บริษัทจีนเปิดตัว 'หูฟัง' ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์รุ่นแรก
(แฟ้มภาพซินหัว : หูฟังแบบเปิดหูของแบรนด์เคลียร์ รุ่นอาร์ก 3 ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ผลิตโดยบริษัท เซินเจิ้น แกรนด์ซัน อิเล็กทรอนิก จำกัด ในนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 22 เม.ย. 2024)[/caption]เซินเจิ้น, 23 เม.ย. (ซินหัว) -- บริษัท เซินเจิ้น แกรนด์ซัน อิเล็กทรอนิก จำกัด ในนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ได้เปิดตัวหูฟังแบบเปิดหู (open-ear) ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์รุ่นแรกของโลก และเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดที่มี "เป้าหมายคาร์บอนคู่" ของจีนเป็นตัวเร่งรายงานระบุว่าหูฟังแบรนด์เคลียร์ (Cleer) รุ่นอาร์ก 3 (ARC 3) ของบริษัทฯ ซึ่งถูกเปิดตัวเมื่อวันจันทร์ (22 เม.ย.) ที่ตรงกับวันคุ้มครองโลก (Earth Day) มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาแล้ว และการออกแบบลักษณะเปิดหู ช่วยให้ผู้ใช้งานยังคงได้ยินเสียงรอบข้างอู๋ไห่เฉวียน ประธานบริษัทฯ กล่าวว่าหูฟังรุ่นอาร์ก 3 ได้รับใบรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอนเพราะใช้วัสดุรีไซเคิล ไฟฟ้าอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานน้อยลงอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหวังจะเป็นตัวอย่างและกระตุ้นบริษัทอื่นๆ รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน เปิดตัวสินค้าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนมากขึ้น เพื่อบ่มเพาะการบริโภคแบบคาร์บอนต่ำอนึ่ง การผลิตที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นกระแสใหม่ที่กำลังขยายตัวของวงการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยแอปเปิล (Apple) เปิดตัวนาฬิกาที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนรุ่นแรกเมื่อปีก่อน และวางแผนทำให้ผลิตภัณฑ์แอปเปิลทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030กลุ่มคนวงในอุตสาหกรรมกล่าวว่าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการผลิตเกี่ยวพันกับชิ้นส่วนนับร้อยและห่วงโซ่อุปทานมากมาย ยังไม่ได้บรรลุความก้าวหน้าลักษณะเดียวกันมากนักสำหรับ เซินเจิ้น แกรนด์ซัน อิเล็กทรอนิก ซึ่งก่อตั้งปี 1997 และเปิดตัวแบรนด์เคลียร์ในปี 2012 มุ่งมั่นจะทำให้การผลิตปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในบางส่วน เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของจีนที่ต้องการให้ผู้ผลิตลดรอยเท้าคาร์บอน (carbon footprint) หรือการปล่อยคาร์บอนปัจจุบันจีนกำลังผลักดันการใช้พลังงานสะอาดและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภาคการผลิตภายใต้ "เป้าหมายคาร์บอนคู่" ที่แบ่งเป็นปล่อยคาร์บอนแตะระดับสูงสุดภายในปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 โดยจีนกลายเป็นตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแล้วไมเคิล เลอแฟบร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของเซินเจิ้น แกรนด์ซัน อิเล็กทรอนิก กล่าวว่าระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำกำลังหยั่งรากลึกอย่างรวดเร็วในจีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างหูฟังรุ่นอาร์ก 3