ย้อนกลับไปในยุคที่เกมซูเปอร์ฮีโร่ยังไม่เฟื่องฟูเท่าทุกวันนี้ ปี 2003 คือปีที่ภาพยนตร์ X2: X-Men United เข้าฉายและกวาดรายได้ถล่มทลาย แน่นอนว่า Wolverine ฮีโร่พันธุ์ดุ กรงเล็บ adamantium ก็กลายเป็นขวัญใจมหาชน และในปีเดียวกันนั้นเอง เกม X2: Wolverine's Revenge ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายบนเครื่องคอนโซล PlayStation 2, GameCube และ Xbox แม้ว่าจะใช้ชื่อเดียวกับภาพยนตร์ แต่ตัวเกมกลับไม่ได้นำเสนอเนื้อเรื่องตามแบบฉบับหนัง X2: Wolverine's Revenge เลือกที่จะพาผู้เล่นดำดิ่งสู่ห้วงอดีตอันดำมืดของ Wolverine ในช่วงที่เขาถูกจับไปเป็นหนูทดลองในโครงการ Weapon X ต้องต่อสู้กับความทรงจำอันเลือนราง และไวรัสร้ายที่คุกคามชีวิต ผมจำได้ดีถึงวันที่ไปเดินเลือกซื้อเกมในร้าน ปกเกมที่ Wolverine ยืนเด่นเป็นสง่า กรงเล็บ adamantium เปล่งประกาย สะกดสายตาผมจนต้องคว้ามาครอบครอง ในตอนนั้น ความรู้สึกตื่นเต้น อยากรู้ อยากสัมผัสประสบการณ์ในร่างของฮีโร่คนโปรด มันพลุ่งพล่านไปหมด แต่เมื่อได้เริ่มเล่นจริงๆ ความรู้สึกกลับกลายเป็นความสับสน เหมือนหลงเข้าไปในเขาวงกต มีทั้งความสนุก ความผิดหวัง และความทรงจำอันเลือนราง คล้ายกับ Logan ที่ต้องต่อสู้กับปมในใจของตัวเอง บทความนี้ ผมจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปสำรวจ X2: Wolverine's Revenge ในทุกแง่มุม ตั้งแต่เนื้อเรื่อง เกมเพลย์ กราฟิก เสียงประกอบ ไปจนถึงประสบการณ์ส่วนตัวของผม เพื่อให้คุณได้รู้จักกับเกมนี้ มากยิ่งขึ้น เนื้อเรื่อง: อดีตอันดำมืดที่ตามหลอกหลอน สิ่งที่ผมชอบที่สุดใน X2: Wolverine's Revenge คือเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ชวนติดตาม แม้ว่าจะไม่ได้อิงจากภาพยนตร์ แต่ก็ถ่ายทอดแก่นแท้ของ Wolverine ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เราจะได้เห็น Logan ในมุมมองที่แตกต่าง ไม่ใช่ฮีโร่ผู้แข็งแกร่ง แต่เป็นชายคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เกมเปิดฉากด้วยเหตุการณ์ในอดีต ขณะที่ Logan ถูกจับตัวไปยังฐานทดลองของโครงการ Weapon X บรรยากาศภายในเกมเต็มไปด้วยความอึมครึม กดดัน ทางเดินแคบๆ ห้องทดลองที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแปลกประหลาด แสงไฟสลัวๆ เสียงหยดน้ำ และเสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัว ทั้งหมดนี้ สร้างความรู้สึกอึดอัด หวาดระแวง ราวกับว่าเราเป็น Logan ที่กำลังถูกจับตามอง ถูกทดลอง และถูกไล่ล่า ผมจำได้ว่าตอนเล่นถึงช่วงนี้ ขนลุกซู่ไปหมด บรรยากาศมันหลอนจริงๆ ตลอดการผจญภัย Logan ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทหารรับจ้าง หุ่นยนต์ มนุษย์กลายพันธุ์ และเหล่าวายร้ายตัวฉกาจจากจักรวาล X-Men เช่น Sabretooth ศัตรูคู่อาฆาตที่มีความแค้นฝังลึกกับ Wolverine มาอย่างยาวนาน Lady Deathstrike นักฆ่าสาวผู้มีกรงเล็บ adamantium เช่นเดียวกับ Logan และ Magneto มนุษย์กลายพันธุ์ผู้ควบคุมโลหะ ที่มีอุดมการณ์แตกต่างจากเหล่า X-Men การต่อสู้กับบอสแต่ละตัว ถูกออกแบบมาอย่างดี มีความท้าทายแตกต่างกันไป เช่น การต่อสู้กับ Sabretooth จะเป็นการปะทะกันแบบดุเดือด เน้นพละกำลัง ความเร็ว และความแม่นยำ ส่วนการต่อสู้กับ Lady Deathstrike จะเน้นการหลบหลีก และจังหวะในการโจมตี เพราะเธอมีความว่องไวสูง ส่วน Magneto นั้น เราต้องใช้ไหวพริบในการหาทางเข้าประชิดตัวเขา ท่ามกลางเศษโลหะที่ลอยคว้าง พร้อมกับหลบการโจมตีจากพลังแม่เหล็กอันรุนแรง ผมชอบฉากต่อสู้กับ Magneto บนยอดรูปปั้นเทพีเสรีภาพมาก มันทั้งยิ่งใหญ่ ตื่นเต้น และกดดัน ตอนที่ Magneto ใช้พลังยกเศษเหล็กขนาดมหึมาขึ้นมา แล้วเหวี่ยงใส่ Logan ผมนี่ลุ้นแทบหยุดหายใจเลยล่ะครับ เกมเพลย์: กรงเล็บที่ไม่ค่อยคม X2: Wolverine's Revenge เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยมุมมองบุคคลที่สาม ที่ให้เราควบคุม Wolverine ออกลุย ฟาดฟันศัตรูด้วยกรงเล็บ adamantium และพลังการรักษาตัวเองอันน่าทึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังคือ ระบบการต่อสู้ที่ค่อนข้างจำเจ และขาดความหลากหลาย ท่าโจมตีพื้นฐานของ Wolverine มีเพียงไม่กี่ท่า เช่น ฟัน กระโดดฟัน เตะ และจับทุ่ม ส่วนท่าพิเศษก็มีให้เลือกใช้ไม่มากนัก เช่น ท่า "Berserker Rage" ที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตี และ "Claw Spin" ที่ Wolverine จะหมุนตัวฟาดฟันศัตรูรอบทิศทาง แม้ว่าท่าพิเศษเหล่านี้จะดูทรงพลัง และสะใจในช่วงแรก แต่เมื่อเล่นไปนานๆ ก็เริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่ อีกจุดหนึ่งที่ผมไม่ค่อยประทับใจคือ ระบบการควบคุมที่ค่อนข้างแข็ง การบังคับ Wolverine ให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ บางครั้งก็ทำได้ยาก โดยเฉพาะในพื้นที่แคบๆ หรือตอนที่ต้องปีนป่าย ตัวละครมักจะติดกับสิ่งกีดขวาง หรือกระโดดพลาดเป้าหมาย ทำให้เสียจังหวะ และเสียเวลา อย่างไรก็ตาม เกมก็ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจ เช่น ระบบ "Feral Rage" ที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตี และความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิต ทำให้การต่อสู้ดุเดือด และรวดเร็วขึ้น และ "Sensory Mode" ที่ช่วยให้เรามองเห็นศัตรู กับดัก และไอเท็มต่างๆ ในสภาพแวดล้อมได้ชัดเจนขึ้น ระบบนี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องลอบเร้น หรือหาทางผ่านอุปสรรค กราฟิกและเสียงประกอบ: ความทรงจำสีจางๆ สำหรับเกมที่วางจำหน่ายในปี 2003 กราฟิกของ X2: Wolverine's Revenge ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค ไม่ได้สวยงามอลังการ แต่ก็ไม่ได้แย่จนเกินไป โมเดลตัวละคร Wolverine ถูกออกแบบมาได้ค่อนข้างดี ดูแข็งแกร่ง ดุดัน สมกับเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ ส่วนฉากต่างๆ ภายในเกม ก็มีความหลากหลาย ตั้งแต่ฐานทดลองใต้ดิน ป่าดงดิบ เมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ไปจนถึงยอดเขาหิมะ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดีนัก คือรายละเอียดของฉาก และเทกเจอร์ ที่ดูหยาบๆ และไม่มีมิติ แสงเงาภายในเกมก็ยังไม่สมจริง ทำให้ภาพรวมดูแข็งๆ ทื่อๆ ไปหน่อย ในส่วนของเสียงประกอบ ผมค่อนข้างประทับใจ เสียงพากย์ของตัวละคร โดยเฉพาะ Mark Hamill นักพากย์ชื่อดัง ที่ให้เสียงเป็น Wolverine นั้น ทำได้ยอดเยี่ยมมาก เสียงของเขา ทั้งดุดัน แข็งกร้าว และแฝงไปด้วยความเจ็บปวด มันเข้ากับบุคลิกของ Wolverine ได้อย่างลงตัว ส่วนเสียงเพลงประกอบก็ทำหน้าที่ได้ดี ช่วยสร้างบรรยากาศ และเพิ่มความตื่นเต้นให้กับเกมได้เป็นอย่างดี สรุป: กรงเล็บที่ยังไม่เฉียบคม X2: Wolverine's Revenge เป็นเกมที่เล่นได้เพลินๆ เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม เสียงพากย์ที่ยอดเยี่ยม และบรรยากาศที่ชวนให้ลุ้นระทึก คือจุดเด่นของเกมนี้ แต่ระบบการต่อสู้ที่ซ้ำซาก และระบบการควบคุมที่แข็ง ทำให้เกมนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าคุณเป็นแฟน Wolverine และอยากสัมผัสประสบการณ์ในร่างของฮีโร่คนโปรด เกมนี้อาจจะตอบโจทย์คุณได้ แต่ถ้าคุณคาดหวังเกมแอ็กชันที่ "สุดยอด" เกมนี้อาจจะทำให้คุณผิดหวังเล็กน้อย คะแนน: 3/5 ดาว เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !