สวัสดีค่ะ หลังจากที่หลาย ๆ กศจ. (สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด) เรียกบรรจุครูผู้ช่วยหลาย ๆ วิชาเอกกันอย่างถล่มทลาย หลายคนที่สอบติดก็ได้บรรจุเป็นข้าราชการครูอย่างที่ตั้งใจ แต่ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่ยังสอบไม่ติด ยังเรียกไม่ถึงลำดับที่ตนเอง หรือกำลังศึกษาอยู่คณะศึกษาศาสตร์ บางคนคงอาจจะกำลังสงสัยอยู่นะคะ ว่าพอบรรจุเข้ารับราชการครูเต็มตัวแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง งานสบาย ๆ แค่สอนนักเรียน ไปเช้าเย็นกลับจริงหรือเปล่า วันนี้ผู้เขียนจึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตครู (บ้านนอก) เพื่อให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ขอบอกก่อนเลยว่า บทความนี้อ้างอิงมาจากประสบการณ์ของผู้เขียนเพียงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นอาจจะเจอที่แตกต่างกันออกไปก็ได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ สนุกและหัวหมุนทุกวันที่มาทำงานแน่นอน 1. อาจจะได้บรรจุไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนขอบคุณรูปภาพจาก StockSnap จาก Pixabay การสอบบรรจุครูผู้ช่วยรอบทั่วไป ทาง กศจ. แต่ละจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศรับสมัคร ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะเป็นครูในจังหวัดไหน แต่ในบางกรณีที่เอกที่เพื่อน ๆ เรียนไม่เปิดรับสมัคร ก็จำเป็นต้องไปสมัครที่จังหวัดอื่นที่เปิดรับเอกนั้น แล้วรอสอบย้าย หรือรอย้ายแบบปกติ 4 ปีหากไม่ต้องการรอสอบปีอื่น หรือบางกรณีที่จังหวัดนั้นเปิดรับน้อย แล้วเพื่อน ๆ อยากมีโอกาสสอบติดรอบแรกมากขึ้น ก็จะไปเลือกสมัครสอบในจังหวัดที่เปิดรับเยอะ ตัวอย่างเช่นสมศรีเกิดและมีบ้านอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี แต่เอกภาษาอังกฤษที่อุดรธานี เรียกรอบแรกแค่ 2 คน สมศรีอยากบรรจุเร็ว ๆ จึงเลือกไปสมัครสอบที่จังหวัดนครปฐม ที่เรียกรอบแรก 30 คนส่วนในกรณีที่เลือกสอบที่จังหวัดบ้านเกิดตัวเองแล้วสอบติด ก็ใช่ว่าจะได้อยู่แถวบ้านแบบขี่มอเตอร์ไซค์ไปกลับได้นะคะ การเลือกโรงเรียนนี้ขึ้นอยู่กับดวงจริง ๆ บางคนโชคดีมีโรงเรียนใกล้บ้านให้เลือก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนไกล ต่างอำเภอมากกว่า ทำให้เราต้องจากบ้านไปอยู่บ้านพัก แล้วอาจกลับบ้านช่วงเสาร์ – อาทิตย์ เห็นไหมล่ะคะ ถึงแม้จะอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่จะได้อยู่บ้านนั้นโอกาสน้อยมากกกกก แต่ครูเลือกนักเรียนไม่ได้ จะใกล้จะไกลแค่ไหนก็ต้องไปสอน จริงไหมคะ 2. อาจได้สอนวิชาที่ไม่ตรงเอกหรือสอนมากกว่า 1 วิชาขอบคุณรูปภาพจาก David Mark จาก Pixabay ในโรงเรียนขนาดเล็กตามต่างอำเภอส่วนใหญ่จะมีปัญหาขาดครู ครูไม่ครบชั้น ทำให้ครูหลายคนต้องไปสอนวิชาที่ไม่มีครูสอน เช่น เราจบเอกภาษาอังกฤษ เราอาจจะต้องสอนวิชาศิลปะ ดนตรี หรือครูคนใดจบเอกคณิตศาสตร์แต่ต้องมาสอนประจำชั้นก็เป็นได้ ดังนั้นเราต้องเปิดใจให้กว้าง ๆ พยายามหาความรู้ในวิชาอื่น ๆ เอาไว้ด้วย เผื่อว่าโรงเรียนเราขาดแคลน เราจะได้เติมเต็มส่วนนั้น หากใครคิดว่าฉันจบเอกนี้มา ฉันต้องสอนวิชานี้อย่างเดียวก็ขอให้เผื่อใจไว้เลยนะคะ 3. งานนอกเหนือจากหน้าที่สอนเยอะมากกกกกรูปภาพโดยผู้เขียนได้ยินบางคนบอกว่า “ครูไทยทำได้ทุกอย่าง” พอหลังจากที่ได้บรรจุเข้ามาสัมผัสจริง ๆ แล้ว ขอบอกเลยว่า “จริงค่ะ” ทำ(เกือบ)ทุกอย่างจริง ๆ ยิ่งถ้าได้บรรจุโรงเรียนขาดแคลนหรือห่างไกลความเจริญ ครูนี่แทบจะทำหน้าที่เป็นพ่อแม่เด็กเองด้วยซ้ำ ใครที่คิดว่าสอนหนังสืออย่างเดียวคือคิดผิดนะคะ หน้าที่พิเศษนอกเหนือจากการสอน ทั้งการเงิน พัสดุ วิชาการ ประชาสัมพันธ์ จากคนไม่เคยเรียนเกี่ยวกับวิศวะ ก็ต้องมาเป็นคนคุมงานก่อสร้าง บางทีก็ต้องเป็นคนงานเอง นักเรียนบ้านไกล ไม่มีรถมาโรงเรียนครูก็อาจต้องขับไปรับไปส่ง บางทีก็เป็นช่างเสริมสวย ตัดผมให้เด็กเพราะนักเรียนไม่มีเงินไปตัดผมที่ร้าน บางบทบาทก็ต้องเป็นโค้ชกีฬา ทั้งที่จริงแล้วเล่นไม่เป็นเลยสักอย่าง บางคนก็ต้องเป็นแม่ครัวหรือชาวสวน ปลูกผัก เลี้ยงปลา หมู ไก่ กบ ไส้เดือน ตามแต่โครงการที่โรงเรียนมี บางโรงเรียนมีโรงเรือนปลูกเมล่อนเลย ใหญ่โตมาก เห็นมั้ยคะ งานครูแท้จริงแล้วไม่ใช่แค่งานสอนหนังสือ จนบางทีก็สับสนว่า นี่เรามาเป็นครูหรือมาเป็นอะไรกันแน่(วะ) แต่ก็สุขใจทุกครั้งที่ได้ทำเพื่อเด็กนะคะ 4. อาจต้องทำงานกับคนต่างวัยขอบคุณรูปภาพจาก mohamed Hassan จาก Pixabay บางโรงเรียนที่ครูส่วนใหญ่วัยใกล้เกษียณเยอะก็อาจทำให้เรารู้สึกเกร็ง หรือลำบากในการปรับตัว ถ้าใครได้เพื่อนร่วมงานเป็นแม่ ๆ ใจดี ช่วยสอนงาน รักเหมือนลูกหลานก็ดีไป แต่บางคนอาจจะเจอแม่ ๆ ที่แก่แล้ว ขอพักก่อน พักคือพักจริง ๆ ไม่สอน นอนกลางวันแบบเอาเสื่อเอาหมอนมาปูนอนในห้องเรียน โรงเรียนเลิก 15.30 น. แต่ บ่าย 1 ขับรถออกไปแล้ว หรือครูป่วย นัดหมอทุกอาทิตย์ ก็ต้องทิ้งคาบแล้วไป พวกนี้ถ้าไม่ปล่อยเด็กเล่นกันในห้องก็จะมาขอร้องให้น้อง ๆ บรรจุใหม่ไปดูแทน งานใด ๆ มาให้น้อง ๆ ทำเลย แม่แก่แล้ว อีกหน่อยจะเกษียณละ ยกงานให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่ได้ศึกษา แต่ขั้นเงินเดือนแม่ขอก่อนนะ และอีกสารพัด ถ้าเจอแบบนี้ต้องทำใจอย่างเดียว เปลี่ยนคนร่วมงานไม่ได้ก็เปลี่ยนที่ตัวเราแทน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ อะไรช่วยได้ก็ช่วย อะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงก็ปฏิเสธไป อย่าไปคิดมาก โฟกัสที่งานเราให้ดีที่สุด 5. งานเอกสารร้อยแปดพันหมื่นอย่างก็อย่างที่บอกไปหลายข้อนะคะ ครูไม่ได้มีหน้าที่สอนอย่างเดียว แต่อีกหนึ่งหน้าที่ที่ต้องทำเสมอ ๆ ก็คืองานเอกสารต่าง ๆ มีประเมินทีก็หมดกระดาษไป 2 -3 รีม เครื่องพิมพ์พังแล้วพังอีก หมึกพิมพ์หมดแล้วหมดอีก บางทีทำแฟ้มแทบตาย กรรมการเปิด ๆ พลิก ๆ ดูแค่หน้าสองหน้า ปีต่อไปก็ต้องทำใหม่อีก แฟ้มเดิมก็กองรวม ๆ ไว้รกพื้นที่ แย่หน่อยก็คือต้องทำเอกสารทั้งวันจนไม่มีเวลาสอนเด็ก เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้สะที วอนผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณา และที่คือประสบการณ์คร่าว ๆ ที่ผู้เขียนต้องเจอหลังจากบรรจุเป็นข้าราชการครู มีแต่ข้อเสียทั้งนั้นเลยใช่มั้ยคะ แต่จริง ๆ แล้วมีข้อดีอยู่เยอะนะ เดี๋ยวค่อยเขียนเล่าให้ฟังในบทความถัดไป สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็ขอให้กำลังใจคนที่กำลังจะสอบขอให้สอบติดได้โรงเรียนดี ๆ สังคมการทำงานดี ๆ แล้วเราจะอยากตื่นมาทำงานทุกวันเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณรูปภาพปกจาก Sasin Tipchai จาก Pixabay