ผู้เขียนเพิ่งเล่นเกม Visual Novel สั้นๆ ที่ชื่อว่า “To Put Your Childhood Sweetheart Into A Refrigerator” หรือแปลตรงๆ ว่า “การเอาแฟนวัยเด็กของคุณไปใส่ในตู้เย็น” ซึ่งเป็นเกมอินดี้จาก SweetSome Studio ที่เจอโดยบังเอิญและรู้สึกประทับใจมาก ถึงแม้ว่าเกมจะสั้นมาก ใช้เวลาเล่นประมาณ 15 นาทีเอง แต่กลับมีความลึกซึ้งและบรรยากาศที่เข้มข้นจนทำให้คิดถึงหลังจากเล่นจบ เนื้อเรื่องของเกมเล่าผ่านมุมมองของชายหนุ่มอายุ 26 ปี ที่เป็นนักดนตรีอิสระ บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์และความทรงจำในวัยเด็กที่ไม่ง่ายเลย เพราะเพื่อนสนิทของเขาที่เป็นคนสำคัญในชีวิตเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนก่อน เหตุการณ์ในเกมเริ่มต้นตอนกลางคืนช่วงฤดูร้อนที่ร้อนมากๆ ตัวละครหลักเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาของกินตอนดึก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การกินของว่างธรรมดาๆ แต่กลับพาเขาไปสู่ความทรงจำที่เจ็บปวดและลึกซึ้ง ที่ทั้งหวานและขมปะปนกันอย่างลงตัว สิ่งที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นคือการใช้ธีม “nostalgia” หรือความคิดถึงในอดีต มาสร้างเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกปนเปของความรัก เพื่อน และความสูญเสีย ที่เป็นอะไรที่แทบทุกคนต้องเคยเจอ หลายครั้งเราอาจจะคิดถึงเพื่อนหรือคนที่จากไปในวัยเด็ก โดยที่เราไม่มีโอกาสได้บอกลาหรือทำอะไรให้เขาอีก แต่เกมนี้กลับเอาความรู้สึกนั้นมาเล่าใหม่ผ่านการที่เราต้อง “เปิดประตูตู้เย็น” ที่กลายเป็นเหมือนประตูแห่งเวลา และทำให้เราได้เผชิญหน้ากับอดีตอย่างเจ็บปวดแต่ก็สวยงามไปพร้อมกัน งานศิลป์ของเกมเป็นอีกส่วนที่ชวนให้น่าจดจำมากๆ ตัวงานศิลป์เน้นใช้สีสันจัดจ้าน มีความเป็นนีออนที่ให้ความรู้สึกย้อนยุค กลิ่นอายคล้ายกับความเป็นยุค 2000 ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตจริงๆ สีที่ใช้เล่นกับช่วงของแสงและเงาอย่างมีศิลปะ ทำให้บรรยากาศของเกมดูทั้งเหงา เศร้า และมีเสน่ห์แบบที่หาได้ยากในเกมสั้นๆ นอกจากนี้เสียงประกอบก็ช่วยเพิ่มอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงเปิดตู้เย็นที่เขาทำออกมาได้สมจริงและมีความน่าประทับใจ สามารถกระตุ้นความรู้สึกของการตื่นกลางดึกและความรู้สึกคิดถึงอะไรบางอย่างได้อย่างดี ระบบเกมเพลย์เป็นแบบ Point and Click ที่เรียบง่ายแต่ครีเอทีฟ ผู้เล่นจะได้คลิกเลือกสิ่งของรอบๆ ห้องครัว เพื่อค้นหาความทรงจำ และมีตัวเลือกหลากหลายที่นำไปสู่ฉากจบที่แตกต่างกัน เช่น การเลือกกินสเต็ก หรืออุดง หรือเดินออกจากห้อง การเลือกแต่ละอย่างจะสะท้อนถึงความรู้สึกในขณะนั้นของตัวละครหลัก และเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องไปในทางที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นเกมที่มีความยาวจำกัด (ประมาณ 1000 คำ ตามกฎของ O2A2 Jam) แต่ทุกฉาก ทุกคำพูดในเกมนั้นละเอียดอ่อนและมีความหมาย จนทำให้ผู้เล่นรู้สึกผูกพันกับเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง ในขณะที่เล่นเกมนี้ ความรู้สึกที่ผู้เขียนมีคือความเศร้าและความคิดถึงที่ซ้อนทับกันอย่างลงตัว แม้จะเข้าใจว่าเกมกำลังพูดถึง “ความสูญเสีย” แต่กลับไม่ใช่แค่ความเศร้าอย่างเดียว มีความหวาน ความทรงจำดีๆ ผสมอยู่ด้วย การที่ตัวละครหลักมีโอกาสได้ “เจอกับอดีต” ผ่านเหตุการณ์เหนือจริงที่ไม่เหมือนใคร มันทำให้ผู้เขียนซึมซับความรู้สึกของการติดต่อกับคนที่รักที่ไม่อยู่แล้ว และพยายามจะปล่อยวางอย่างช้าๆ สิ่งที่ชอบมากอีกอย่างคือความครีเอทีฟของชื่อเกม ที่ฟังดูตลกและแปลกประหลาด แต่จริงๆ แล้วลึกซึ้งกว่าที่คิด ความคิดที่จะ “ใส่แฟนเก่าในตู้เย็น” เป็นเหมือนการเก็บรักษาความทรงจำ หรือเก็บอะไรบางอย่างที่รักเอาไว้ใน “ที่เย็น” ที่ไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนผ่านการเก็บรักษาความรักไว้ในหัวใจ แต่ก็มีความเจ็บปวดที่ต้องยอมรับในความจริงของการสูญเสีย หลังจากจบเกม ผู้เขียนรู้สึกอยากให้มีเวอร์ชันเต็มหรือเวอร์ชัน enhanced ที่จะออกตามมาในปีต่อไป เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องราวที่อยากติดตามต่อ และอยากรู้ว่าทีมผู้พัฒนาจะต่อยอดธีมนี้ยังไงอีกบ้าง โดยภาพรวม คิดว่าเกมนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเกมที่เน้นเรื่องราว ความรู้สึก และงานศิลป์ที่โดดเด่น ถ้าคุณเป็นคนที่เคยคิดถึงเพื่อนเก่า หรือเคยมีความทรงจำที่อยากเก็บรักษาไว้ เกมนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นอีกครั้ง แม้จะเป็นเกมที่สั้นและเล่นจบได้เร็ว แต่ความประทับใจและความคิดถึงที่ได้รับมันยิ่งใหญ่และอยู่กับเราได้นาน ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !