เตรียมงานแต่งงาน เริ่มยังไง ? คู่มือว่าที่เจ้าสาว: แชร์ประสบการณ์จัดงานแต่งแบบ Step by Step เชื่อว่าหลายคนที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวป้ายแดงคงมีคำถามว่า "ก่อนจะจัดงานแต่ง ควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี?" ต้องเตรียมอะไรบ้าง? ChiMoo เองก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว บอกเลยว่าไม่ง่ายเลยค่ะ ทั้งวุ่นวาย ทั้งปวดหัว แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี และได้เรียนรู้อะไรมากมาย คนที่เข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดีที่สุด คือคนที่เคยผ่านมันมาแล้ว วันนี้ ChiMoo ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว รวมถึงเรื่องราวที่รวบรวมมาจากเจ้าสาวรุ่นพี่หลาย ๆ คน เผื่อจะเป็นแนวทางให้กับว่าที่เจ้าสาวทุกคนค่ะ 1. ฤกษ์ หลังจากครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันเรียบร้อย ก็ต้องหาฤกษ์ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละครอบครัว อาจจะถามพระ หรือดูจากปฏิทินล้านนา เป็นต้น โดยแนะนำเลี่ยง “วันมหาฤกษ์”เพราะช่างภาพ ช่างแต่งหน้า หรือออแกไนซ์อาจรับงานซ้อนหรือยกเลิกได้ อย่าลืมพิจารณา “ฤกษ์สะดวก” ด้วย หากจัดไม่ตรงวันหยุด แขกอาจไม่ว่าง ทำให้คนมาน้อย แต่ถ้าจัดวันหยุด คนอาจจะมาเยอะ ควรสำรองโต๊ะให้เหมาะสมค่ะ 2. สถานที่/ออแกไนซ์/อาหาร/เวลาจัดงาน/ผังที่นั่ง/งบประมาณ ลิสต์รายชื่อแขก เพื่อประเมินจำนวนคน เลือก สถานที่ ที่เหมาะสมกับแขก เช่น สวน บ้าน โรงแรม (อย่าลืมดูเรื่องห้องน้ำ แมลง ฯลฯ) อาหาร เป็นสิ่งที่แขกจะจำได้! แนะนำให้ไปลองชิมก่อนตัดสินใจ เลือกออแกไนซ์มืออาชีพ ที่เข้าใจความต้องการของเรา ส่งเรฟให้ดูชัดเจน ตรวจสอบสิ่งที่รวมในแพ็กเกจ และสิ่งที่เราต้องเตรียมเพิ่มเติม เวลาจัดงาน: งานเช้าเที่ยงเหนื่อยน้อยและประหยัด ส่วนงานบ่ายเย็นเหมาะกับอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ผังที่นั่ง: วางแผนตามกลุ่มแขก เช่น ญาติ เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนมหาวิทยาลัย ฯลฯ ที่พักแขกต่างจังหวัด: จัดหาไว้ใกล้ ๆ สะดวกสุด ตั้งงบประมาณ: บานแน่นอนค่ะ แต่ควรควบคุม เช่น ทุ่มกับอาหาร นายพิธี ชุด ช่างแต่งหน้า ส่วนการ์ดสามารถประหยัดได้ 3. นายพิธี/พิธีกร เป็นอีก 1 สิ่งที่ควรลงทุนเป็นอย่างยิ่ง นายพิธีมีบทบาทสำคัญมากค่ะ เป็นคนดำเนินงานให้ไหลลื่น ควรคุยกับผู้ใหญ่ก่อนว่าอยากให้มีพิธีแบบไหน แล้วแจ้งนายพิธีให้เข้าใจตรงกัน 4.ช่างแต่งหน้า อยากสวย ต้องลงทุนค่ะ! จองช่างที่เราชอบ ดูรีวิว ส่งเรฟ สื่อสารให้ตรง และอย่าลืมช่างแต่งหน้าแม่เจ้าสาว ญาติ ๆ ด้วยนะคะ แนะนำปรึกษาเรื่องการย้อมผม คอนแทคเลนส์ ปิ่นปักผม ฯลฯ ล่วงหน้า 5.ช่างภาพ เลือกช่างที่เราชอบ ดูโทน ดูสี สไตล์การถ่าย แล้วรีบจองเลยค่ะ อย่างน้อยควรมี 2 คนนะคะ คุยรายละเอียดให้เรียบร้อย ติดต่อแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ช่างภาพล็อคคิวให้เราค่ะ หากอยากเก็บความทรงจำในงานแบบภาพเคลื่อนไหว แนะนำช่างวิดีโอค่ะ เนื่องจากบ่าวสาวอาจไม่ได้เห็นโมเม้นท์ในงานทั้งหมด เช่น ช่วงแห่ขันหมาก หากเจ้าสาวอยากเห็นโมเม้นท์นั้น เเนะนำจ้างช่างวิดีโอเพิ่มเติมค่ะ 6.ดนตรี/เครื่องเสียง บางที่ออแกไนซ์แถมมา แต่หากเลือกเองควรดูตัวอย่างผลงานก่อน เลือกแนวเพลงให้ตรงบรรยากาศงาน 7. พรีเวดดิ้ง เลือกร้านดีๆ อ่านข้อตกลงให้ดี หากรวมชุดวันจริง ต้องดูว่าแถมทั้งร้านหรือบางชุด บางร้านขายไฟล์ ออกมาหมดเป็นแสน บางคนไปถ่าย รูปใช้ไม่ได้ ต้องถ่ายใหม่ ชอบสไตล์ไหนหาเรฟไปให้ช่างดูจะดีมากค่ะ ชุดและสไตล์การแต่งหน้า สามารถเลือกใกล้เคียงกับที่ต้องการในวันจริงได้ค่ะ เพื่อทดลอง หากไม่ถูกใจส่วนใด สามารถแก้ไขได้ทันในวันจริงค่ะ ถ่ายเนิ่นๆจะดีมากค่ะ เพราะใกล้วันงานจะยุ่งวุ่นวาย ต้องเผื่อเวลารอคิว และรอรีทัช รอกรอบรูปภาพ สามารถเลือกขนาดและจำนวนรูปที่จะไปตั้งในงานได้ค่ะ 8.ชุดและรองเท้าวันจริง บางที่แถมมากับพรีเว้ดดิ้ง ดูดีๆว่าได้ทั้งร้านหรือได้กี่ชุด ใส่จริงได้กี่ชุด แนะนำลองก่อนวันงาน 1 เดือน เนื่องจากอาจอ้วนขึ้นหรือผอมลงได้ ไม่ต้องแก้บ่อยๆ เมื่อได้ชุดแล้ว แนะนำหารองเท้าที่สีเข้าชุดค่ะ เน้นเดินสบาย บางชุดคลุมเท้า เลือกความสูงที่พอดี เดินแล้วมั่นใจ แนะนำให้นำไปลองกับชุด ฝึกเดินและยืนอย่างน้อย 30 นาที หากรองเท้ากัด จะสามารถแก้ไขได้ทัน ชุดไทยแนะนำเป็นคัชชูหัวแหลมค่ะ 9.เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว กำหนดจำนวนเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว และหน้าที่ที่จะขอให้เพื่อนๆช่วยในงานแต่ละส่วน เช่น แจกของที่ระลึก ถือบายศรี หรือต้อนรับแขก ส่วนชุดสั่งแต่เนิ่นๆ หากมีการแก้ไซส์จะได้เปลี่ยนทัน 10.การ์ด แบบกระดาษหรือออนไลน์ก็ได้ ลองปรึกษาคู่ของเราว่าชอบแบบไหน เช็คคำสะกดให้เป๊ะก่อนพิมพ์ และปริ้นท์เผื่อไว้หน่อยค่ะ 11.ขบวนขันหมาก บายศรี ออแกไนซ์บางที่เตรียมให้ หากเตรียมเอง สามารถถามผู้รู้ แล้วเตรียมของตามลิสต์ให้ครบ ควรกำหนดคนถือพานต่างๆในขบวนให้ชัดเจน และนัดหมายเวลามาก่อนล่วงหน้าเริ่มงานสัก 1-1.30 ชั่วโมง 12. ของที่ระลึก แนะนำเป็นของที่ใช้ได้จริง เลือกร้านที่เชื่อถือได้ สั่งตัวอย่างมาลองใช้ก่อน สั่งเผื่อจำนวนด้วยค่ะ 13. กล่องรับเงิน ซองรับเงิน สอบถามสถานที่ว่ามีให้ไหม หากเป็นพิธีล้านนา ควรมีกล่องรับซองผูกข้อมือด้วย เตรียมคนรับซองไว้ พร้อมซองเปล่าสำรอง และ QR Code เผื่อกรณีไม่มีเงินสด 14. สินสอด ของหมั้น แหวนหมั้น แล้วแต่ตกลงทั้งสองฝ่าย เลือกร้านที่เชื่อถือได้ หากสั่งตัดให้เผื่อเวลา และอย่าลืมเตรียมคนไว้ใจได้เก็บของมีค่าให้หลังพิธี 15. พิธีการ เลือกรูปแบบพิธีตามความเชื่อ เช่น ไทย จีน ล้านนา คริสต์ ฯลฯ แล้วแจ้งนายพิธีพร้อมกำหนดญาติผู้ใหญ่ที่จะเข้าร่วมให้ชัดเจน 16. ดูแลตัวเอง เจ้าสาวที่มีแผนจะทำหัตถการควรทำแต่เนิ่นๆ และวางแผนช่วงเวลาให้ดี 1-2 เดือนก่อนแต่ง แนะนำมาร์กหน้าเป็นประจำ ผิวจะเนียนแต่งหน้าติดง่ายค่ะ อย่าลืมทำเล็บมือและเท้านะคะ เพื่อความปังค่ะ 17. เตรียมใจให้พร้อม แน่นอนว่าหลายๆคู่จะต้องเจอเรื่องหนักใจแน่นอนในการจัดงานแต่ง ถือเป็นหนึ่งบททดสอบชีวิตคู่ ว่าที่เจ้าสาวจะเครียด เจอแรงกดดันทั้งจากตัวเอง คู่ และญาติทั้งสองฝ่าย อย่าลืมว่า "เป็นงานของเรา" คุยกันเยอะ ๆ ว่าจะเอาแบบไหน เข้ากลุ่มเตรียมงานแต่งไว้พูดคุยกัน จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ 18. ก่อนวันงาน 2–4 สัปดาห์: ลองชุดอีกครั้ง 1 สัปดาห์: คอนเฟิร์มทุกฝ่าย พักผ่อนให้พอ 19. เตรียมคนติดตาม/ตัดสินใจแทนในวันงาน มอบหมายคนที่ไว้ใจและสนิทที่สุดติดตามเจ้าสาว คอยรับโทรศัพท์ ตอบแชท และตัดสินใจแทนในวันงาน 20. วันงาน ปล่อยใจให้สบาย ยิ้มให้ทุกกล้อง! ปล่อยหน้าที่ให้คนที่เรามอบหมายไว้ ครอบครัวไว้เยอะๆนะคะ 21. ความรู้สึกหลังแต่ง แน่นอนว่าหลังจบงานอาจมีบางอย่างไม่ตรงใจ แต่จงภูมิใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีงานไหนที่สมบูรณ์แบบ 100% เลือกจำแต่เรื่องดี ๆ นะคะ เพราะเราไม่ได้จัดงานแต่งเพื่อทำอีกครั้ง หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ว่าที่เจ้าสาวทุกคนมีงานแต่งในฝัน และชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความสุขตลอดไปนะคะ เครดิต รูปที่ 1 โดย Emma Bauso จาก pexels รูปที่ 2 โดย Leeloo The First จาก pexels รูปที่ 3 โดย Nimble Video Productions Sydney จาก pexels รูปที่ 4 โดย Fadime Demirtaş จาก pexels ภาพปก จาก Canva โดย Ylanite Koppens เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !