สหรัฐฯ ประกาศถอนตัวจาก UNESCO อีกครั้ง หลังเพิ่งกลับเป็นสมาชิกสมัยไบเดน

นักการทูตยุโรป 2 คน เปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านวัฒนธรรมและการศึกษาของสหประชาชาติ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงนำประเทศของเขาถอนตัวออกจากสถาบันระหว่างประเทศที่เขาเคยวิพากษ์วิจารณ์มานาน อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในทันที

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือส่งผลกระทบยูเนสโกที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อส่งเสริมสันติภาพผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการศึกษา, วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ยังรายงานเกี่ยวกับการถอนตัวของสหรัฐฯ โดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวด้วย

ทรัมป์ได้ดำเนินการในลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของเขา โดยถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก, คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ, ข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

จากนั้นประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเหล่านั้นหลังจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2564 โดยนำสหรัฐฯ กลับเข้าเป็นสมาชิกยูเนสโก, องค์การอนามัยโลก และความตกลงด้านสภาพภูมิอากาศ

เมื่อทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 ก็ถอนตัวออกจากองค์กรระดับโลกเหล่านี้อีกครั้ง เขาได้ตัดสินใจถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก และระงับการให้เงินทุนแก่ UNRWA ซึ่งเป็นหน่วยงานบรรเทาทุกข์ของชาวปาเลสไตน์ เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาทบทวนการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในหน่วยงานของสหประชาชาติ ซึ่งมีกำหนดจะสรุปผลในเดือนสิงหาคม

ยูเนสโกเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากการกำหนดแหล่งมรดกโลก เช่น แกรนด์แคนยอนในสหรัฐฯ และเมืองโบราณพัลไมราในซีเรีย

สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมเป็นสมาชิกยูเนสโกครั้งแรกเมื่อก่อตั้งในปี พ.ศ. 2488 แต่ได้ถอนตัวเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2527 เพื่อประท้วงข้อกล่าวหาเรื่องการบริหารจัดการทางการเงินที่ผิดพลาดและอคติต่อต้านสหรัฐฯ และกลับมาเข้าร่วมอีกครั้งเกือบ 20 ปีต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ซึ่งต่อมาได้กล่าวว่าหน่วยงานได้ดำเนินการปฏิรูปที่จำเป็นแล้ว

สหรัฐฯ จัดสรรงบประมาณให้กับยูเนสโก เพียงประมาณร้อยละ 8 ของงบประมาณทั้งหมด ลดลงจากประมาณร้อยละ 20 ในช่วงเวลาที่ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์กรเป็นครั้งแรก

ส่วนสเตฟาน ดูจาริก โฆษกของอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงเมื่อวานนี้ว่า เลขาธิการยูเอ็นแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจของทรัมป์ในการพาสหรัฐฯถอนตัวออกจากยูเนสโก