12 จังหวัดภาคเหนือ เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก ผลกระทบจากพายุ "คาจิกิ"

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเส้นทางพายุโซนร้อนคาจิกิ อาจทำให้ภาคเหนือน้ำท่วมหนักซ้ำซาก โดยระบุว่า พายุดีเปรสชันเขตร้อนก่อตัวขึ้นเหนือประเทศฟิลิปปินส์และเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลตะวันออก โดยมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นกลายเป็นพายุลูกที่ 11 ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือและเป็นพายุลูกที่ 5 ที่เกิดในทะเลตะวันออกโดยมีชื่อว่าพายุโซนร้อน “คาจิกิ”

ในช่วงวันที่ 24 ส.ค. พายุหมายเลข 5หรือ “คาจิกิ” จะเคลื่อนตัวเข้าสู่หมู่เกาะฮวงซา (หมู่เกาะพาราเซล) มีกำลังแรงระดับ 10-11 และมีลมกระโชกแรงถึงระดับ 13-14 เมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย มีการคาดการณ์ว่าพายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ของประเทศเวียดนามภาคกลางและภาคเหนือในวันที่ 25 ส.ค.68 รวมทั้งเข้าสู่ประเทศลาวโดยจะมีความเร็วลมประมาณ 89-117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจมีลมกระโชกแรงถึง 149 กิโล เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักในประเทศเวียดนามช่วงระหว่างวันที่ 24-27 ส.ค. ปริมาณน้ำฝนสะสม 150-300 มิลลิเมตรและอาจเกิน 600 มิลลิเมตรในบางพื้นที่ ซึ่งพายุลูกนี้มีแนวโน้มที่จะนำฝนตกเป็นบริเวณกว้างและปริมาณน้ำที่มากในประเทศเวียดนาม เนื่องจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่ร้อนขึ้นและลมตะวันออกที่พัดเป็นประจำอาจผลักเมฆชื้นเข้าไปในแผ่นดินภายใต้แรงเฉื่อยของพายุ 

พายุโซนร้อนดังกล่าวจะมีเส้นทางเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาวและประเทศไทยทางภาคอีสานและภาคเหนือประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือและอีสานของไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในวันที่26-28 สค. 68 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าช่วงวันที่ 24–27ส.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักและหนักมากในหลายพื้นที่ทั่วประเทศทั้งภาคอีสานตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกรวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑล 

เส้นทางพายุ “คาจิกิ” มีลักษณะคล้ายเส้นทางของพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ค.68 อาจทำให้ภาคเหนือของประเทศไทยมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมซ้ำซากได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, สุโขทัย, ตาก, กำแพงเพชร, น่าน, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์ เป็นต้น