10 วิธีทำตัวเองให้มีความสุข ในการใช้ชีวิตแต่ละวัน | บทความโดย Pchalisa ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบและเต็มไปด้วยความเครียด การหาความสุขดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ ความกังวลใจเรื่องงาน การเงิน ความสัมพันธ์ ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออารมณ์และความสุขของเรา ที่หลายคนก็อาจจะเคยสงสัยว่า? ทำไมบางคนถึงดูมีความสุขเสมอ แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมายในชีวิต ซึ่งคำตอบอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดค่ะ เพราะในบทความนี้ผู้เขียนจะเปิดเผยเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านมีชีวิตที่เบิกบานและมีความสุขมากยิ่งขึ้นได้ เพราะการมีความสุขไม่ใช่การขายฝัน แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยตัวเองค่ะ และเนื่องจากการมีชีวิตที่สุขสมหวังจะส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและใจของเรา ช่วยให้เรามีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นมากขึ้นได้ด้วย ดังนั้นต้องอ่านต่อให้จบและนำไปประยุกต์ใช้กันค่ะ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยจ้า ดังนี้ 1. ให้เวลากับตัวเอง การหาเวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือการออกกำลังกาย การลองอยู่คนเดียวบ้าง ถือเป็นช่วงเวลาที่สร้างพื้นที่ส่วนตัว เพื่อทำความเข้าใจตัวเองให้มากขึ้นค่ะ ปกติผู้เขียนชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลงบ้างแต่ไม่บ่อย และออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ อีกทั้งในตอนหลังมาก็ให้ความสำคัญเรื่องทำตัวเองให้สงบจากภายใน เลยฝึกสมาธิก่อนนอนค่ะ กิจกรรมเหล่าช่วยได้หมด เพราะมีส่วนช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายได้ และความสุขก็ตามมาค่ะ 2. ขอบคุณสิ่งดีๆ รอบตัว ปกติผู้เขียนจดบันทึกสิ่งดีๆ และนึกขอบคุณสิ่งดีๆ ในใจที่เกิดขึ้นในแต่ละวันค่ะ การทำแบบนี้เพื่อแสดงความขอบคุณของสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ก็ขอบคุณทั้งหมดนะคะ ทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต การพาตัวเองให้ทำแบบนี้ มีส่วนทำให้เราเปลี่ยนโฟกัสมาที่ด้านดีๆ และด้านบวกของชีวิตค่ะ เราจึงมีความสงบสุขและมีความสุขมากขึ้นได้ในตอนนั้นเลย 3. ใช้ชีวิตในปัจจุบัน เราต้องอย่ากังวลกับอดีตค่ะ เพราะอดีตเป็นเพียงอดีต เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ แล้วก็อย่ากังวลกับอนาคต เพราะอนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน การกังวลมากเกินไปจะทำให้เราไม่มีความสุขในปัจจุบัน อนาคตของเราจะเป็นไปในทิศทางไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไรในปัจจุบัน ดังนั้นถ้าอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ก็ต้องหันมาโฟกัสกับสิ่งที่มีอยู่ในตอนนี้และเดี๋ยวนี้ค่ะ 4. ทำในสิ่งที่รัก สำหรับผู้เขียนนั้น พอพูดคำว่า “ทำในสิ่งที่รัก” ผู้เขียนมองว่ามันคือสิ่งที่เราหมกมุ่นทำได้แบบไม่เหนื่อย ไม่รู้สึกว่าเป็นงาน ที่สิ่งนั้นอาจจะทำเงินหรือไม่ทำเงินก็ได้ ไม่ตายตัวค่ะ คือเอาความรู้สึกตัวเองตัดสินเลย ถ้าสนุกและทำได้แบบง่ายๆ อันนี้แน่นอนมากว่าเราชอบทำแน่ๆ ดังนั้นคุณผู้อ่านลองค้นหาความชอบของตัวเองดูค่ะ ที่อาจเกิดจากการลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ดูก่อนก็ได้ เพื่อค้นหาสิ่งที่เราชอบ การทำในสิ่งที่รักทำให้เรามีความสุขได้ง่ายๆ เพราะคล้ายกับเราเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง จากเรื่องปวดหัว จากเรื่องเครียดๆ มาอยู่กับสิ่งที่เราถนัดค่ะ อย่างในกรณีของผู้เขียนนั้นชอบปลูกต้นไม้ค่ะ ชอบพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ชอบถ่ายรูป ชอบทำอาหารและชอบอ่านหนังสือ และอื่นๆ อีกตามโอกาสจะเอื้อให้ได้ทำ 5. มองโลกในแง่ดี การพัฒนาตัวเองให้สามารถฝึกคิดบวกได้ มองหาสิ่งดีๆ ในทุกสถานการณ์ได้ ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่มีได้ มองโลกตามความจริง ไม่ตีความไปในทางลบ ไม่ให้ความหมายไปทางไม่ดี มองเห็นโอกาสในทุกสถานการณ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีความคิดที่ดีในเชิงบวกค่ะ พอเราคิดแบบนี้ได้อารมณ์ดีจะตามมาง่ายๆ จากนั้นความสุขจะไปไหนเสีย โดยในประเด็นนี้ผู้เขียนพยายามฝึกตัวเองตลอดค่ะ ที่ทำบ่อยคือจะไม่ตีความในทางลบ ไม่สงสัย เพราะบางครั้งความสงสัยมักนำไปสู่การคิดลบค่ะ และชอบมองเหตุการณ์จากหลายมุมมองมากกว่า และในตอนหลังมาเลยเป็นคนที่พลิกสถานการณ์มาบวกได้เร็วมากขึ้นค่ะ 6. ดูแลสุขภาพกายและใจ กายและใจของเราคือต้นตอของความสุขในชีวิตค่ะ ซึ่งถ้าพูดแบบนี้ก็หมายความว่า สถานการณ์รอบตัวเรามันส่งผลอะไรต่อเราไม่ได้เลย และถ้าจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ นะคะ ลองนึกภาพตามนี้ดูค่ะ ส้มเขียวหวานหนึ่งลูก ต่อให้เราจะทุบ จะหั่น จะปอก หรือบางคนอาจจะเอาไม้ตี ความเป็นน้ำส้มยังเหมือนเดิม ก็เหมือนกันกับกายใจเรา ข้างนอกไม่เคยทำให้เราเปลี่ยนไปได้ และถ้าเราหันมาออกกำลังกาย ก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจแจ่มใส เลือกทานอาหารที่ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ สิ่งเหล่านี้สำคัญมากๆ ค่ะ และเรื่องนี้ผู้เขียนก็ไม่เคยพลาดนะคะ เพราะเป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่แล้ว ทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ กับนอนไม่เกินสี่ทุ่ม และอื่นๆ ที่เป็นไปได้เพื่อดูแลสุขภาพกายและจิตใจของตัวเองค่ะ 7. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี การใช้เวลากับคนที่รัก การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อนฝูง การได้ช่วยเหลือผู้อื่น การให้ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้ค่ะ การให้ที่ว่านี้บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของจับต้องได้ การส่งความคิดถึงผ่านข้อความ การโทรหากัน การถามสารทุกข์สุกดิบ การแสดงความเป็นห่วงเป็นใย การพูดจากันด้วยคำพูดดีๆ ในเชิงบวก สิ่งเหล่านี้เป็นพลังดีทั้งนั้น และคนเราทุกคนก็ชอบสิ่งนี้ค่ะ รวมถึงตัวเราเองด้วย พอเป็นแบบนี้ทั้งผู้ให้และผู้รับ ก็มีความสุขได้ง่ายๆ ค่ะ และจากตัวอย่างของผู้เขียนเลยนะคะ พยายามใช้เวลากับพ่อแม่ให้มากที่สุดค่ะ เวลาได้อยู่กับหลานก็มักแสดงบทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด โทรและส่งข้อความหาคนรัก วางแผนมาพบเจอกันเพื่อใช้เวลาด้วยกัน ส่งการ์ดวันเกิด แสดงความเป็นห่วงเป็นใย ฯลฯ 8. ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ ผู้เขียนมองว่าความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริงค่ะ ที่มีจริงๆ คือ ความไม่สมบูรณ์แบบ และจริงมากต่อจากนั้นก็คือ เราสามารถปรับปรุงความไม่สมบูรณ์นี้ให้ดีขึ้นได้ในทุกๆ วัน ดังนั้นการตัดสินคือกุญแจดอกสำคัญ เพราะมันทำให้ขั้นตอนต่อไปเกิดขึ้น ต้องตัดสินใจยอมรับความไม่สมบูรณ์ในทุกอย่างรอบตัวเรา และเอาความสนใจไปพัฒนามันให้ดีขึ้นค่ะ แบบไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทำแบบนี้ได้จะทำให้เราสงบจากภายในและความสุขก็เกิดขึ้นค่ะ 9. ตั้งเป้าหมายและลงมือทำ การมีการวางแผนว่าจะทำอะไร มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และมีการลงมือทำตามที่ตั้งใจเอาไว้ ถึงแม้ว่าในระหว่างนั้นอาจมีอุปสรรคบ้าง เกิดความล่าช้าบ้าง แต่ถ้าเราไม่ล้มเลิก ลองใหม่เอาใหม่ ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอใหม่จนสำเร็จ แบบนี้ก็ทำให้เรามีความสุขได้ เพราะเราจะอยู่ในอาการของคนชนะ ความชนะคือพลังบวกค่ะ ก็แน่นอนว่าหลังจากนั้นเราก็จะฉลองความสำเร็จของเรา ตัวเราเลยมีความสุขขึ้น ซึ่งจริงๆ นั้นแค่ได้ลงมือทำก็ถือว่าเป็นจุดที่สำเร็จแล้วนะคะ นับหมดค่ะไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ผู้เขียนถือว่าเป็นความสำเร็จของตัวเองหมด ในตอนหลังมาเลยตั้งเป้าหมายแทบจะทุกเรื่อง ได้ออกกำลังกายตามที่ตั้งใจไว้ ได้อ่านหนังสือตามที่ต้องการ ได้ทำอะไรก็ตามแต่ตามที่บันทึกไว้ว่าจะทำให้ได้ ผู้เขียนรู้สึกว่าตัวเองเบาสบายและมีความสุขที่ได้ทำตามเป้าหมายของตัวเอง 10. เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เป็นการปิดกั้นตัวเองจากการเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เก่งขึ้น ออกจากจุดสบายที่เป็นอยู่ในตอนนี้ มีส่วนช่วยให้เรามีความสุขและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นค่ะ ใช่อยู่ว่าโดยธรรมชาติคนเรากลัวพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน เรื่องใหม่ในชีวิต สถานที่ใหม่ จากที่เราไม่มีข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่ถามว่าถ้าเราไม่เปิดรับอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตเลย ตัวเราคนใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าจะมาจากไหน? จริงไหมคะ ดังนั้นแทนที่จะคิดลบจนล้มเลิกความตั้งใจไป ให้ลองทำสิ่งใหม่จากจุดที่เป็นไปได้ก่อนค่ะ จากนั้นค่อยๆ ขยับไปจุดถัดไปของเรื่องนั้น แบบนี่จะง่ายขึ้น ตัวเราเองก็จะได้ไม่เครียดมากด้วย และมีความสุขได้ง่ายๆ ในระหว่างเรียนรู้เรื่องนั้น จากจุดเล็กๆ ของสิ่งใหม่ในชีวิต ทำแบบนี้ได้การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีก็ย่อมเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ ปกติผู้เขียนชอบทำอะไรใหม่ๆ ในทางที่ดีและเป็นเชิงบวกค่ะ เช่น อ่านหนังสือเล่มใหม่ ทำอาหารเมนูใหม่ เขียนบทความใหม่ๆ เรียนรู้ทักษะใหม่ ฝึกการใช่คำพูดใหม่ๆ ปลูกผักชนิดใหม่ๆ และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนค่ะ ลองสิ่งใหม่จนเลิกกลัวที่จะเปิดรับอะไรใหม่ไปแล้วค่ะ ที่ในตอนแรกก็เป็นเหมือนกันคือกลัวและไม่มั่นใจ แต่จากที่ลองไปก่อน ทำให้เหมือนการทดลองค่ะ ผลออกมาทั้งดีและไม่ได้แต่คนที่เขาทดลองเขาไม่หยุดนะคะ เพราะทุกอย่างมันคือการเรียนรู้ค่ะ คิดแค่นี้มันช่วยทำให้เราได้อะไรมากกว่ามานั่งกลัวนะคะ และทั้งหมดนั้นคือแนวทางทำให้ตัวเองมีความสุขในทุกๆ วันค่ะ ที่บางวิธีการก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินเลย และที่ผู้เขียนเน้นมาที่ทำตัวเองให้มีความสุขก่อน นั่นเป็นเพราะว่าโอกาสที่คนอื่นจะได้รับพลังงานดีจากเรา ตอนที่เรามีความสุขมันง่ายค่ะ อยากเปลี่ยนคนอื่นให้มีความสุข ให้หันกลับมาโฟกัสที่ตัวเราเองค่ะ ตัวเราอยู่ในคลื่นดีๆ คนอื่นเขาก็สัมผัสได้ และวิธีการง่ายๆ ผู้เขียนก็ได้นำเสนอไว้หมดแล้ว ก็เหลือเพียงแต่นำไปปรับใช้เท่านั้น และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสนุกกับการสร้างความสุขให้ตัวเองค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😁 เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Tirachard Kumtanom จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Oluremi Adebayo จาก Pexels, ภาพที่ 2,4 โดยผู้เขียน และภาพที่ 3 โดย Nathan Cowley จาก Pexels ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://women.trueid.net/detail/wrQMJOMQv0yr https://news.trueid.net/detail/PM2zyy3b60VM https://news.trueid.net/detail/zxAMvXDKAMLx เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !