คาด "เงินเฟ้อ" ฉุดกำลังซื้อชาวมาเลเซียช่วงตรุษจีน 2566

“ติง หง ซิง” ประธานสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของมาเลเซีย ระบุว่า ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับใหม่อยู่ที่เดือนละ 1,500 ริงกิต หรือราว 346 ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับเงินริงกิตที่อ่อนค่า ค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ ซึ่งเริ่มบังคับใช้กับบริษัทต่างๆ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ส่งผลให้บริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 1.85 พันล้านริงกิตในแต่ละเดือน

ซึ่งคาดว่าจะเป็นเหตุให้ ประชาชนใช้จ่ายในช่วงฉลองเทศกาลตรุษจีนน้อยลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดขายกำลังกระเตื้องขึ้นก่อนถึงตรุษจีน แต่ธุรกิจต่างตระหนักดีว่าอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนที่สูงขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายในปีนี้มากขึ้น

ด้าน “ชิน ยุก มอย” ประธานสมาคมผู้ค้าส่งผลไม้ของมาเลเซีย ระบุว่า ผู้ค้าส่งส่วนใหญ่ลดการนำเข้าส้มจากจีนในปีนี้ เนื่องจากไม่ต้องการเสี่ยงกับสินค้าล้นสต็อก เพราะเป็นสินค้าเน่าเสียง่ายและเก็บไม่ได้นาน

โดยในปีนี้ราคาขายส่งของส้มแมนดารินชั้นหนึ่งกล่องละ 24 ลูก อยู่ที่ 28 ริงกิตมาเลเซีย เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส้มส่วนใหญ่ส่งออกจากเมืองเซียะเหมินและหย่งชุนของจีน

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติมาเลเซีย ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคที่สะท้อนเงินเฟ้อในประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบรายปี โดยราคาอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 และเป็นปัจจัยหลักที่ดันอัตราเงินเฟ้อโดยรวม 

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN