09.00 INDEX คำประกาศ ประยุทธ์ จันทร์โอชา“เราจะทำตามสัญญา”จริงหรือไม่
แม้เป้าหมายของการเปิดประชุมรัฐสภา”สมัยวิสามัญ”ในวันที่ 26 และในวันที่ 27 ตุลาคม คือเพื่อหาทางออกให้กับ “วิกฤต”ของประเทศ แต่ทุกอย่างก็ยังวนอยู่ในเส้นทางสายเดิม
ในเมื่อข้อเรียกร้องอันมาจากพรรคร่วมฝ่ายค้านคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่เมื่อเสียงจากพรรคพลังประชารัฐ เสียงจาก 250 ส.ว.เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิใช่ปัญหา ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำ แหน่งนายกรัฐมนตรี
ประกอบกับตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยืนกระต่ายขาเดียวตั้งแต่ก่อนวันที่ 26 ตุลาคม แล้วว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพร้อมกับคำถามที่ว่า “ผมผิดอะไร”
ทุกอย่างจึงยังวนอยู่ในวงจรเดิม ไม่ว่ารัฐบาล ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านต่าง ยืนอยู่ในจุดยืนเดิมของตนอย่างเหนียวแน่นและมั่นคง
สถานการณ์จากที่ประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญจึงแทบไม่แตกต่างไปจากบรรยากาศก่อนหน้านี้
เท่ากับย้อนไปตั้งต้นเหมือนกับเมื่อวันที่ 24 กันยายน
บรรยากาศทางการเมืองเมื่อมองจากกระบวนการทางการบริหาร เมื่อมองจากระบวนการทางด้านนิติบัญญัติ จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนไป จากที่เคยเห็นกันในห้วงก่อนการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ
นั่นก็คือ ทุกฝ่ายต่างก็จมอยู่กับปลักเดิมของความขัดแย้งและก็ เดินไปยังการประชุมรัฐสภาสมัยสามัญในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
บรรดาคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ในห้วงแห่งการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญวันที่ 29-27 ตุลาคมจากรัฐบาล จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เข้าสู่การทดสอบครั้งสำคัญ
นั่นก็คือ จะมีการแปร “คำพูด” ไม่ว่าจะจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไปสู่การ “ปฏิบัติ”ที่เป็นจริงอย่างไร
เมื่อท่านพูด คนจะรับฟัง เมื่อท่านลงมือทำคนจะเชื่อมั่นและมี ความศรัทธา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายวิษณุ เครืองาม อยู่ในครรลองแห่งการให้คำสัญญามาตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มาแล้ว
เราจะทำตาม”สัญญา” ขอ “เวลา” อีกไม่นาน
เป็นสัญญาอันมีลักษณะ”ประชาคม”จากนายกรัฐมนตรีและจากรองนายกรัฐมนตรี