Cover Photo by @rawpixel.com on freepik.com โคโรน่าไวรัสหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Covid-19 (ย่อมาจาก Corona Virus Disease 2019) เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสในตระกูลเดียวกับโรค SARs และโรค MERs เริ่มระบาดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศจีน สันนิษฐานว่าไวรัสชนิดนี้มีต้นตอมาจากค้างคาวและงู และเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่คนในตลาดสดเมืองอู่ฮั่นซึ่งมีการเชือดสัตว์เหล่านี้เป็น ๆ Photo by freepik on freepik.com อาการของโรคแรก ๆ จะคล้ายไข้หวัด เริ่มตั้งแต่ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ มีไข้ ไปจนถึงปอดบวม ปอดติดเชื้อ ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และเสียชีวิต จุดเด่นของไวรัสตัวนี้คือแพร่กระจายได้ง่ายมาก ๆ สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ทั้งการสัมผัสสารคัดหลั่ง และผ่านระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นก่อนที่จะสายเกินไป เราควรจะปฏิบัติตัวให้ถูกวิธีเพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสชนิดนี้ซึ่งได้แพร่กระจายเข้ามาสู่ประเทศไทยแล้ว Photo by freepik on freepik.com OnionXoXo ขอสรุป Concept ง่าย ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงและลดอัตราเสี่ยงในการติดเชื้อออกเป็น 7 ข้อหลัก ๆ นะคะ 1. กินร้อน "กินร้อน" คือ การรับประทานอาหารที่ปรุงสุก หากปรุงไว้นานแล้ว ควรนำมาอุ่นซ้ำก่อนรับประทาน ไม่ควรรับประทานของดิบ เช่น เนื้อสัตว์ดิบ น้ำนมดิบ เนื่องจากของดิบเหล่านั้นอาจปนเปื้อนเชื้อโรค ระหว่างการผลิต การประกอบอาหาร หรือการขนส่ง และควรแยกเครื่องครัว เช่น มีด หรือเขียง สำหรับหั่นของสุก และของดิบออกจากกัน Photo by World Health Organization (WHO) on https://www.who.int/ 2. ช้อนกลาง "ช้อนกลาง" คือ ให้ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นทุกครั้ง ไม่ใช้มือเปล่าหรือช้อนส้อมตะเกียบของเรา ไปสัมผัสอาหารส่วนกลาง เนื่องจากเชื้อโรคสามารถแพร่กระจายจากเราสู่ผู้อื่น หรือจากผู้อื่นสู่เราได้ทางน้ำลาย 3. ล้างมือ "ล้างมือ" เป็นกิจกรรมสำคัญที่สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการติดโรคได้ เพราะมือของเราอาจไปสัมผัสกับเชื้อโรค แล้วเรานำมือมาหยิบอาหารเข้าปากหรือขยี้ตา เชื้อโรคจะสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ทันที ดังนั้นการล้างมือเป็นการตัดวงจรที่ดีของการติดเชื้อเลยทีเดียว Photo by World Health Organization (WHO) on https://www.who.int/ ควรล้างมือเมื่อไหร่ และบ่อยแค่ไหน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำว่าเราควรล้างมือทุกครั้ง... หลังจากไอหรือจาม หลังจากสัมผัสผู้ป่วย ก่อนและหลังปรุงอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร หลังจากเข้าห้องน้ำ หลังจากสัมผัสสัตว์เลี้ยง หรือเมื่อเห็นว่ามือของเราสกปรก การล้างมือเมื่อเห็นว่ามือของเราสกปรกหรือปนเปื้อนต้องล้างด้วยสบู่ และน้ำสะอาดก่อนทุกครั้ง แต่ถ้าไม่สกปรกสามารถเลือกว่าจะล้างด้วยแอลกอฮอล์ หรือจะใช้สบู่และน้ำสะอาดก็ได้ Photo by ศูนย์สื่อสารสาธารณะ on เว็บไซต์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้อง นั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 วินาที ล้างให้ครบทุกซอกทุกมุมของมือ โดยมี 7 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากใช้ผ่ามือนำสบู่มาถูกัน ขั้นตอนที่ 2 ถูหลังมือและซอกนิ้ว ขั้นตอนที่ 3 ถูฝ่ามือและซอกนิ้ว ขั้นตอนที่ 4 ถูหลังมือ ขั้นตอนที่ 5 ถูนิ้วโป้ง ขั้นตอนที่ 6 ถูปลายนิ้ว ขั้นตอนที่ 7 ถูข้อมือ ทำทั้ง 7 ขั้นตอนกับมือทั้งสองข้างของเรา และล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ขยะ ทิชชู่ ที่เราใช้เมื่อไอหรือจามก็ควรทิ้งลงถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดทันทีเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค 4. สวมหน้ากากอนามัย การ "สวมหน้ากากอนามัย" จะช่วยลดการแพร่กระจายของโรคจากคนอื่นสู่เราและจากเราสู่คนอื่น โดยหน้ากากด้านนอก (ที่เป็นสี ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียว) จะมีคุณสมบัติกันน้ำ ช่วยป้องกันสารคัดหลั่งจากการไอจามของผู้อื่นที่อาจมากระเด็นใส่เรา ด้านใน (สีขาว) จะช่วยซับสารคัดหลั่งจากการไอจามของเราไม่ให้แพร่ไปยังผู้อื่น Photo by กรมควบคุมโรค on เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในกรณีที่ไม่สามารถหาหน้ากากอนามัยได้ และเราไม่ได้เป็นบุคคลที่ต้องพบเจอผู้ติดเชื้อเป็นประจำ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เราสามารถใช้หน้ากากผ้าแทนได้ เนื่องจากเชื้อโคโรน่าไวรัสที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมีขนาดประมาณ 5 ไมครอน (ใหญ่กว่า PM 2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กประมาณ 2.5 ไมครอน) ดังนั้นหน้ากากผ้าก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยปกป้องเราได้ในสถานการณ์เช่นนี้ หน้ากากอนามัยต้องใช้แล้วทิ้งห้ามนำไปต้ม หรือนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนหน้ากากผ้าควรทำความสะอาดด้วยสบู่, น้ำยาซักผ้าเด็ก หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอเนกประสงค์ เช่น เดทตอล (Dettol) 5. หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน เชื้อไวรัสมีระยะฟักตัวที่ไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล คนที่ดูภายนอกแข็งแรงก็สามารถเป็นพาหะได้ ดังนั้นการ "หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน หรือที่ที่มีคนหนาแน่นมาก ๆ อากาศถ่ายเทไม่สะดวก" ก็จะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการติดเชื้อได้ การจะออกไป Shopping ช่วงนี้คงจะไม่สะดวกนัก แนะนำว่าการสั่งซื้อแบบออนไลน์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ที่ทำให้ไม่ต้องพบปะผู้คนมาก หลายท่านอาจจะกังวลเรื่องของที่ส่งมาจากนอกประเทศ เช่น มาจากประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ในกรณีที่เป็นของแห้ง ๆ เช่น พลาสติก โลหะ ของเล่นเด็ก ของใช้ทั่วไป พื้นผิวที่แห้ง ๆ พวกนี้ ไวรัสดำรงอยู่ไม่ค่อยได้ ไม่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต โคโรน่าไวรัสสามารถอยู่บนพื้นผิวแห้งได้เพียง 3 วันเท่านั้น ขณะที่ญาติของโคโรน่าไวรัสอย่าง SARs ก็อยู่ได้เพียง 5-7 วัน ดังนั้นกว่าของจะส่งมาถึงเราไวรัสก็คงจะตายหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่สบายใจสามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอเนกประสงค์เช็ดทำความสะอาดได้ 6. ไม่เดินทางออกนอกประเทศ การเดินทางออกนอกประเทศ หรือเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโคโรน่าไวรัสนั้นถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะนอกจากท่านอาจจะได้รับเชื้อทั้งจากที่สนามบิน บนเครื่องบิน หรือตามสถานที่ต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ แล้ว ท่านอาจเป็นพาหะ นำเชื้อไวรัสกลับมาสู่ลูกหลาน พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนร่วมงานของท่านได้ Photo by กรมควบคุมโรค on เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ท่านใดที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศควรเก็บตัวอยู่บ้านเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเปลี่ยนแปลงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศ ระหว่างเก็บตัวดูอาการควรรักษาสุขภาพ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และครอบครัว หากมีอาการไข้ร่วมกับ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที 7. ติดตามข่าวสาร และไม่ปกปิดข้อมูล ทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารและวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก (WHO) ท่านใดที่มีไข้มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือสงสัยว่าติดเชื้อควรไปพบแพทย์ และให้ข้อมูลโดยละเอียด ไม่ปกปิดข้อมูล เช่น เดินทางกลับจากต่างประเทศ, สัมผัสผู้ติดเชื้อ, เป็นญาติดูแลใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ, มีเพื่อนร่วมงานที่กลับมาจากต่างประเทศ หรือทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว เป็นต้น เพราะข้อมูลเหล่านั้นจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรค และรักษาท่านได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านอย่าตื่นตระหนก เตรียมตั้งรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ดูแลสุขภาพร่างกายของท่านให้แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และถูกสุขลักษณะ ยึดหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน และพบแพทย์เมื่อมีอาการต้องสงสัย" นะคะ ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก... กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เว็บไซต์ : https://ddc.moph.go.th/ สายด่วน : 1422 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เว็บไซต์ : https://www.anamai.moph.go.th/ องค์การอนามัยโลก (WHO) เว็บไซต์ : https://www.who.int/