แท่นปล่อยจรวดหลักของรัสเซียเสียหายหนักหลังส่งจรวดในภารกิจ Soyuz MS-28

องค์กรอวกาศแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Roscosmos) ได้ออกมายืนยันว่าเกิดความเสียหายต่อแท่นปล่อยจรวด Site 31/6 ที่ Baikonur Cosmodrome ในประเทศคาซัคสถาน โดยระบุว่าความเสียหายที่ตรวจพบเป็นที่ ห้องโดยสารซ่อมบำรุง (Maintenance cabin) หรือที่เรียกว่า แท่นบริการ (Service platform) ซึ่งตั้งอยู่ในร่องเปลวไฟ (Flame trench) ได้พังทลายลงหลังจากการปล่อยลูกเรือ Soyuz MS-28 ด้วยจรวด Soyuz 2.1a แท่นบริการนี้มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมการสำหรับจรวดนำส่งที่ปล่อยจากแท่น

การประเมินและผลกระทบต่อภารกิจ

Roscosmos ระบุในแถลงการณ์ว่ามีการตรวจสอบฐษนปล่อยจรวด เป็นสิ่งปกติที่ทำทุกครั้งหลังการปล่อยจรวด เพื่อตรวจพบความเสียหายขององค์ประกอบหลายส่วนของแท่นปล่อยจรวด พร้อมชี้แจงว่าความเสียหายดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหลังการปล่อยจรวด

ในขณะนี้องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย Roscosmos เปิดเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างการประเมินสภาพของอาคารปล่อยจรวด และยืนยันว่ามีอะไหล่ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการซ่อมแซมพร้อมแล้ว และความเสียหายจะได้รับการซ่อมแซมในอนาคตอันใกล้นี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวอนาโตลี แซค (Anatoly Zak) ได้แสดงความเห็นบนเว็บไซต์ Russian Space Web ว่า การซ่อมแซมแท่นบริการซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ 8U0216 นั้น อาจต้องใช้เวลาถึง 2 ปี เลยทีเดียว แต่ก็ตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ในการยืมฮาร์ดแวร์สำรองจาก Site 1 ซึ่งเป็นแท่นที่ถูกพักการใช้งานที่ศูนย์อวกาศไบโคนู (Baikonur) หรือจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่คล้ายกันจากสถานที่ปล่อยจรวดอื่น ๆ

แท่นปล่อยจรวด Site 31/6 มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นแท่นเดียวที่รัสเซียใช้สำหรับเที่ยวบินมนุษย์และเที่ยวบินขนส่งสินค้าไปยัง ISS ตั้งแต่ปี 2020 หลังจากการเลิกใช้ Site 1 หรือ "Gagarin's Start" ไปเนื่องจากขาดงบประมาณ โดย Site 31/6 แห่งนี้ เริ่มใช้งานครั้งแรกในเดือนมกราคม 1961 และเคยรองรับการปล่อยจรวดมาแล้วกว่า 400 ครั้ง

ความไม่แน่นอนของเที่ยวบินในอนาคต

ขณะที่ลูกเรือ Soyuz MS-28 ซึ่งประกอบด้วยนักบินอวกาศประกอบด้วยนักบินอวกาศสหรัฐ คริส วิลเลียมส์ (Chris Williams) จาก NASA พร้อมด้วยนักบินอวกาศรัสเซีย เซอร์เกย์ คุด-สเวิร์ชเคิฟ (Sergey Kud-Sverchkov) และ เซอร์เกย์ มีกาเอฟ (Sergei Mikaev) ปลอดภัยบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS แล้ว

โดยนักบินอวกาศทั้งหมดมีกำหนดปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 8 ดือนข้างหน้า แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อเที่ยวบินอื่น ๆ ที่จะตามมา เนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าแท่นปล่อยจรวดอื่น ๆ ของรัสเซียจะสามารถรองรับเที่ยวบินไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ได้หรือไม่ โดยทางองค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย Roscosmos มีกำหนดการภารกิจขนส่งเสบียง Progress แบบไร้คนขับในเดือนธันวาคมนี้