ท่วมไม่ทันตั้งตัว! น้ำลาวทะลัก พะเยาอ่วม สะพาน-กำแพงพังในพริบตา หนีโกลาหล
วันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.20 น.ที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำลาว ใน ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำลาวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เดิมน้ำในแม่น้ำลาวก็มีระดับสูงอยู่แล้ว เนื่องจากฝนตกจากอิทธิพลพายุซินลากูที่ผ่านมา น้ำยังไม่ทันลดลงมีฝนตกเพิ่มมา จึงทำให้เกิดน้ำหลากท่วมฉับพลันในหลายหมู่บ้าน ต.แม่ลาว และมวลน้ำในแม่น้ำลาวกำลังไหลลงมาสู่ตัวเมืองชุมชนใจกลางเมืองเชียงคำ ต.หย่วน ต.เวียง
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอเชียงคำ ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ อส.อ.เชียงคำ ร่วมกับกำลังทหาร ร.17 พัน 4 เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน ซึ่งระดับน้ำลาวตลอดสายได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลากเข้าท่วมฉับพลันใน 4 หมู่บ้านริมแม่น้ำลาว สะพานเข้าพื้นที่การเกษตรขาดเสียหาย
นายรุ่งทวี แก้วคำปา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.เชียงคำ เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำในแม่น้ำลาวได้ไหลหลากอย่างรวดเร็วและเข้าท่วมฉับพลันในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ต.แม่ลาว ประกอบด้วย หมู่ 3, 5, 8 และ 9 หลังจากที่เกิดฝนตกอย่างหนักช่วงคืนที่ผ่านมา จนทำให้น้ำป่าไหลท่วมอย่างรวดเร็ว ขณะที่บ้านคะแนง หมู่ 10 ต.แม่ลาว ทางเบี่ยงทางเข้า-ออก หมู่บ้าน ถูกน้ำพัดขาดสะบั้นอีกรอบ ไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้
เพราะน้ำป่าที่ไหลแรงเชี่ยวกรากอย่างมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้พบว่ากำแพงบ้านของประชาชนริมแม่น้ำลาวบางรายถูกน้ำพัดจนเสียหาย สะพานข้ามน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรน้ำพัดขาดสัญจรไม่ได้ ตนจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเชียงคำ และและกำลังทหารจาก ร.17 พัน 4 ค่ายขุมจอมธรรม ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนในการช่วยเหลือประชาชนเร่งเก็บของขึ้นไว้ที่สูงหนีน้ำอย่างโกลาหล
นายรุ่งทวี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้น้ำป่าที่ไหลอย่างรุนแรงหลากเข้าท่วมอีกหลายจุดของพื้นที่ อ.เชียงคำ ในส่วนของ ต.ฝายกวาง และ ต.เวียง โดยน้ำป่าได้ไหลท่วมบ้านเรือนของประชาชนพัดยานพาหนะลอยไปกับน้ำ นาข้าวที่กำลังเริ่มงอกงามถูกน้ำท่วมหลายร้อยไร่ ซึ่งได้นำข้อมูลทั้งหมดกลับมารายงานให้ นายกนก และประเมินความเสียหาย จากนั้นแจ้งไปยัง ปภ.พะเยา เพื่อขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือต่อไปผู้ประสบภัยต่อไป
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เก่งเดชา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านผาลาด ต.แม่ลาว กล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายจากน้ำป่าพัดเข้าท่วมถล่มในพื้นที่ขณะนี้ ต้องรอให้น้ำลดระดับเป็นปกติ จากนั้นจะเร่งสำรวจความเสียหายอย่งเร่งด่วน สำหรับสะพานข้ามน้ำลาวที่มีความยาวกว่า 20 เมตร ซึ่งถูกน้ำป่าพัดหายไปกับน้ำนั้น ก็ต้องรอให้ระดับน้ำนิ่งเสียก่อนจึงได้จะวางแผนดำเนินการซ่อมแซม
ทั้งนี้พบว่ากระแสน้ำป่าในครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา อาจจะสืบเนื่องมาจากภูเขาในพื้นที่ต้นน้ำลาวมีพื้นที่ป่าเหลือน้อย ไม่มีต้นไม้ใหญ่เพียงพอที่จะดูดซับน้ำฝนไว้ได้มาก จึงทำให้เมื่อมีฝนตกหนักปริมาณน้ำจึงไหลลงแม่น้ำลาวอย่างรวดเร็วและเป็นปริมาณมหาศาล เรื่องนี้ต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบต่อไปในอนาคต