ประชาชนใจสลาย ห่วง "ผู้นำคิมจองอึน" ซูบผอมลง

North Korea: บรรดานักวิเคราะห์และผู้สันทัดกรณีลงความเห็นว่า การที่สื่อเกาหลีเหนือประโคมข่าว คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ร่างกายซูบผอม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนชาวเกาหลีเหนือต่างรู้สึกเศร้าโศกหัวใจแทบสลาย น่าจะเป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อขจัดกระแสคาดเดาเล่าลือ และมุ่งส่งเสริมภาพลักษณ์ความเสียสละของผู้นำ ท่ามกลางปัญหาอาหารขาดแคลนในประเทศ

เมื่อวันศุกร์ (25 มิถุนายน) ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ของทางการเกาหลีเหนือทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการออกอากาศการแสดงความคิดเห็นของประชาชนชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่ง ที่บอกว่าทุกคนในเกาหลีเหนือล้วนใจสลาย เมื่อเห็นสภาพร่างกายซูบผอมของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ผิดปกติอย่างยิ่ง เนื่องจากในเกาหลีเหนือ การพูดถึงสุขภาพและชีวิตส่วนตัวของผู้นำอย่างเปิดเผยเป็นสิ่งต้องห้าม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังคิมปรากฏในภาพข่าวของสื่อทางการครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ขณะเข้าร่วมการประชุมวางแผนด้านนโยบายของพรรคคนงานเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

นักวิเคราะห์พากันตั้งข้อสังเกตว่า ใบหน้าและข้อมือของคิม ดูเล็กเรียวลงอย่างชัดเจน ทำให้มีการคาดเดาต่าง ๆ นานาเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำเผด็จการรายนี้

คริสโตเฟอร์ กรีน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีของมหาวิทยาลับไลเดน ในเนเธอร์แลนด์ บอกว่า หากคนนอกยังสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของคิม แน่นอนว่าคนเกาหลีเหนือต้องสังเกตเห็นเหมือนกัน แถมยังเห็นเร็วกว่ามาก 

ขณะที่ ยาง มูจิน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในเกาหลีใต้ เชื่อว่า น้ำหนักที่ลดลงของคิมตอนนี้ ไม่มีแนวโน้มว่าเป็นผลจากการป่วยหนัก เนื่องจากเดือนนี้เขายังสามารถออกงานให้เห็นหลายครั้ง 

ส่วนเจนนี ทาวน์ ผู้อำนวยการโครงการ 38 นอร์ท ในสหรัฐอเมริกา ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่า คิมผอมลงเพราะป่วย หรือเพราะตัดสินใจว่า ถึงเวลาต้องฟิตหุ่น รวมทั้งยังไม่อาจรู้ได้ว่า รายงานข่าวนี้ของสถานีโทรทัศน์ของทางการเกาหลีเหนือ มีเป้าหมายเบื้องหลังอย่างไร และค่อนข้างแปลกที่รายงานข่าวเสนอภาพคิมในชุดที่ไม่พอดีตัว เหมือนต้องการเน้นให้เห็นว่า เขาผอมลง

การรายงานข่าวนี้ ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนลงความเห็นว่า ทางการเกาหลีเหนือกำลังพยายามใช้หุ่นที่ดูเพรียวลงของคิม มาเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อรัฐบาล ในขณะที่ประเทศกำลังอยู่ในภาวะอดอยากยากแค้น เป็นการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้างภาพว่า แม้แต่ผู้นำเกาหลีเหนือยังต้องเผชิญและยืนหยัดอดทนกับปัญหาการขาดแคลนอาหาร ที่กำลังเล่นงานประเทศอยู่ในขณะนี้ 
ก่อนหน้านี้ คิมได้ออกมากล่าวยอมรับว่า สถานการณ์อาหารในประเทศกำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด และอาจแย่ลงหากผลผลิตปีนี้ล้มเหลว ซึ่งจะทำให้ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มพรมแดน และการจำกัดการเคลื่อนย้ายเพราะโรคระบาดโควิด-19 ที่ยิ่งทำให้เศรษฐกิจและการค้าในประเทศได้รับผลกระทบ