เทคโนโลยี "ดับไฟด้วยโฟม" และ "Styrene" สารเคมีจากโรงงานกิ่งแก้วระเบิด

ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับเหตุการณ์โรงงานระเบิดในประเทศไทย หรือเหตุการณ์โรงงานกิ่งแก้วระเบิดนี่เอง โดยนอกจากเรื่องสารเคมีที่ทำให้เกิดไฟที่อยู่ในโรงงานแล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในปฎิบัติการดับไฟในครั้งนี้ก็คือ "โฟมดับไฟ" หรือโฟมดับเพลิง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าโฟมดับไฟกัน

"โฟมดับไฟ" คืออะไร ?

โฟมดับไฟ หรือโฟมดับเพลิง เป็นอุปกรณ์ดับไฟที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ดับไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงหรือของเหลวติดไฟที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีความอันตรายกว่าไฟไหม้ทั่วไป เนื่องจากปริมาณของเหลวติดไฟที่มีมวลหรือปริมาณมากกว่า รวมถึงสารเคมียังถูกมองว่าเป็นองค์ประกอบที่สามารถทำให้เกิดการระเบิดขึ้นได้ 

โฟมดับไฟ สามารถดับไฟกับของเหลวที่กำลังติดไฟอยู่ได้โดยง่าย เนื่องจากโฟมดับไฟมีลักษณะเป็นฟองขนาดเล็กที่มีผนังเป็นสารละลายลดแรงตึงผิว สามารถรวมกันจนเป็นชั้นโฟมที่มีเนื้อยึดเหนี่ยวอย่างมั่นคง ทำให้อากาศไม่สามารถผ่านเข้าไปยังเชื้อไฟและเปลวไฟได้ นอกจากนี้โฟมดับไฟ ยังมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำและน้ำมัน สามารถปกคลุมได้ในแนวราบและสามารถลอยตัวอยู่เหนือของเหลวติดไฟได้ ตัวโฟมสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระตามผิวหน้าของของเหลวที่กำลังลุกไหม้เพื่อไล่อากาศและป้องกันไม่ให้เปลวไฟสัมผัสกับอากาศในบริเวณเพลิงไหม้ได้ และยังสามารถช่วยขัดขวางไอสารไวไฟไม่ให้กระจายไปตามแรงลมและลดความร้อนลงอีกด้วย

หากฉีดโฟมลงบนเปลวไฟ แล้วพบว่ามีการลุกไหม้น้อยลง แสดงว่าประสิทธิภาพการทำงานของโฟมมีประสิทธิภาพ สามารถฉีดซ้ำลงไปเป็นสร้างเป็นชั้นโฟมได้ โฟมดับไฟยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านผลกระทบเชิงลบของรังสีความร้อนที่แผ่ออกมาได้ดี มีความสามารถในการต่อต้านแอลกอฮอล์ และสามารถยับยั้งการแพร่กระจายของไอเชื้อเพลิงได้

"Styrene" สารเคมีที่พบในโรงงานกิ่งแก้ว

สำหรับสารเคมีที่พบในโรงงานกิ่งแก้วระเบิดในรอบนี้ก็คือสาร "Styrene" เป็นสารเคมีเหลวใสและข้นเหนียว เป็นหนึ่งในสารไวไฟ มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นดอกไม้ มักถูกนำมาใช้ในการผลิตยางสังเคราะห์ พลาสติก เรซิน สี ฉนวนที่เป็นโฟม ใช้ผลิตพลาสติกกับสารอื่น ทำกระเป๋าแบบแข็ง ชิ้นส่วนรถยนต์ ของใช้ในบ้านและบรรจุภัณฑ์

Styrene เป็นสารเคมีที่สามารถระเหยออกมาได้ ถ้าปนเปื้อนในดิน สามารถปนเปื้อนในน้ำใต้ดินได้ต่อ เพราะตัวสารจะไม่จับตัวกับดิน ทำให้ระคายจมูกและคอ ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ และมึนเมาได้ และถ้าได้รับสารปริมาณสูง สามารถทำให้ชักและเสียชีวิตได้เลย การหายใจเข้าไปเป็นเวลานาน ๆ แม้ว่าความเข้มข้นต่ำ ก็ยังสามารถทำให้อาจมีอาการทางสายตา การได้ยินเสื่อมลง และการตอบสนองช้าลงได้ มีผลทำให้เคืองตา ระคายผิว เมื่อสารซึมเข้าผิว จะไม่ต่างจากการหายใจนำเอาสารเข้าไป ทำให้ผิวแดง แห้ง แตก

รหัสความเป็นอันตรายของ "Styrene"

• H226 : ของเหลวและไอระเหย ไวไฟ
• H332 : เป็นอันตรายเมื่อหายใจเข้าไป
• H315 : ระคายเคืองต่อผิวหนังมาก
• H319 : ระคายเคืองต่อดวงตาอย่างรุนแรง
• H361d : เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
• H372 : ทำอันตรายต่ออวัยวะ เมื่อรับสัมผัสเป็นเวลานาน หรือรับสัมผัสซ้ำ