สืบเนื่องจากภาวะวิกฤติ Covid พ่นพิษ ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยส่วนรวม ประเทศของเราตกอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และส่งผลต่อหลากหลายอาชีพที่ได้รับผลกระทบ ผู้ประกอบการร้านอาหาร เด็กเสิร์ฟ พ่อค้า-แม่ค้า ลูกจ้าง พี่วินมอเตอร์ไซด์ และพี่แท็กซี่ รายได้หดหาย เนื่องจากไม่มีคนมาใช้บริการ บางคนถูกเลิกจ้าง ถูกให้ออกจากงาน แบบไม่คาดคิดมาก่อน สถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ถูกสั่งปิด ไม่มีคนออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของในตลาด และทานอาหารนอกบ้าน เพราะกลัวการแพร่เชื้อและติดเชื้อในที่ที่มีคนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เราต้องเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างกัน (Social Distance) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid เพราะการป้องกัน สำคัญกว่ารักษา วิกฤติ Covid และมาตรการเคอร์ฟิวคุมเข้ม ทำให้หลายชีวิตได้รับผลกระทบ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติ Covid รัฐบาลก็มีมาตรการในการเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถไปลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท นานถึง 3 เดือน ได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com (ล่าสุดเพิ่มให้เป็น 6 เดือน) แต่เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนเป็นจำนวนมากถึง 24 ล้านคน ซึ่งมีทั้งคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่ครบถ้วน สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่รัฐบาลกำหนด จะได้รับเงินเยียวยางวดแรกในวันที่ 8 เมษายน 2563 สำหรับผู้ที่พลาดจากโครงการ เราไม่ทิ้งกัน ยังสามารถมายื่นเรื่องขอกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในการดำรงชีพ ได้ที่ธนาคารออมสิน ทุกสาขา โดยกำหนดให้ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.gsb.or.th/ เท่านั้น ในวันที่ 15 เมษายน 2563 (เลื่อนจากวันที่ 1 เมษายน 2563) คนที่มีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด จะได้รับเงินกู้คนละ 10,000 บาท พูดง่าย ๆ คือจ่ายดอกเบี้ย หมื่นละ10 บาทต่อเดือน ในความเห็นส่วนตัว ผู้เขียนคิดว่าเป็นโครงการที่ดี ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีอาชีพอิสระ ไม่ต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยมหาโหดอยู่ที่ร้อยละ 30 บาทต่อเดือน โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ ผู้กู้ที่มีความเดือดร้อนและพลาดจากโครงการ เราไม่ทิ้งกัน พวกเขาเหล่านั้นสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ นับว่าเป็นโครงการที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการลงทุนและการบริโภค ในภาวะวิกฤติ Covid ธนาคารกำหนดคุณสมบัติผู้กู้ วงเงินกู้ และหลักเกณฑ์ดังนี้ คุณสมบัติผู้กู้ 1.เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป 2.มีแหล่งที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้สะดวก 3.เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ (พ่อค้า-แม่ค้า, คนขับรถโดยสาร, คนขับแท็กซี่ , คนขับวินมอเตอร์ไซด์, และมัคคุเทศก์) 4.มีรายได้ไม่น้อยกว่า 30,000 บาท ต่อเดือน 5.เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid ที่มา : https://www.gsb.or.th/ วงเงินกู้ -ผู้กู้จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย -คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.10 ต่อเดือน (Flat Rate) -ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน ( 2 ปี ) -กำหนดให้มีการปลอดชำระเงินกู้ใน 6 เดือนแรก -ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคล ในการค้ำประกัน Flat Rate คือการคิดดอกเบี้ยเงินกู้แบบเงินต้นคงที่ กล่าวคือ เงินต้น 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.10 ต่อเดือน ระยะเวลาในการชำระหนี้คืน 24 เดือน (หรือ 2 ปี) กรณีนี้ ผู้กู้จะต้องเสียดอกเบี้ยตลอดระยะเวลา 2 ปี เท่ากับ 240 บาท ถูกมากใช่มั้ยครับ ในแต่ละเดือนเราจะต้องผ่อนชำระหนี้คืนธนาคารเท่ากับยอดเงินเงินต้น (10,000) บวกดอกเบี้ยเดือนละ 10 บาท 24 เดือน (240) รวมเป็นยอดหนี้ทั้งสิ้นเท่ากับ 10,240 บาท ต้องผ่อนในแต่ละเดือนเท่าไร เราก็เอาระยะเวลาในการผ่อนมาหารยอดหนี้ที่รวมดอกเบี้ย 24 เดือนเข้าไปแล้ว คือ 10,240 / 24 จะได้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนกับธนาคารเท่ากับ 426.67 บาทต่อเดือน ผ่อนกันไปยาว ๆ 24 เดือน ไม่น่าจะกระทบรายได้ของผู้กู้มากนัก ใครที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid พ่นพิษ อยากได้เงินกู้มาใช้จ่ายเป็นค่าชดเชยที่รายได้หดหายไป หากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน สามารถ ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.gsb.or.th/ เท่านั้น ในวันที่ 15 เมษายน 2563 อย่าลืมไปลงทะเบียนกู้กันนะครับ วันนี้สวัสดีครับ