เมื่อกล่าวถึงเกมกีฬาที่มนุษยชาติรู้จักกันดีมากที่สุดในโลก เชื่อได้ว่าหลายๆ คนย่อมนึกถึงเกมกีฬาฟุตบอลอย่างแน่นอน มีผู้เล่นที่แพร่หลายกระจายเกือบทุกๆ ประเทศในโลก ทั้งยังมีรูปแบบการเล่นทั้งแบบมืออาชีพ หรือสโมสรการกีฬา หรือการแข่งขันในระดับประเทศ ซึ่งเกมการแข่งขันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดนั้นก็คือฟุตบอลโลกนั่นเอง ยิ่งในปัจจุบันยังมีการปรับรูปแบบให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมฟุตบอลในคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงอยากจะกล่าวถึงที่มาที่ไปที่ทำให้กีฬานี้กลายเป็นเกมกีฬาระดับโลกตามรายละเอียดดังนี้ที่มาของรูปภาพ www.freepik.comประเทศที่ริเริ่มกีฬาฟุตบอลขึ้นมา เนื่องจากแต่ละประเทศก็ล้วนมีการกล่าวอ้างว่าตนเองนั้นคือต้นตำรับของกีฬาชนิดนี้ แต่ชาติที่สามารถนับย้อนไปได้ยาวนานที่สุดน่าจะเป็นประเทศจีน เพราะมีประวัติการะเล่นเกมกีฬาที่คล้ายกับกีฬาฟุตบอลมานานกว่า 2000 ปีแล้ว มีชื่อเรียกว่า Tsu-Chu ที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่ขุนนางและประชาชน โดยนำขนนกมาติดกับหนังสัตว์ จากนั้นให้เอาเท้าเตะลูกบอลให้สูงอย่างน้อย 30 - 40 เซนติเมตร ให้ข้ามฝั่งระหว่างผู้เล่น 2 ฝั่ง ที่คั้นกันด้วยราวไม้ไผ่ หากเตะให้อีกฝ่ายรับลูกบอลไม่ได้ก็จะชนะที่มาของรูปภาพ www.freepik.comอย่างไรก็ตามประเทศที่นำมาทำให้เกมกีฬาฟุตบอลมีรูปแบบการเล่นและกฎกติกาที่ชัดเจนนั้นก็คือประเทศอังกฤษที่คาดว่าจะรับเกมกีฬาชนิดนี้เข้ามาตั้งแต่ยุคการปกครองของโรมัน และเริ่มมีการนำมากำหนดกฎกติกาและรูปแบบการเล่นในค.ศ. 1863 โดยมีการกำหนดสโมสรฟุตบอลและเกมการแข่งขันที่เรียกว่าเดอร์บี้ขึ้นมา โดยเริ่มมีการกำหนดกฎกติกาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนทีมของผู้เล่นแต่ละฝ่าย หรือขนาดของสนามกีฬา ก่อนที่กฎกติกาต่างๆ จะถูกเพิ่มเติมรายละเอียดเข้าไปให้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงความนิยมในเกมกีฬาฟุตบอลที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นหน่วยงานสากลที่เรียกว่า FIFA ขึ้นมาในปีค.ศ. 1904 และจัดให้มีการแข่งขันในระดับนานาชาติครั้งแรกที่ประเทศอุรุกวัยในปีค.ศ. 1930ที่มาของรูปภาพ www.freepik.comในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าทั่วโลกได้เกิดสโมสรฟุตบอล หรือสมาพันธ์ฟุตบอลขึ้นมาเกือบทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย มีระดับการแข่งขันที่ถือว่าเป็นสากลที่สุดคือการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ถูกควบคุมโดยองค์กร FIFA และจัดอยู่ในเกมกีฬาที่ต้องถูกบรรจุเอาไว้ในกีฬาโอลิมปิคทุกๆ ครั้ง สิ่งเหล่านี้คือเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงความนิยมในเกมกีฬาชนิดนี้ และคงเป็นเช่นนี้ไปอีกอย่างยาวนาน ที่มาของรูปภาพหน้าปก www.freepik.com