สอบตรงได้ที่เรียนก่อนสบายใจ แต่ต้องใส่ใจความรู้รอบตัวนั้น อ่านทุกวันก่อนนอนทันควัน อ่านเพื่อให้ได้ทั้งเล่มนั้นภาษาไทย เราต้องการเอกไหนเอาให้ตรง ความรู้มั่นคนตายตัวคือภาษาไทย มหาวิยาลัย คือการเริ่มต้นอนาคตใหม่ของนักศึกษา เป็นสิ่งที่มีค่ามากในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ตอนแรกที่เรานั้นรู้ว่าตนเองนั้นจะต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นช่วงชีวิตเคว้งมาก ที่เมื่อเจอใครก็จะถามว่าเรียนอะไรต่อ คณะไหน ครูแนะแนวจะถามในแต่ละชั่วโมงว่ามีมหาวิทยาลัยนั้นนะให้เราส่งคะแนนเพื่อที่จะเข้าในมหาวิทยาลัยที่เราต้องการ หากว่าได้ผ่านการคัดเลือกเขาจะเรียกให้ไปสัมภาษณ์ หรือว่าบางมหาวิทยาลัยที่เรานั้นต้องการอยากเข้าจะต้องมีการสอบคัดเลือก ตอนนั้นคือตั้งใจจะไปสอบรอบตรงของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในคณะมนุษย์ศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ตอนนั้นสิ่งที่เตรียมพร้อมคือ ทริคการเตรียมความพร้อมในการสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยเราต้องอ่านอะไรบ้างมาดูหนังสือชุดในการเตรียมตัวกัน อ่านหนังสือชุดนี้สักสองรอบจำได้สามารถที่จะไปทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย เพราะว่าข้อสอบที่ใช้สอบนั้นคือความรู้พื้นฐานในวิชาที่เราเรียนอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะเตรียมวิชาภาษาไทยเพราะว่ามีครูนั้นแนะนำมาว่าต้องอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วฝึกทำข้อสอบท้ายบทเรื่องที่อ่าน การอ่านหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทย อย่างแรก เพราะว่าการสอบนั้นจะเน้นในสามวิชาคือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคม และภาษาอังกฤษ เราไม่รู่ว่าเขาจะออกอะไร เราจึงเน้นไปที่วิชาภาษาไทยก่อนเลยเป็นอันดับแรก คือ 100 คะแนน วิชาภาษาอังกฤษนั้นเรามั่นใจอยู่อ่านบ้างในเรื่องของไวยากรณ์ การอ่านประโยค แต่ละวิชานั้นจะมีคะแนนที่ตั้งเกณฑ์ไว้เสมอ หากว่าเรานั้นได้คะแนนตามที่กำหนดจะถือว่าผ่าน ขั้นแรกคือกานอ่านเล่มแรก ในเล่มแรกจะเป็นความรู้ในเรื่องของระบบเสียง ในภาษาไทย ต่อด้วยอักษรไทย การอ่านคำ และการเขียนสะกดคำ หากว่าเราอ่านหนังสือเล่มแรกนี่เราจะรู้เลยในหลักของไวยากรณ์ ตอนที่อ่านนั้นอ่านหนังสือเล่มนี้ประมาณสองรอบแล้วลองเขียนข้อสอบขึ้นมาเพื่อถามตนเอง ในรอบที่สามนั้นจะเขียนสรุกในเล่มเล็ก และตามด้วยสมุดบันทึก เล่มที่สอง จะทบทวนในเรื่องของคำ การสร้างคำและการยืมคำ หากว่าเราไปสอบเราจะสามารถที่จะรู้ครอบคลุมไปทั้งหมดเลย ในคำที่ยืมมาจากต่างประเทศว่า มีลักษณะอย่างไร คำต่างๆ นั้นพอเราไปทำข้อสอบเราจะเห็นเยอะมาก อย่างเช่นคำไหนไม่ใช่คำสมาส คำไหนไม่ใช่คำสนธิ คำไหนคือคำยืมมาจากภาษามลายู เหล่านี้เราต้องรู้ หากว่าเป็นเนื้อหาของการอ่านเรื่อง จะเขียนว่า มีคำในภาษาต่างประเทศทั้งหมดกี่คำ เล่มที่สาม ในเล่มนี้จะบอกถึงชนิดของคำ วลีคือประโยคสั้นๆ และประโยคสัมพันธสาร เล่มที่ สี่ เล่มที่ ห้า 3 วิธีในการอ่านหนังสือให้มีสมาธิและจำได้เยอะขึ้น การอ่านหนังสือนั้นมีความสำคัญหากว่าเรานั้นไม่มีวิธีการก็ยากที่จะจำได้ 1. คือ ต้องเขียนแพลนเนอร์ การเขียนแพลนเนอร์นั้นมีประโยชน์ที่สุด คือจะต้องเขียนให้เห็นว่ากิจกรรมของเราในแต่ละวันนั้นจะต้อทำอะไรใน 1 วัน ช่วยทำให้วางแผนกิจกรรมทำงานหรืออ่านหนังสือได้ดีขึ้น และยังบริหารเวลาได้อย่างดีมากด้วย แพลนเนอร์รายเดือน รายสัปดาห์หรือรายวันเราจะต้องทดลองในหลากหลายรูปแบบ 2. เลือกช่วงเวลาในการอ่านหนังสือให้เหมาะสมกับตัวเอง ให้มาก ซึ่งเวลาของแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนกัน สำหรับผู้เขียนนั้นจะชอบเวลาเช้ามืดก่อนที่จะไปโรงเรียน ตีสี่ถึงตีห้าครึ่ง ส่วนในบางคนนั้นชอบในเวลากลางคืนก็ได้เช่นกัน หรือในบางคนอาจจะอ่านโต้รุ่งไปเลยได้เช่นกัน (แต่สิ่งหลังนี้ไม่ดีต่อสุขภาพต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอไม่อย่างนั้นจะทำให้สมองนั้นมีความจำไม่ดี 3. เทคนิคมะเขือเทศ หากว่าใครนั้นอ่านแล้วความจำไม่ดีต้องลองวิธีนี้เลย หากว่าเรานั้นคิดว่าเรานั้นยังไม่มีสมาธิมากพอที่จะอ่านนานๆ เป็นชั่วโมง ให้ทำแบบแบ่งเวลาสั้นๆ สักประมาณ 10-25 นาที เพื่ออ่านหนังสือแล้วค่อยพักเบรค 5 นาที ตามในแบบเทคนิคมะเขือเทศได้ แต่ว่าในช่วงเวลานั้นเราจะต้องโฟกัสสิ่งที่อ่านนั้น แบบ 100% ทำแบบนี้วน 4 รอบ แล้วจะรู้ว่าเรานั้นอ่านได้ถึง 1 ชั่วโมง แบบที่สมาธิของเรานั้นไม่หลุด เหมาะเลยวิธีนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อ่านหนังสือได้ไม่นาน ก็ไม่มีสมาธิ การสอบตรงนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญหากว่าเรานั้นได้ที่เรียนและรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว เราจะไม่ต้องมานั่งเครียดกับการสอบรอบใหญ่ ที่ต้องแข่งขันกันทั้งประเทศ และมีความสุขกับการเตรียมตัวที่จะเรียนมหาวิทยาลัยเจอเพื่อนใหม่อย่าลืมนำไปใช้สำเร็จมาแล้วในการสอบรอบตรงเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย เรียนพิเศษ https://ttid.co/UAnK/70p4k8tf ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน ภาพปกจาก Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !