สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ไกล่เกลี่ยผู้ปกครองเกือบครบแล้ว แม่ น.ร.เผยผลน่าพอใจ-ให้อภัย 'พี่เลี้ยงจุ๋ม'

จากกรณีครูพี่เลี้ยงจุ๋ม โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล จนผู้ปกครองรายหนึ่งนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 26 ก.ย.63 จนเป็นข่าวโด่งดัง กระทั่งเป็นที่มาของการเข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน และมีภาพเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายเด็กอนุบาลออกมาอีกหลายคลิป รวมแล้วมีเด็กโดนทำร้ายเกือบ 30 คน จากครูและพี่เลี้ยงจำนวน 16 คน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ห้องประชุม โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลุ่มผู้ปกครองของเด็กอนุบาล 1 ที่ถูกครูและพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย จำนวน 15 คน เดินทางเข้าพบ ดร.วริศนันท์ เดชปานประสงค์ ตัวแทนคณะกรรมการบริหารจากส่วนกลางของเครือโรงเรียนสารสาสน์ เพื่อขอบคุณที่ทางโรงเรียนสารสาสน์ได้เยียวยาและดูแลค่ารักษาพยาบาลให้กับเด็กที่ถูกทำร้าย ซึ่งถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบตามที่ได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยไว้ก่อนหน้า

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวมีเด็กอนุบาลถูกทำร้ายร่างกาย 29 คน ดำเนินคดีกับครูและพี่เลี้ยง 16 คน ผลการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางโรงเรียนสารสาสน์เพื่อเรียกค่ารักษาพยาบาล ชดเชยค่าเทอม และค่าเยี่ยวยาจิตใจ ปัจจุบันทางโรงเรียนและผู้ปกครองสามารถไกล่เกลี่ยจ่ายค่าเยียวยาเด็กไปแล้ว 20 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมสำนวนเพื่อรอไกล่เกลี่ยที่อัยการจังหวัดนนทบุรี 4 ราย ซึ่งคาดว่าผลเจรจาจะเป็นผลสำเร็จ และอยู่ระหว่างเจรจาไกล่เกลี่ยที่อันการสูงสุด 5 ราย ซึ่งคดียังไม่สามารถตกลงกันได้

ดร.วริศนันท์กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องทางโรงเรียนได้พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้ปกครองมาตลอดระยะเวลาประมาณ 3 เดือน คดีทั้งหมดมีผู้ปกครองรวม 29 ราย ไกล่เกลี่ยที่อัยการจังหวัดนนทบุรีสำเร็จแล้ว 20 ราย เหลืออีก 4 รายที่รอดำเนินการไกล่เกลี่ยซึ่งคาดว่าจะสำเร็จ และอยู่ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยที่อัยการสูงสุดอีก 5 ราย ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ จากที่เราได้ไกลเกลี่ยไปแล้วทั้งกลุ่มผู้ปกครองที่เดินทางมา ในวันนี้แสดงเจตจำนงเพื่อขอเข้าพบประธานอำนวยการ เพื่อมาขอโทษสำหรับการกระทำการบางอย่างที่ก้าวล่วงไป

ดร.วริศนันท์กล่าวต่อว่า หลังจากเรื่องราวดังกล่าว ทางโรงเรียนได้รับผลกระทบหลายอย่าง ทั้งโรงเรียนสาขานี้และโรงเรียนในเครืออื่นๆ ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนในโรงเรียนเกิดผลกระทบ เกิดความวิตกกังวล ด้านคุณครูก็เสียขวัญและกำลังใจในการสอน มีความรู้สึกว่าถูกจับจ้อง ทางโรงเรียนได้รับผลกระทบคือคุณครูลาออกเนื่องจากมีการติดกล้องวงจรปิด ทำให้การหาบุคลากรยากลำบาก ทางโรงเรียนจึงหยุดรับนักเรียนในภาคเรียนที่ 2 กำลังจะเกิดเรื่อง คณะผู้บริหารจึงทราบว่าการบริหารงานของโรงเรียนสาขานี้บกพร่อง ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนทีมบริหาร และจัดระบบบริหารจัดการใหม่ ตามที่ได้ตกลงไว้กับผู้ปกครอง

ด้าน น.ส.กัลป์ณัชยา (สงวนนามสกุล) ผู้ปกครองของนักเรียนห้อง KG1E กล่าวว่า วันนี้ตอนเดินทางเข้ามาขอบคุณทางโรงเรียนที่ได้ดำเนินการตามที่ตนขอ ถึงแม้ว่าลูกได้ลาออกจากโรงเรียนนี้ไปแล้ว แต่ตนก็ยังมีลูกเรียนอยู่ที่นี่อีก 2 คน ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร หลังจากเกิดเรื่องได้เรียกร้องค่าเยียวยาไปกับทางโรงเรียนและแจ้งความจำนงว่าจะไม่ให้ลูกเรียนต่อที่นี่ ตอนนี้ทางโรงเรียนได้แสดงความรับผิดชอบ เยียวยาทั้งหมด รวมทั้งโรงเรียนได้ออกมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ตอนนี้ลูกมีสภาพจิตใจดีขึ้น หลังเกิดเรื่องได้ไปปรึกษาหมอเรื่องความรุนแรง จริงๆ ไม่ได้เป็นที่โรงเรียนทั้งหมด เพราะครอบครัวก็มีส่วนในเรื่องนี้ด้วย

น.ส.ณัฐทณกาญจน์ ผู้ปกครองของนักเรียนห้อง KG1E กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ามาพบผู้บริหารโรงเรียนเพื่อขอบคุณเรื่องการเจรจาที่ประสบผลสำเร็จ เรื่องการเยียวยา เรื่องข้อตกลง ซึ่งทางโรงเรียนได้แสดงความรับผิดชอบออกมาแล้ว ตอนนี้เรื่องจบได้ด้วยดี ตนในฐานะผู้ปกครองคนหนึ่ง ให้อภัยโรงเรียน ให้อภัยครูจุ๋ม เพื่อให้โรงเรียนได้มีโอกาสแก้ไขปรับปรุงต่อไป ตนคิดว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกันที่การเยียวยาเป็นไปตามข้อตกลง และเป็นผลที่น่าพอใจ สำหรับสภาพจิตใจลูก ตอนนี้ไม่ได้ไปหาหมอแล้ว ตนในฐานะที่เป็นพ่อแม่ของเด็ก ใช้วิธีละลายพฤติกรรม ซึ่งเรามีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว พาไปเที่ยว พาไปข้างนอก ตอนนี้น้องมีอาการดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ให้น้องเรียนต่อที่นี่ เนื่องจากย้ายบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้น โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์มีการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล จ่ายค่าชดเชยการบำรุงขวัญ คืนค่าธรรมเนียมในการศึกษา ประสานการย้ายโรงเรียนสำหรับผู้ที่ประสงค์จะย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนอื่น และสนับสนุนด้านอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง และนักเรียนที่ได้รับผลกระทบตามความเหมาะสม รวมทั้งได้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขและป้องกันต่างๆ ที่ผู้ปกครองร้องขอ ซึ่งผลการเจรจาไกล่เกลี่ย เหลือเพียงอีก 5 ราย ทางโรงเรียนจึงขอโอกาส พัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นให้กับเด็กนักเรียนที่เหลือ ให้มีคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้นต่อไป