ยางพารา ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของสังคมไทย เป็นอย่างมาก ในอดีตจะปลูกกันเยอะที่ภาคใต้ แต่ในปัจจุบันในพื้นที่ภาคอีสานก็เต็มไปด้วยป่ายางพาราเช่นเดียวกัน ด้วยเทคนิควิธีการปลูก การดูแลในสภาพอากาศที่ต่างกัน ทำให้การดูแลต้นยางพารามีความแตกต่างกันออกไปด้วย โดยเฉพาะการดูแลใส่ปุ๋ย มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากใส่ผิดวิธี และไม่รู้กระบวนการย่อมทำให้น้ำยางพาราไม่ได้ผลตามที่ต้องการ และไม่ใช่การบำรุงที่ถูกต้องอีกด้วยภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี วิธีการหนึ่งที่น่าสนใจของเกษตรกรชาวอีสาน คือ การล่อรากฝอยให้ขึ้นมาจากดิน โดยใช้ “ฟางข้าว” หรือ “ฟางอัดก้อน” ในช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน โดยเริ่มช่วงที่ยางผลิใบออกเรียบร้อยในช่วงฤดูร้อน กำลังงอกใบอ่อนในช่วงปลายเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม โดยจะใช้ฟางข้าวอัดก้อน วางเรียงคู่ตามร่องระยะทางขวางของต้นยางพาราแต่ละต้น 2 ต้น ตรงข้ามกันใช้ 2 ก้อน ไปรอบทั้งสวนภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี โดยปกติแล้ว รากฝอยของยางพาราจะแผ่ออกเป็นรัศมีวงกลม ดังนั้นการใส่ปุ๋ยตรงโคนยางพาราจึงเป็นเรื่องที่ผิด ต้องวางในรัศมีวงกว้างของร่องยาง เมื่อรากมาเจอฟางก็จะเริ่มขึ้นมาดูดซึมก้อนฟางเป็นรากขึ้นมาหุ้ม ทำให้รากส่วนหนึ่งขึ้นมาดูดซึมบนพื้น โดยเฉพาะถ้าฝนตกก็จะขึ้นมาดูดซึมแร่ธาตุได้ง่ายขึ้น เมื่อครบระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จนถึงปลายพฤษภาคม เริ่มเป็นหน้าฝนฟางอัดก้อนก็จะย่อยสลายหมด รากฝอยที่ขึ้นมาเกาะฟาง ก็จะกระจายตามหน้าดินภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี กระบวนการต่อมา ก็คือ เกษตรกรสวนยางสามารถหว่านปุ๋ยได้เลยครับ เป็นช่วงแรกของการบำรุงก่อนเริ่มกรีด โดยปกติจะใส่ปุ๋ยประมาณ 1 – 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี ในสูตร 30 – 5 – 18 โดยหว่านตามร่องยาง แนวเดิมที่ใส่ฟางข้าวอัดก้อนเอาไว้ โดยรากฝอยที่กระจายตัวจากที่ขึ้นมาดูดซึมฟางข้าว จะดูดซึมปุ๋ยที่เราบำรุงต่อโดยที่ไม่ต้องเสียปุ๋ยลงดินไม่ตรงรากฝอยอีกต่อไป รากฝอยจะดูดซึมได้ดีขึ้น ทั้งนี้ควรช่วยต้นยางพาราในช่วงนี้ก็คือ หากฝนไม่ตกต่อเนื่องอาจมีระบบการรดน้ำเพื่อช่วยให้ยางพาราดูดซึมปุ๋ยได้ดีขึ้นภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี จากที่กล่าวมา “ฟางข้าวอัดก้อน” จึงมีความสำคัญในการเปิดรากฝอยขึ้นมาดูดซึมสารอาหารจากปุ๋ยที่เกษตรกรหว่านลงเป็นอย่างมาก หากไม่มีฟางข้าว อาจใช้เศษใบไม้แทนได้เช่นเดียวกันครับ แต่ควรสอดคล้องกับช่วงเวลาการใส่ปุ๋ย ในช่วงต้นฤดูฝนเดือนพฤษภาคม และปลายฤดูฝนเดือนกันยายน - ตุลาคม เพื่อให้รากฝอยของยางพาราดูดซึมได้ดีภาพถ่ายหน้าปกโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี