสอบให้ดีก่อนจะออกจากรถ ว่าปิดกระจกหรือล็อกรถดีแล้วรึยัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดมาแสดงให้นายสุชาติ ผู้ต้องหาดูและยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันจริง ซึ่งนายสุชาติได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป