'สุพัฒนพงษ์-หญิงหน่อย' ร่วมสวดพระอภิธรรม ดร.โกร่ง ยกเป็นต้นแบบ ไม่นิ่งเฉยหากประเทศมีภัย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ศาลา 7 วัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร ในงานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม นายวีรพงษ์ รามางกูร หรือ ดร.โกร่ง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง คอลัมนิสต์เครือมติชน ถึงอนิจกรรมด้วยโรคมะเร็ง สิริอายุ 78 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเวลาประมาณ 17.30 น. เริ่มมีผู้เดินทางทยอยเข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอัศวิน คงสิริ ประธานกรรมการบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายสมชัย ฤชุพันธุ์ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร นายสมบัติ อุทัยสาง ประธานกรรมการบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายไบรอัน เจมส์ เดลานี่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT นายสิทธิพร รัตโนภาส ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภาและอดีตประธานศาลอุทธรณ์ เป็นประธานนำจุดเทียน
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า อาจารย์โกร่งเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เนื่องจากได้รู้จักอาจารย์ตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมือง นับเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาจารย์จะให้คำแนะนำในการทำงานหลายเรื่อง โดยทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันจะสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีที่อาจารย์โกร่งมีต่อบ้านเมือง ความเสียสละต่อบ้านเมืองที่มีอยู่ ซึ่งอาจารย์จะพูดเสมอว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูง คนไทยเป็นคนเก่ง แต่การเมืองเราไม่มั่นคง การเมืองยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงฉุดรั้งการพัฒนาประเทศ อาจารย์โกร่งจึงให้คำแนะนำในฐานะที่เราเป็นทัพหน้าในการทำงาน
“อาจารย์ไม่ได้เป็นนักวิชาการ หรือนักการเงินที่ทำเพื่อการเติบโตขององค์กรเอกชนเท่านั้น แต่อาจารย์มีแนวคิดในการพัฒนาบ้านเมืองและประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่ประทับใจมากเป็นเรื่องที่แม้อาจารย์โกร่งจะมีอายุมากแล้ว แต่ยังเป็นคนทันสมัยอยู่ตลอดเวลา รู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และรู้ว่าประเทศควรเดินหน้าไปในทิศทางใด ซึ่งอาจารย์จะให้คำแนะนำได้ดีเสมอ
“เราเห็นการทำงานของอาจารย์โกร่งที่ไม่ได้ทำตามหน้าที่นักวิชาการ หรือนักการเงินขององค์กรใดเท่านั้น แต่นอกเหนือจากนั้นคือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของอาจารย์ในการเป็นห่วงประเทศชาติ จึงถือเป็นการสูญเสียปูชนียบุคคลในด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่เห็นคนที่มีความรู้ด้วย และมีความปรารถนาดีต่อประเทศด้วยค่อนข้างยาก รวมถึงคนที่กล้าแสดงออกทางการเมืองด้วย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า อยากให้นักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่นำอาจารย์โกร่งเป็นต้นแบบใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.เป็นผู้ศึกษาจริงและรู้จริง 2.เป็นผู้ที่ศึกษาอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่งต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ใหม่ เหมือนที่อาจารย์โกร่งจะทันสมัยอยู่เสมอ เรียนรู้เทคโนโลยีในแต่ละยุค และให้คำแนะนำว่าเทคโนโลยีใดเหมาะสมกับประเทศไทย และ 3.เป็นผู้ที่ไม่นิ่งเฉย เมื่อเห็นอะไรที่เป็นภัยต่อประเทศชาติ กล้าแสดงออกในการตักเตือน ไม่ได้ปกป้องตัวเอง เพราะความจริงหากอาจารย์โกร่งจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก็สามารถทำได้ดีอยู่แล้ว แต่อาจารย์มีความเป็นห่วงประเทศและคนในประเทศ จึงอยากเห็นนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่มีจิตสำนึกในรูปแบบนี้
นอกจากนี้ พบคนในแวดวงการเมือง นักวิชาการ และนักธุรกิจ ส่งพวงหรีดร่วมอาลัย และถือโอกาสบริจาคให้กับหน่วยงาน องค์กร และมูลนิธิต่างๆ จำนวนมาก อาทิ สภากาชาดไทย ศิริราชมูลนิธิ กองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งจุฬาฯ มูลนิธิยุวพัฒน์ โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว
โดยเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมวันนี้ (11 พฤศจิกายน) ได้แก่ 1.กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ หรือ ปรอ.1 2.ศาลอาญา 3.บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS 5.บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 6.บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) 7.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM 8.บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) 9.บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด 10.บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด 11.บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด 12.บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด 13.สมาคมเศรษฐศาสตร์และสำนักงานนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 2 (ECON รุ่น 2) 14.สมาคมเศรษฐศาสตร์และสำนักงานนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 8 (ECON รุ่น 8) 15.บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และ 16.สำนักงานกฎหมาย บริษัท เสรี มานพ แอนด์ ดอล์ย จำกัด
และวันที่ 12 พฤศจิกายน ได้แก่ 1.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 2.สถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ (ทีดีอาร์ไอ) 3.บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) 5.โรงพยาบาลบางมด 6.สมาคมเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7.บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) 8.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)