บลจ.กรุงศรีแนะลงตราสารหนี้ ลุยออกเทอมฟันด์ยิลด์1.35%

#บลจ.กรุงศรี#ทันหุ้น- บลจ.กรุงศรี พร้อม IPO กองเทอมฟันด์ ลงทุนพันธบัตรรัฐบาลสิงคโปร์ ชู ดอกเบี้ย1.35%ขณะเดียวกันแนะนำกองทุน KF-CSINCOME รับดอกเบี้ยขาลง แนะเลือกกองที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงช่วงค่าเงินผันผวน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี เตรียมเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลสิงคโปร์ 6M/19กองทุนมีอายุโครงการ 6 เดือน IPO ตั้งแต่ วันที่ 24 มิถุนายน – 2กรกฎาคม 2568 ลงทุนเริ่มต้น 10,000 บาท คาดผลตอบแทน 1.35%

กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตร หรือตราสารหนี้ภาครัฐ ที่รัฐบาล กระทรวงการคลังหรือธนาคารกลางของประเทศสิงคโปร์เป็นผู้ออก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ/หรือตราสารทางการเงิน และ/หรือศุกูก และ/หรือตราสารหนี้อื่นใดที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Issue rating) หรือของผู้ออกตราสาร (Issuer rating) อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)

กองทุนจะพิจารณาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินเต็มจำนวน (Fully hedge), กองทุนนี้จะลงทุนครั้งเดียว โดยจะถือทรัพย์สินที่ลงทุนไว้จนครบอายุโครงการของกองทุนรวม (buy-and-hold fund)

กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลสิงคโปร์ 6M/19 (กองทุนต้นทาง) ไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนระหว่างอายุโครงการและจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน-สะสม มูลค่า (KFCASH-A) หรือกองทุนตราสารหนี้อื่นใด (กองทุนปลายทาง) ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ

นอกจากนี้ ณ สถานการณ์ปัจจุบัน บลจ.กรุงศรี ยังแนะนำกองทุนกรุงศรีโกลบอลคอลเล็คทีฟสมาร์ทอินคัม (KF-CSINCOME) กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชือ PIMCO GIS Income Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักมีหลักการสำคัญในการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สิน (โปรดอ่านรายละเอียดในหนังสือชี้ชวน)

โดย บลจ.กรุงศรี มีมุมมองว่าการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศยังมีความน่าสนใจจากอัตราผลตอบแทน (Yield) ที่อยู่ในระดับสูง และโอกาสในการได้รับกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) จากทิศทางของดอกเบี้ยที่เป็นขาลง ทั้งนี้ ในด้านทิศทางค่าเงินที่อาจมีความผันผวนในระยะสั้น บลจ.กรุงศรี แนะนำกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

ล่าสุด Fed มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25 - 4.5%โดย Dot Plot สะท้อนว่า Fed คงมุมมองที่จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปี 2568 แต่ปรับลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในปี 2569และ 2570 ลงอย่างละ 1 ครั้ง ทำให้จำนวนการลดดอกเบี้ยในอนาคตเหลือ 4 ครั้ง หรือประมาณ 1%