รีเซต

กทม.เช็กสถานการณ์จ่อเปิดศูนย์พักคอยอีก 9 แห่ง 970 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิดในกรุง

กทม.เช็กสถานการณ์จ่อเปิดศูนย์พักคอยอีก 9 แห่ง 970 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิดในกรุง
มติชน
24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:32 )
66
กทม.เช็กสถานการณ์จ่อเปิดศูนย์พักคอยอีก 9 แห่ง 970 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิดในกรุง

ข่าววันนี้ 24 กุมภาพันธ์ นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อทวีวัฒนา (Community Isolation: CI) สำหรับดูแลผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยมี คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ สำนักงานเขตทวีวัฒนา โรงพยาบาล (รพ.) ราชพิพัฒน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ณ ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา

 

 

นายขจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และดูแลสุขภาพของประชาชน กทม.ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ รองรับผู้ป่วยที่ตรวจ ATK และ RT-PCR แล้วแสดงผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต รวมทั้งสิ้น 31 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 3,981 เตียง อัตราการครองเตียงขณะนี้ 1,932 เตียง เตียงว่าง 1,849 เตียง โดยมีการคัดกรองอาการและดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ตามการประเมินจากแพทย์ ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างการเตรียมเปิดศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเพิ่มเติมอีก 9 แห่ง เพิ่มอีก 970 เตียง

 

 

“ด้าน รพ.ในสังกัด กทม. รพ.สนาม และฮอสปิเทล (Hospitel) ในความดูแลของ กทม. สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 3,460 เตียง อัตราการครองเตียง 3,116 เตียง เตียงว่าง 377 เตียง คิดเป็นร้อยละ 90.06 (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.00 น.)” นายขจิต กล่าวและว่า ทั้งนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อ หากประสงค์ทำการรักษาแบบกักตัวที่บ้าน (HI) สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน สปสช.1330 กด14 หรือประสานรับการรักษาผ่านศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินสำนักงานเขต (EOC) 50 เขต โดยศูนย์ฯ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับคลินิกอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือสถานพยาบาล มีเป้าหมายการเข้าถึงผู้ป่วยภายใน 12 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดต่อกับผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการเบื้องต้น หากผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง และสามารถแยกกักตัวได้ จะเข้าสู่การแยกกักรักษาที่บ้าน ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการเปลี่ยนแปลง หรือไม่สามารถแยกกักที่บ้านได้ จะนำส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ หรือส่งไปยัง รพ.สนาม หรือส่งต่อรักษาใน รพ.ตามระดับความรุนแรงของอาการต่อไป

 

ปลัด กทม.กล่าวว่า ศูนย์เอราวัณ (1669) สำนักการแพทย์ ได้ยกระดับการนำส่งผู้ป่วยเข้าระบบการรักษาของ  รพ.โดยศูนย์เอราวัณ 1669 ได้เพิ่มจำนวนคู่สายด่วนจากเดิม 30 คู่สาย เป็น 100 คู่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่บริการรับสายตลอด 24 ชั่วโมง ยังคงมีเป้าหมายนำส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาภายใน 1 วัน โดยไม่ให้มีผู้ป่วยตกค้าง นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงศักยภาพการรับ-ส่งผู้ป่วย โดยร่วมกับเครือข่าย อาทิ เทศกิจ 50 เขต เจ้าหน้าที่ทหาร อาสาสมัคร มูลนิธิต่างๆ ทำให้รับ-ส่งผู้ป่วยได้รวดเร็วขึ้น จากเดิมสามารถรับผู้ป่วยได้วันละ 150 คน เพิ่มเป็นวันละ 300 คน โดยรถ 1 คัน จะรับผู้ป่วยวันละ 2 รอบๆ ละ 3 คน

 

 

สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อทวีวัฒนา จัดตั้งเพื่อเป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่ยังไม่มีอาการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 114 เตียง แบ่งเป็น ชาย 52 เตียง หญิง 52 เตียง และสำหรับครอบครัว 2 ห้อง 10 เตียง โดยมี รพ.ราชพิพัฒน์ เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย ดำเนินงานตามมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีจุดลงทะเบียน จุดคัดกรองผู้ป่วย จุดวัดอุณหภูมิและวัดค่าออกซิเจน จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม ติดตั้งเตียงจัดวางที่นอน ติดตั้งระบบไฟฟ้าเพิ่มเติม ระบบเสียงตามสาย ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบอินเตอร์เน็ต ติดตั้งพัดลม ฉีดพ่นยากำจัดยุงลาย ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องสุขา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย เช่น ชุดเครื่องนอน มุ้ง ผ้าเช็ดตัว ครีมอาบน้ำ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง