ทุกวันนี้การมีทักษะภาษาอังกฤษติดตัวคงมีประโยชน์กับเราไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเอาไปใช้ในการสอบเข้า เรียนต่อ หรือสมัครงานก็ตาม แล้วเครื่องมือที่จะเอาใช้การันตีความสามารถของเราก็คงไม่พ้นคะแนนจากการทดสอบภาษาอังกฤษ และทุกวันนี้ก็มีสถาบันที่รับทดสอบภาษาอังกฤษที่น่าเชื่อถือหลายที่มากเช่นกัน แต่คะแนนสอบที่ประเทศไทยนิยมกันมากที่สุด จะเป็นคะแนนการสอบ TOEIC นั่นเอง วันนี้เราจะมาขอรีวิวเทคนิคการเตรียมตัวสอบ TOEIC ให้ได้ 800++ ภายใน1เดือนกันก่อนอื่นเลยต้องขออธิบายก่อนว่า TOEIC คือ Test of English for International Communication หรือแบบทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา รับรองโดยสถาบัน Educational Testing Service (ETS) ของอเมริกา สามารถเอาผลไปใช้ในต่างประเทศได้ด้วยนะ โดยปกติแล้ว TOEIC จะมีอายุ 2 ปีนับตั้งแต่วันที่สอบเรามาเข้าเรื่องเทคนิคการเตรียมตัวสอบ TOEIC กันบ้างดีกว่า ข้อสอบ TOEIC ในปี 2023 ที่รับสอบทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทหลัก ๆ ได้แก่ Listening และ Reading ( การฟังและการอ่าน ) คะแนนรวมทั้ง 2 พาร์ท คือ 990 คะแนน จากข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อวันนี้เราจะมาแชร์ 3 เทคนิคหลักของเราในการพิชิตคะแนนสอบ TOEIC กัน 3 เทคนิคจะประกอบไปด้วยการทำสรุปเนื้อหาฝึกทำข้อสอบแบบแบ่งพาร์ท (Quiz test)ฝึกทำข้อสอบจริง พร้อมจับเวลาการทำสรุปเนื้อหาเรามาเริ่มเทคนิคแรกของเรากันเลย การทำสรุปเนื้อหา ก่อนไปสอบครั้งนี้ ในชีวิจประจำวันเราไม่ได้มีการใช้ภาษาอังกฤษเลย จึงจำเป็นต้องไปรื้อฟื้นสักหน่อย โดยในสัปดาห์แรกเราจะทำสรุปเนื้อหา โดยเราจะเน้นไปที่การอ่าน Grammar สำหรับใช้สอบพาร์ท Reading ซึ่งเป็นส่วนที่ออกในข้อสอบเยอะมากเลย เราจะอ่านทุกวัน ๆ ละประมาน 30 นาทีให้ครอบคลุมเนื้อหาที่คาดว่าจะออกให้ได้มากที่สุดเราเริ่มจากการหาสรุปเนื้อหาน่ารักๆ ตามอินเทอร์เน็ตอ่าน ที่เราเลือกจากอินเตอร์เน็ตเพราะส่วนมากทุกคนจะสรุปมาได้อย่างตรงประเด็นแล้วทำให้เราไม่ต้องอ่านในส่วนที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป ซึ่งส่วนมากเราเองจะอ่านเนื้อหามาจากเพจ XChange English ติว TOEIC TOEFL เป็นเพจที่คอยรวบรวมเนื้อหาที่ออกสอบบ่อย ๆ ไว้ให้เรา แถมมีสรุปหลักการวิเคราะห์และแนวทางการเดาคำตอบให้ด้วยนะhttps://www.facebook.com/XChangeEnglish/photos/pcb.3248273855437707/3248272965437796/เมื่อเราอ่านเนื้อหาแต่ละเรื่องครบแล้ว เราก็จะมาเขียนเป็นสรุปของเราไว้ เพื่อเอาไว้ใช้ดูเวลาใกล้ ๆ สอบ เป็นการทบทวนส่วนสำคัญไปในตัวด้วยเลย และการสรุปเพิ่มเติมด้วยลายมือตัวเองก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้เราจำข้อมูลได้ดีมากขึ้นด้วยฝึกทำข้อสอบแบบแบ่งพาร์ท (Quiz test)ต่อมาเมื่อเราได้รื้อฟื้นความจำด้านภาษาอังกฤษแล้ว เราก็จะเริ่มทำข้อสอบเลย แต่สำหรับเราแล้วการทำข้อสอบทีเดียวเยอะ ๆ จะค่อนข้างไม่ถูกใจสิ่งนี้สักเท่าไหร่ ทำไปได้แป๊ป ๆ ก็จะอยากเลิกแล้ว ในตอนแรกเราเลยเลือกที่จะทำข้อสอบแบบแบ่งเป็นพาร์ท ๆ แทน โดยเราจะทำในแอปบนโทรศัพท์มือถือ คือ MemmoreadTOEIC ตัวแอปก็จะมีสำหรับการสอบทั้งสองพาร์ทเลย Listening และ Reading แอปก็สามารถโหลดได้ง่ายมาก ผ่าน App store และ Google play เลย ในราคาแอปละ 149 บาท ซึ่งภายในแอปจะประกอบไปด้วย 1. ตัวอย่างข้อสอบจริงย้อนหลัง 2. แบบทดสอบแบบแบ่งพาร์ท 3. ที่บันทึกคำศัพท์ 4. ที่บันทึกข้อสอบข้อที่เราสนใจโดยสำหรับแอปนี้เราจะเลือกทำเป็นแบบทดสอบแบบแบ่งพาร์ทเอา (Quiz test) เพราะแอปเขาจะแบ่งข้อสอบที่ละ 5-10 ข้อให้เราทำได้ และจะเฉลยทันทีที่เราทำเสร็จ ทำให้เราไม่ต้องทำให้หมดทั้งชุดแล้วถึงจะดูคำตอบได้ เราว่าดีอย่างหนึ่งคือ เราจะได้รู้จุดผิดพลาดของเรา ณ ตอนนั้นเลยว่าเราพลาดข้อนี้เพราะอะไร แถมเฉลยของแอปก็ละเอียดมากอีกด้วยช่วง 2 - 3 สัปดาห์แรก เราจะทำแบบแบ่งพาร์ท ทุกพาร์ททั้ง Listening และ Reading เลย โดยทำพาร์ทละ 5 แบบทดสอบ ทำวนไปทุกวัน แต่ต้องทำให้ครบทุกพาร์ทด้วยนะ เราจะได้รู้ว่าพาร์ทไหนบ้างที่เรายังไม่แม่นพอ เราก็จะไปเพิ่มการทำพาร์ทนั้นให้มากขึ้นฝึกทำข้อสอบจริง พร้อมจับเวลาพอเขาสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนสอบ สัปดาห์นี้เราจะเน้นไปที่การทำข้อสอบอย่างเดียวเลย โดยเราจะทำจากหนังสือ เตรียมสอบเข้ม TOEIC แบบ All-in-One ลุยโจทย์ 1,000 ข้อ LC+RC เราสั่งจากเว็บ SE-ED ในราคา 450 บาทข้อสอบในหนังสือจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ท Listening และ Reading อย่างละ 5 ชุด ชุดที่ 1 - 2 เราจะแบ่งทำเป็น Listening ก่อน เสร็จแล้วก็ตรวจคำตอบ แล้วค่อยไปทำ Reading ต่อ แต่ในขณะทำก็จะจับเวลาตามจริงไปด้วย Listening 45 นาที และ Reading 75 นาที (Listening ฟังไฟล์เสียงได้จาก เตรียมสอบเข้ม TOEIC แบบ All-in-One) หนังสือเล่มนี้เฉลยละเอียดมาก ทำให้เรารู้เลยว่าทำผิดตรงจุดไหน และผิดเพราะอะไร ชุดถัด ๆ ไปก็จะเริ่มจับทางได้หลังจากนั้น ชุดที่ 3 - 5 เราจะใช้วิธีการทำแบบเสมือนจริงเลย คือทำในรอบเดียวทั้ง 2 พาร์ท จับเวลา 2 ชั่วโมงตามจริง และฝนลงบนกระดาษคำตอบให้เหมือนจริงเลย (หนังสือเล่มนี้เขามีแบบกระดาษคำตอบให้ด้วย) การทำแบบนี้จะทำให้เรารู้ว่าตัวเราเองเสียเวลาไปกับการทำข้อไหนบ้าง หรือใช้เวลากับการในข้อสอบไปโดยไม่จำเป็นมั้ยและข้อบอกว่าจากที่เราไปสอบ TOEIC มา ทำให้รู้ว่าข้อสอบจริงคล้ายกับข้อสอบในหนังสือมากก ทั้งระดับความยาก สำเนียงในพาร์ท Listening และลักษณะข้อสอบ จำนวนข้อสอบและรูปแบบการออกในพาร์ท Reading ฝึกทำเล่มนี้ไปก่อนสอบ ก็เหมือนได้ลองสนามข้อสอบจริงเลยเป็นไงกันบ้างคะ สำหรับเทคนิคการเตรียมตัวสอบ TOEIC ของเรา ใครได้ลองทำตามแล้ว แล้วไปสอบแล้วอย่าลืมมาแชร์ผลลัพธ์ให้กันด้วยน้า หรือใครมีเทคนิคเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถบอกกันได้เช่นกันน้าขอให้ทุกคนได้คะแนนสอบออกมาตามที่หวังนะคะ ;) ภาพประกอบที่ 1: จากเพจ XChange English ติว TOEIC TOEFL ภาพประกอบ: โดยผู้เขียนทั้งหมดเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !