รีเซต

SAFEลั่นรายได้โต20-25% ดีมานด์ต่างชาติดันพอร์ต

SAFEลั่นรายได้โต20-25% ดีมานด์ต่างชาติดันพอร์ต
ทันหุ้น
6 มิถุนายน 2567 ( 10:31 )
32

#SAFE #ทันหุ้น - SAFE เปิดแผนครึ่งปีหลัง 2567 ออกเทคโนโลยีช่วยผู้มีบุตรยาก PGT A Seq เพิ่มอัตราความสำเร็จในการใส่ตัวอ่อนมากขึ้น คาดเป็นตัวช่วยผลักดันรายได้ใหม่ของบริษัท มองแนวโน้มการมีบุตรยากในปัจจุบันยังสูง ลูกค้าต่างชาติสนใจเข้ารับบริการจำนวนมาก ปัจจุบันครองสัดส่วนสูงกว่า 50%


นพ.วิวัฒน์  กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE เปิดเผยว่า บริษัทจะมีโปรดักต์ใหม่ที่ช่วยในเรื่องเทคโนโลยีช่วยผู้มีบุตรยาก ออกมากในช่วงครึ่งปีหลังออกมา ได้เเก่ PGT A Seq PGT M Seg และ PGT SR Seq ที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย (Exclusive) และได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะพร้อมดำเนินการในไตรมาส 3/2567 จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการได้ในช่วง ไตรมาส 2/2567 นั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการใส่ตัวอ่อนและช่วยดึงดูดลูกค้าในระยะถัดไปจากอัตราความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวผลักดันรายได้ของบริษัทให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-25% สร้างสถิติสูงสุดใหม่


ส่งซิกโตต่อเนื่อง


จากแนวโน้มผลการดำเนินในช่วงไตรมาสที่ 2/2567 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่ทั้งปีในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันจากเทรนด์ทั่วโลก มองว่าเด็กที่เกิดจากธรรมชาติจะลดน้อยลงและเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้หญิงในปัจจุบันแต่งงานมีครอบครัวในระดับอายุมากขึ้น และความต้องการมีบุตรยังมีอีกมาก


โดยบริษัทจะมุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ในธุรกิจด้าน Wellness รวมถึงแผนร่วมลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กลุ่มบริษัทได้ในอนาคต


ทั้งนี้การที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการกับคู่รักสามีภรรยาที่มีลูกยาก เบื้องต้น จะมีการปรับแก้เกณฑ์กฎหมาย “พ.ร.บ.อุ้มบุญ” ในปี 2567


บริษัทมองเป็นผลบวกต่อกลุ่ม SAFE โดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากที่เป็นชาวต่างชาติในหลายสัญชาติ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50%ของเคสทั้งหมดเฉลี่ยต่อโดยประเทศไทยถือว่าเป็น Medical Hub ทำให้มีคนไข้ต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา  สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าในหลายประเทศอยู่แล้ว และมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงเกิน 70%


ต่างชาติหนุนพอร์ต


ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/2567บริษัทมีกำไร 66.71ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.47 ล้านบาท หรือ 84% ส่วนรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 251.12ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.29 ล้านบาท หรือ 34%เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 187.83 ล้านบาท


โดยรายได้และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนรอบของการเก็บไข่ (Treatment Cycle) เพิ่มขึ้น โดยลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้น 36% และลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น 17% และรายได้จากการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนและทารกในครรภ์ที่เติบโตตามธุรกิจ IVF ที่ขยายตัวต่อเนื่อง


อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และความสมบูรณ์ของบุตรที่จะคลอดออกมา โดยการตรวจคัดกรองพันธุกรรมของตัวอ่อน (PGT-A) เพิ่มขึ้น 46%และการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมทารกจากเลือดแม่ (Qualifi) เพิ่มขึ้น 24%


เป้าหมาย 25.17 บ.


บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน) มีมุมมองที่เป็นบวกต่อ SAFE ในระยะยาวเนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อการเจริญพันธุ์ (Fertility Tourism) ที่คาดเติบโต 14.6% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2019-2027 อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุข และ Alied Market Research ซึ่งจะล้อไปกับการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ที่คาดเติบโต 15.7%ต่อปีตั้งแต่ 2024-34E อิงจาก Future Market Insights โดยธุรกิจการฝังตัวอ่อนเพื่อการตั้งครรภ์จะเข้าสู่ช่วง High Season และเติบโตสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ของปี


ทั้งนี้บริษัทมีแผนในการเปิดตัวเทคโนโลยีตัวใหม่ และการเปิดตัวสินค้าใหม่ในด้านสุขภาพซึ่งการเปิดตัวเทคโนโลยีตัวใหม่ ที่จะช่วยในการตรวจความสมบูรณ์ของ Chromosome ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น PGT-SEQ A จะช่วยผลักดันให้มีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดฐานลูกค้าใหม่ในอนาคตให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมไปถึงการขยายเอเจนซีและการทำโฆษณาทางการตลาดของบริษัท เช่น การโฆษณาในต่างประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายการติดป้ายในตึก และการจัดสัมมนาตามโรงพยาบาล และคลินิก ซึ่งจะช่วยส่งเสริม Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยหากอิงจาก IAA Consensus มีนักวิเคราะห์อยู่ทั้งหมด 3 ราย ให้คำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 25.17 บาท




ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง